หรือ EV คือความหวังเดียวของเศรษฐกิจจีน? | Techsauce

หรือ EV คือความหวังเดียวของเศรษฐกิจจีน?

ใกล้โค้งสุดท้ายของปีแล้ว แต่ภาพรวมของเศรษฐกิจจีนในปีนี้ไม่ค่อยสดใสนัก โดยเฉพาะในสายตาของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ที่คาดหวังว่าจะฟื้นตัวได้ดีกว่านี้ 

บิล วินเทอร์ส ซีอีโอแห่งธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (สแตนชาร์ต) เผยว่าอุตสาหกรรมที่เติบโตได้ดีในปีนี้มีแค่รถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี (EV) รวมถึงเทคโนโลยีด้านพลังงานและความยั่งยืนเท่านั้น

ถ้าย้อนดูข้อมูลปีที่แล้วของบริษัทวิจัย Canalys จะพบว่าจีนเป็นตลาด EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยยอดขาย 5.9 ล้านคัน คิดเป็น 60% ของยอดขาย EV ทั่วโลก ส่วนแบรนด์ EV ที่ได้รับความนิยมในประเทศก็เป็นแบรนด์สัญชาติจีนมากถึง 85% ไม่ว่าจะเป็น BYD (บีวายดี) Wuling (อู่หลิง) Changan (ฉางอาน) Chery (เชอรี่) หรือ GAC (จีเอซี) 

จะเรียกว่าเป็นปีทองก็ไม่ผิด แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ตลาดในจีนเดือด ส่งออกยังทำได้ดี

มาดูตัวเลขที่น่าสนใจในปีนี้กันบ้าง 

ครึ่งแรกของปี 2566 การแข่งขันของตลาด EV ในจีนดุเดือดถึงขีดสุด เพราะมีผู้เล่นในสนามเยอะขึ้นราวๆ 90 แบรนด์ เช่น Tesla Li Auto รวมถึงสตาร์ทอัพอย่าง Nio และ Xpeng ทำให้เกิดสงครามหั่นราคาอย่างบ้าระห่ำ ก่อนจะเซ็นสัญญาสงบศึกในที่สุด

จีนยังทำได้ดีในตลาดต่างประเทศที่มีการแข่งขันสูงเช่นกัน เนื่องจากค่ายผู้ผลิตรายอื่นๆ หันมาโฟกัสกับการลดราคา และลดต้นทุนการผลิต ซึ่งอาจทำให้บางรายลดการลงทุนในเทคโนโลยีของรถไปด้วย ผิดกับแบรนด์จีนที่ต้องแข่งกันลงทุนใน R&D และอัพเดตเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อช่วงชิงลูกค้าอยู่แล้ว

แม้แต่มาโกโตะ อุชิดะ ซีอีโอของ Nissan เคยกล่าวว่าลูกค้าในจีนเซนซิทีฟเรื่องราคาก็จริง แต่ก็ต้องการรถที่มีเทคโนโลยีล่าสุดด้วย เช่น ฮาร์ดแวร์  ซอฟต์แวร์ รวมทั้งระบบผู้ช่วยคนขับระดับ L2 และ L2+

จึงไม่แปลกที่ EV จะถูกคาดหวังว่าเป็น ‘อุตสาหกรรมใหม่’ ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในเวลานี้ ครึ่งแรกของปี 2566 บริษัท EV จีนทำยอดขายในยุโรปได้ 1.5 ล้านคัน และในตลาดเล็กอย่าง SEA อยู่ที่ 75,000 คัน นับว่ายอดขายโตขึ้น (YoY) 38% และ 250% ตามลำดับ 

ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับนโยบายของรัฐบาลแต่ละประเทศที่พยายามดึงให้จีนเข้ามาลงทุนและยังสอดคล้องกับแนวทางการลดพลังงานเชื้อเพลิงมาใช้พลังงานหมุนเวียนแทน ทำให้จีนเจาะตลาดเหล่านี้ได้ไม่ยากนัก

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่ายอดส่งออกของรถยนต์ของจีนจะโตถึง 7.9 ล้านคันในปี 2025 โดยรถยนต์ไฟฟ้าครองสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่ง

อนาคตที่รออยู่

อย่างไรก็ตาม จีนต้องเผชิญกับความท้าทายในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความตึงเครียดจากสงครามทางการค้า การเจาะตลาดโซนยุโรปที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถยนต์สันดาปมานานอย่างเยอรมนีก็ไม่ใช่เรื่องง่าย 

จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่จีนต้องพิสูจน์ทั้งเรื่องความน่าเชื่อถือ คุณภาพ และความปลอดภัยไปพร้อมกัน


อ้างอิง: CNBC, Canalys, Nikkei Asia





ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...