ตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งกับ LINE ScaleUp 2019 โปรแกรมต่อยอดความสำเร็จ Startup ไทยสู่ระดับยูนิคอร์น โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อยกระดับศักยภาพ Startup ไทยให้ได้รับการยอมรับในระดับโลก มุ่งเน้นการขยายกิจการ อีกทั้งเปิดโอกาสในการรับทุนสนับสนุนจากต่างประเทศ

โครงการ LINE ScaleUp เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2561โดยมีผู้เข้าร่วมสมัคร 50 ราย Startup ที่ LINE ScaleUp ได้ผลักดันจนประสบความสำเร็จได้แก่ กระตุกหัวใจ Virtual Run, Finnomena และ ZmyHome ได้ขยายผลิตภัณฑ์ของตัวเองสู่แพลตฟอร์มของ LINE รวมถึงทำงานร่วมกับ LINE โดยสำหรับโครงการ LINE ScaleUp ในปีนี้ หลังจากประกาศรับสมัครไปตั้งแต่มีนาคม 2562 มีผู้เข้าร่วมสมัครโครงการเกือบ 100 ทีม นับว่ามีผู้สนใจโครงการนี้เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อน แสดงให้เห็นว่า Startup ยังคงให้ความสนใจในเทคโนโลยีของ LINE รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ในด้านธุรกิจที่ LINE สามารถสนับสนุนให้ได้อย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญ ในปีนี้ LINE ยังได้ผนึก LINE Ventures เตรียมอัดฉีดเม็ดเงินสูงสุดถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับ Startup ไทยโดยเฉพาะอีกด้วย!

เพื่อสนับสนุน Startups ไทยให้ก้าวไกลสู่การเป็นยูนิคอร์น โครงการ LINE ScaleUp 2019 สนับสนุนให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ได้รับสิทธิพิเศษ ดังนี้

1. LINE Official Account พร้อมแพคเกจ LINE Messaging API โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มช่องทางการให้บริการ และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าบนแพลตฟอร์มของ LINE
2. ได้รับความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญทั้งด้านเทคนิค ด้านธุรกิจทั้งจาก LINE เองและจากองค์กรภายนอก ทั้งในและต่างประเทศ
3. โอกาสการหาแหล่งเงินทุนจากทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงโอกาสในการนำเสนอผลงานในเวทีระดับนานาชาติ เพื่อช่วยให้ Startup ไทยสามารถเติบโตได้ทั้งในและต่างประเทศ
4. โอกาสที่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกับ LINE และ/หรือ โอกาสที่จะได้รับเงินลงทุนจาก LINE Ventrue สูงสุดถึง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ

คุณเจเดน คัง (Jayden Kang) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร LINE ScaleUp แห่ง LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “LINE ScaleUp เริ่มต้นครั้งแรกในปี 2561 ด้วยเป้าหมายสูงสุดเพื่อยกระดับศักยภาพ Startup ไทยสู่ตลาดระดับสากล โดยในปีแรกมีผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 50 ราย เราได้มอบ LINE Official Account และแพคเกจ LINE Messaging ให้กับเหล่า Startup ที่ผ่านการคัดเลือก พวกเขาจึงสามารถเชื่อมต่อบริการกับแพลตฟอร์มของ LINE ยกระดับธุรกิจตนเองเพื่อให้บริการผู้ใช้งานใน scale ที่กว้างขึ้นมากโดยไม่เสียค่าบริการ”

“ในปีนี้ เราได้เน้นการเทรนด์ทีมที่ผ่านเข้ารอบให้เข้าใจเทคโนโลยี LINE ว่ามีการทำงานอย่างไร โดยจะมีการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น โดยคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการที่เราต้องการคือต้องเป็น Startup ที่มีการเปิดให้บริการหรือเซอร์วิสของตนเองสู่ตลาดเป็นที่เรียบร้อย พร้อมได้รับการยอมรับจากกลุ่มลูกค้า และมีโอกาสที่จะขยายบริการได้ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาธุรกิจบนแพลตฟอร์มของ LINE อย่างจริงจัง”

คุณเจเดน คัง (Jayden Kang) ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร LINE ScaleUp แห่ง LINE ประเทศไทย

