โจทย์ที่ยากพอสมควรสำหรับ Startups ที่ประสบความสำเร็จและคิดว่าเอาล่ะ ถึงตอนที่ธุรกิจของเราต้องโตกว่านี้แล้วก็ถึงขั้นตอนของการขยายสายธุรกิจ นั้นก็คือการหาพันธมิตรธุรกิจ(Partner)ที่เข้ากันได้ดี สำหรับเหตุผลสำคัญที่ Startups จำนวนมากเริ่มหาพันธมิตรทางธุรกิจคือการลดค่าใช้จ่าย การร่วมกันคิดสร้างสรรค์ธุรกิจต่างๆ  จะว่าไปก็เหมือนการแต่งงานเลยค่ะก่อนจะคบกันได้ต้องใช้เวลาดูใจกันพอสมควร

คำถามก่อนการเลือกเป็นคู่ค้าทางธุรกิจกับใครสักคน

จำเป็นจริงเหรอที่ธุรกิจของคุณต้องการ partner ?

การลงทุนยังไม่ความเสี่ยงแล้วการเริ่มต้นธุรกิจจะไม่มีความเสี่ยงได้เช่นไร สำรวจตัวคุณเองให้ดีก่อนว่ามีความจำเป็นจริงเหรอที่ธุรกิจของคุณต้องการ Partner บางครั้งการทำงานคนเดียวอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจก็เป็นได้

แน่ใจแล้วเหรอว่า Partner ของคุณนั้นมีฐานะทางการเงินมั่นคงจริง ?

เราแถบไม่ต้องคิดอะไรหากมีคนมาชวนเราไปกิน เที่ยว ปาตี้สนุกสนานเพราะเมื่องานเลี้ยงเลิกลาทุกคนต่างแยกย้ายแต่สำหรับการทำธุรกิจนั้นต้องระวังตัวเองให้ดี ควรตรวจสอบฐานะการเงินของ Partner ของคุณให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนจะเริ่มทำอะไร

แน่ใจแล้วเหรอเป้าหมาย ทัศนคติและค่านิยมของคุณและ Partner ตรงกัน ?

การทำธุรกิจอะไรก็ตามต้องแน่ใจก่อนว่า Partner ของคุณเขามีทัศนคติในการทำงานที่คล้ายคลึงกันกับคุณเพราะหากไม่ตรงกันแล้วละก็รับรองว่าในระยะยาวนั้นไม่ดีแน่นอน การที่ธุรกิจกำลังโตหมายความว่าคุณต้องพร้อมที่จะรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

แน่ใจแล้วเหรอว่าการมี Partner เพื่อมาเสริมศักยภาพการทำธุรกิจให้ดีไม่ได้มาทำลาย ?

อีกหนึ่งเหตุผลที่ดีที่สุดคือการได้ทำงานร่วมกัน "สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว" แต่ทว่าทักษะของคุณและ Partner นั้นหากเหมือนกันก็อาจเป็นผลที่ทำให้เกิดการแข่งขันกันได้ในภายหลังแต่หากต่างกันแบบสุดโต่งก็อาจทำให้การทำงานเป็นไปกันคนละทิศคนละทางดังนั้นจึงควรศึกษากันให้ดีก่อน

แน่ใจแล้วเหรอว่าคุณมีทนายความที่ช่วยแก้ปัญหาได้ ?

การเริ่มธุรกิจขึ้นมาสักธุรกิจ มีเหตุผลร้อยแปดอย่างที่คุณต้องตัดสินใจและบางทีคุณอาจตัดสินใจพลาดในบางสถานการณ์ ดังนั้นนี้เป็นเหตุผลที่คุณควรมีที่ปรึกษาทางกฎหมายก่อนการเริ่มธุรกิจไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเรื่องการคุ้มครองลิขสิทธิ์ เป็นต้น

แน่ใจแล้วเหรอว่าจะสื่อสารกันรู้เรื่อง ?

ณ จุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ใดๆนั้น ช่วงแรกมักหอมหวานเสมอ จงศึกษาแนวธุรกิจของคุณและ Partner ให้ดีรวมทั้งสื่อสารกันให้เข้าใจไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการตกลงของสัญญาหรือผลิตภัณฑ์ที่ออกเพื่อไม่ให้มีการบาดหมางเกิดขึ้น เพราะการละเลยกับสิ่งเล็กน้อยพวกนี้จะนำคุณไปสู่หายนะได้ง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ

แน่ใจแล้วเหรอว่าคุณสามารถปกป้องตัวเองและแบรนด์ได้ ?

การผนึกกำลังทางธุรกิจฟังคำนี้แล้วดูน่าตื่นเต้นใช่ไหมค่ะ ตอนแรกคุณกับเขา อาจเป็น Partner ที่ดีต่อกันแต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปใจคนอาจเปลี่ยนตาม การรักและปกป้องตัวคุณเองไว้ก่อนคือสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ

แน่ใจแล้วเหรอว่าได้ตกลงส่วนแบ่งกันอย่างลงตัว ?

ไม่ใช่ว่าการทำแบบนี้เรียกว่าไม่เชื่อใจกัน แต่ในเมื่ออะไรก็เกิดขึ้นได้ดังนั้นหากมีการรวมตัวกันเกิดขึ้นอย่าลืมที่จะมีทนายความเพื่อตรวจทานข้อตกลงในการทำธุรกิจของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าผลกำไรต่างๆ ที่มีได้มีการแบ่งผลกำไรอย่างลงตัวเรียบร้อยแล้ว

คิดหนักเลยใช่ไหมล่ะคะ ... งานนี้ : )

ที่มา : e27