BEYOND Expo 2024 งานแสดงเทคโนโลยีชั้นนำระดับเอเชีย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22-25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ Venetian Macao ภายใต้ธีม "Embracing the Uncertainties" รวบรวมสุดยอดนวัตกรรมและผู้นำด้านเทคโนโลยี นักลงทุน สตาร์ทอัพ และผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาทั่วโลก มาร่วมกันแลกเปลี่ยนมุมมองและหาทางรับมือกับความไม่แน่นอนทั้งในปัจจุบันและอนาคต

งานนี้จัดเต็มทั้งนวัตกรรมและเวทีเสวนาทุกสเตจ ตั้งแต่ ConsumerTech ClimateTech ไปจนถึง HealthTech แถมยังมีแขกรับเชิญพิเศษอย่าง David Beckham นักฟุตบอลชื่อดังและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Sands Global, Robin Zeng ประธานกรรมการบริษัท CATL และ Jackson Wang ศิลปินระดับโลกและผู้ก่อตั้ง TEAM WANG) 

AI เขย่าทุกวงการ จีนยอมรับยังตามหลังสหรัฐ

Jason Ho ผู้ร่วมก่อตั้ง BEYOND Expo เน้นย้ำถึงความไม่แน่นอนของโลกปัจจุบัน ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และผลกระทบที่เปลี่ยนแปลงไปของ AI ต่ออุตสาหกรรมและแรงงาน แม้จะเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ เขาก็ยังคงมั่นใจว่า ด้วยวิธีคิดที่ถูกต้อง พันธมิตร และ open-platform อย่าง BEYOND จะทำให้ชุมชนสามารถร่วมมือกันรับมือและฝ่าความท้าทายเหล่านี้ไปได้

Liu Qingfeng ประธานบริษัท iFlytek ได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของ AI ว่า ในแง่ความแตกต่างระหว่างอุตสาหกรรม AI ของจีนกับสหรัฐอเมริกา Liu Qingfeng ยอมรับว่าการวิจัยและตลาด AI ของสหรัฐฯ มีความก้าวหน้ามากกว่าของจีนมาก อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าในแง่ของการฝึก AI นั้น จีนตามหลังสหรัฐฯ ราวๆ 6 เดือนเท่านั้น

         จีนตามหลังสหรัฐฯ เพียง 6 เดือนเท่านั้น

เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการจ้างงาน Liu เผยว่า AI ควรพัฒนาควบคู่ไปกับมนุษยชาติ "การพัฒนา AI ควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างโลกที่ดีขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่สร้างการเปลี่ยนแปลง อนาคตเป็นของผู้ที่เชี่ยวชาญด้าน AI ไม่ใช่ของ AI”

ด้าน Xu Bing ผู้ร่วมก่อตั้ง SenseTime ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ AI ชั้นนำในจีน ชี้ว่าความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ความสามารถของหน่วยประมวลผลกราฟิก โดยที่อเมริกานำหน้าจีนในหลายเท่า แต่ก็มั่นใจว่าจีนจะสามารถลดช่องว่างนั้นให้หดแคบลง

“เราอาจตามหลังสหรัฐฯ ในตลาด แต่ข้อได้เปรียบของเราคือสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูง” Xu Bing อธิบายว่าปัจจัยนี้จะเป็นตัวเร่งให้เกิดการพัฒนาความสามารถของ AI แบบก้าวกระโดด

Zhang Wen ซีอีโอของ Biren Technology กล่าวว่า “ช่องว่างด้านความสามารถของ AI ระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะลดลงในระยะยาว” พร้อมเสริมว่าผู้คนกังวล AI พัฒนาเร็วเกินไป แต่เขากลับมองว่ามันช้าเกินไป เมื่อเทียบกับอินเทอร์เน็ตที่ส่งผลกระทบยิ่งใหญ่กว่านั้น “ผมเชื่อว่า AI จะมีผลกระทบมหาศาลต่อมนุษยชาติในอีก 5 ถึง 10 ปีข้างหน้า แต่ในระยะสั้น ผลกระทบจะไม่ชัดเจนนัก”