โดย 6 ทีมที่ผ่านการนำเสนอผลงานใน LINE ScaleUp 2019 Pitching Day ที่ผ่านมา ได้แก่

Finnomena

Fintech Startup ให้คำแนะนำการลงทุนด้วยเทคโนโลยี Robo-adviser โดยมีเป้าหมายคอยดูแล แนะนำเรื่องการลงทุนสำหรับทุกคนในทุกๆ องศา ฐานผู้ใช้บริการของ Finnomena เติบโตขึ้นมาประมาณ 7 หมื่นคนหรือกว่า 60% ในปีที่ผ่านมานอกจากนี้ นักลงทุนยังได้สร้างแผนการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มนี้กว่า 2 หมื่นแผนการลงทุน อีกทั้งลงทุนจริงในแพลตฟอร์ม Fundsupermart แล้วประมาณ 6 พันล้านบาท

ClaimDi

แอปพลิเคชันเคลมประกันรถยนต์ ที่ช่วยให้คนขับรถสามารถทำเคลมประกันภัยได้โดยไม่ต้องรอพนักงานสำรวจภัยหรือ Surveyor และไม่ต้องเดินทางไปยังศูนย์รายงานอุบัติเหตุอีกต่อไป โดยเมื่อเกิดอุบัติเหตุผู้ใช้งานสามารถใช้ Income Accient Report (Claim Di) ทำการถ่ายภาพ ณ จุดเกิดเหตุแล้วส่งประกัน จากนั้นก็สามารถแยกย้ายกลับบ้านได้ทันที

Gowabi

ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มเป็นสื่อกลางในการจองสปาและบริการเสริมความงามในกรุงเทพฯ โดยมีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าเฉพาะช่วงเวลา ไปจนถึงการให้บริการการจองในช่วงเวลาปกติ นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับสปาและร้านเสริมสวยแล้ว Gowabi ยังได้เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ชและธนาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Rabbit LINE Pay, Lazada, True, Dtac, Krungsri, KTC และ ​Citibank

Choco CRM

ผู้ให้บริการเรื่องระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management - CRM) และ Point-of-Sale (POS) ซึ่งมีฐานลูกค้าผู้ใช้งานครอบคลุมหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านขายของ ร้านเสื้อผ้า และธุรกิจ SME อื่น ๆ ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถเข้าถึงระบบการจัดการดูแลลูกค้าอย่างครอบวงจรทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน

Tellscore

Startup ด้าน Micro-Influencer ให้บริการสร้างแคมเปญออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย โดยเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางระหว่างแบรนด์หรือเอเจนซี่ และ Micro-Influencer แบ่งบริการออกเป็นสองรูปแบบคือ ผู้ใช้สามารถบริหารจัดการสร้างแคมเปญจ้างงาน Influencer ได้ด้วยตนเอง  และให้บริการจัดการแคมเปญการตลาดแบบครบวงจรจากทีมงาน Tellscore

Seekster

ผู้ให้บริการด้านการทำความสะอาด และบำรุงรักษาอสังหาริมทรัพย์ สำหรับบ้าน คอนโด และสำนักงาน โดยมีเครือข่ายผู้ให้บริการราว 10,000 คน และให้บริการลูกค้ามากกว่า 150,000 รายในกรุงเทพฯ ชลบุรี และเชียงใหม่

โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 6 ทีมจะได้เข้าสู่ ScaleUp Camp ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม จากนั้นทาง LINE ScaleUp จะทำการคัดเลือกอีกครั้งเพื่อหาทีมที่ดีที่สุดเพื่อชิงโอกาสในการได้รับการลงทุน หรือการเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในเดือนพฤศจิกายนต่อไป

ในอนาคต LINE จะยังคงผลักดันสนับสนุน Startup ไทย ทั้งในด้านเงินทุนสนับสนุน ที่ต้องการยกระดับหรือช่วย Startup ไทย scale ต่อไปยังเวทีต่างประเทศ เพื่อให้ Startup Ecosystem ของไทยเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน และสามารถก้าวเป็นยูนิคอร์นได้สำเร็จ มาคอยเอาใจช่วย Startup สัญชาติไทยทั้ง 6 ทีมกันว่าพวกเขาจะสามารถเติบโตและไปถึงฝั่งฝันกับการเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทย จากการสนับสนุนจาก LINE ScaleUp ในปีนี้ได้หรือไม่? ต้องติดตาม!

บทความนี้เป็น Advertorial