From Global Warming to Global Boiling : ร่วมมือกันรับมือกับภาวะโลกเดือด

Siddharth Chatterjee ผู้ประสานงานประจำสหประชาชาติในประเทศจีนได้เปิดประเด็นว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศว่า "เราได้เห็นวิกฤตสุขภาพจากการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของสุขภาพมนุษย์และระบบสุขภาพ วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ได้ทำลายชีวิตและความเป็นอยู่"

"สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือการหาพื้นที่สร้างความร่วมมือในระดับพหุภาคี ที่ไม่ใช่แค่ความร่วมมือระหว่างภาครัฐในแต่ละประเทศ แต่ยังรวมถึงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อเร่งความเร็วในเรื่องของการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศ เพราะเห็นได้ชัดว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ 1.5℃ อาจกลายเป็นเป้าหมายที่ไม่สามารถบรรลุได้หากเราไม่ร่วมมือกันจัดการกับมัน"

ด้าน Jon Creyst ซีอีโอบริษัท RMI เน้นย้ำว่า "เราต้องเร่งสร้างนวัตกรรม โดยเฉพาะในภาคส่วนที่ยากต่อการลดปริมาณคาร์บอน เช่น เหล็ก ซีเมนต์ อะลูมิเนียม การขนส่งสินค้าหนัก การเดินเรือ ฯลฯ ไอเดียเหล่านี้จะมาจากทั่วทุกมุมโลก และเราต้องมั่นใจว่ามีความสอดคล้องกันระหว่างทุนเสี่ยง การลงทุนหุ้น และการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคาร เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมเหล่านี้ นอกจากนี้เรายังต้องขยายขนาดโซลูชันที่มีอยู่ นี่คือพื้นที่ที่ต้องการการปฏิรูปอย่างมาก เพื่อให้เราสามารถลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ"

Stepping Beyond the Uncertainties: ก้าวต่อไปในยุคแห่งความผันผวน

Techsauce ได้สัมภาษณ์พิเศษกับ ดร. Liu Gang ผู้ร่วมก่อตั้ง BEYOND Expo เป้าหมายสูงสุดของพวกเขาคือการยกระดับ BEYOND Expo ไปอีกขั้น "ปีนี้เรามีวิทยากรมากมายจากบราซิล ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"

“หลังจากการแพร่ระบาด โควิด-19 หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป ผู้คนกังวลเกี่ยวกับ AI ที่จะส่งผลกระทบต่องาน ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนทึ่ไม่เชื่อในกระแส Hype นี้ ทุกอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในหลายมิติ พวกเขาต้องเรียนรู้ที่จะใช้ AI เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจของตัวเองเสียใหม่"

"เราได้จัดเวที SheTech Summit ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อสะท้อนพลังและบทบาทของผู้หญิงในอุตสาหกรรมเหล่านี้” ถึงจะไม่ใช่เรื่องใหม่ในเวทีระดับโลก แต่ประเด็นนี้ค่อนข้างใหม่ในจีน รวมถึงบางประเทศในเอเชียด้วย ดังนั้นเราจึงอยากเน้นย้ำถึงสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ พลังของผู้หญิง" ดร. Liu Gang เสริม

“เราเห็นความต้องการมากมายเกิดขึ้นทั้งในเอเชีย ไม่ใช่แค่จีน เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น แต่รวมไปถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นตลาดที่ใหญ่และขยับตัวเร็วกว่าด้วย แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีบริษัท DeepTech มากนัก แต่ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีแน่ เช่นเดียวกับจีนเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว”

"ผมหวังว่าเราจะเป็น CES (งานแสดงสินค้าเทคโนโลยี) ได้ เราสามารถเป็นตัวเลือกที่สอง หากคุณสนใจตลาดเอเชีย เรายินดีที่ได้มีวิทยากรที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายอุตสาหกรรม เรามองพวกเขาเป็นผู้ก่อตั้ง แม้ว่าบางคนจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในแวดวงเทคโนโลยี แต่พวกเขาก็เป็นผู้ก่อตั้งในอุตสาหกรรมอื่นๆ เราหวังว่าพวกเขาจะสามารถแบ่งปันประสบการณ์และความรู้ให้กับคอมมูนิตี้นี้ได้ในที่สุด”