‘ยาดม’ กับ ‘คนไทย’ เป็นของคู่กันมาช้านาน ซึ่งนับเป็นการรักษาโดยใช้สมุนไพรในหมวด Aromatherapy ที่มีอายุยาวนานกว่า 6,000 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากชาวอียิปต์ ที่มักใช้การเผาเครื่องหอมให้มีกลิ่นเพื่อบูชาเทพเจ้า ส่วนในประเทศไทยก็เริ่มมีการใช้ยาดมอย่างแพร่หลายตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 2 

ในปัจจุบันเราจะเห็นไม่ใช่แค่คนแก่ที่ใช้ยาดม แต่วัยหนุ่มสาวหรือแม้แต่วัยรุ่น Gen Z ก็หันมานิยมใช้ยาดมกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ถึงขั้นมีการขายเคสยาดมเพื่อเพิ่มความน่ารักให้กับแพ็กเกจที่ดูโบราณไม่ทันสมัย เรียกได้ว่าตั้งแต่ปี 2023 จนปี 2024 ‘ยาดม’ กลายเป็น Popculture ของกลุ่มวัยรุ่นไทยไปแล้ว

บทความนี้ Techsauce จึงจะพามาดูว่าใน 5 ยาดมยอดนิยม ที่เห็นกันบ่อยๆ ในท้องตลาด ใครจะเป็ด No.1 ที่ทำยอดขายไปได้มากที่สุด!

เทียบ 5 ยาดมไทยยอดนิยม ใครขายดีที่สุด

1. เซียงเพียวอิ๊ว และ Peppermint Field

ยาดมที่เป็นตำนานที่มีสูตรมาเกิน 100 ปี ! เริ่มต้นจากชินแสผู้หนึ่งในซัวเถาค้นพบสรรพคุณทางยาที่อยู่ในใบเป๊ปเปอร์มิ้นท์ จากนั้นได้พัฒนาสูตรยาสมุนไพรที่สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยต่างๆ ได้ 

ในปี 1958 คุณบุญเจือ เอี่ยมพิกุล ลูกศิษย์ของชินแสถัง ได้นำวิชาที่ได้รับมาคิดค้นยาหม่องน้ำ ยี่ห้อ ‘เซียงเพียวอิ๊ว’ ยาหม่องน้ำสมุนไพรที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังพัฒนาไปสู่สินค้าที่เจาะกลุ่มวัยรุ่นอย่าง ‘ Peppermint Field’ ในปี 2005

ยาดมเซียงเพียวอิ๋วและ Peppermint Field มีข้อมูลบริษัทและยอดขาย ดังนี้

• บริษัท: เบอร์แทรม (1958) จำกัด
• ก่อตั้ง: พ.ศ. 2501 (เซียงเพียวอิ๊ว) และ พ.ศ. 2548 (Peppermint Field )
• อายุแบรนด์: 66 ปี
• รายได้รวมทั้งปี พ.ศ. 2566: 1.6 พันล้านบาท (1,610,907,325.50 บาท)  

2. โป๊ยเซียน

คงไม่มีใครไม่รู้จัก โป๊ยเซียน เจ้าของวลี “ยาดมโป๊ยเซียน ใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกัน”  ตำนาน 88 ปีที่ใครเอาไม่ลง ต้นตำรับยาดมสองด้านที่ใช้สูดดมและยังใช้ทาเพื่อบรรเทาอาการต่างๆ ได้ ในปัจจุบันกลายหนึ่งในไอเทมของฝากยอดนิยมสำหรับชาวต่างชาติ ที่ต้องหอบกลับบ้านกันเป็นแผงๆ จากกระแสปากต่อปากและบนโซเชียล บวกด้วยกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ใครๆ ได้ใช้ก็ต้องติดใจ 

ยาดมโป๊ยเซียนมีข้อมูลบริษัทและยอดขาย ดังนี้

• บริษัท: โกลด์ มิ้นท์ โปรดักส์ จำกัด
• ก่อตั้ง: พ.ศ. 2479
• อายุแบรนด์: 88 ปี
• รายได้รวมทั้งปี พ.ศ. 2566: 1.08 พันล้านบาท (1,087,530,702.77 บาท)

3. พาสเทล

ยาดมพาสเทล... ฝาไม่หาย! หอม เย็นแร๊งส์ สดชื่น ยาดมน้องใหม่จากแบรนด์พาสเทล ที่เริ่มต้นขายเคสมือถือเมื่อปี พ.ศ. 2555 ก่อนเปิดตัวยาดมแบบฝาไม่หายในปี พ.ศ. 2564 ที่แก้ปัญหา Pain Point สำรับคนชอบพกยาดมแล้วฝาชอบหาย บวกด้วยดีไซน์ที่สวย สีสันพาสเทลสดใส และยังนำศิลปินดังเช่น แบมแบม Got7 เจมีไนน์-โฟร์ท และ เจมส์ จิรายุ ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ ทำให้กลายเป็นแบรนด์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดและสามารถครองใจคนไทยได้ในระยะเวลาอันสั้น

ยาดมพาสเทลมีข้อมูลบริษัทและยอดขาย ดังนี้

• บริษัท: บริษัท มัลติพลาย บาย เอท (ในเครือคิงพาวเวอร์)
• ก่อตั้ง: พ.ศ. 2555
• อายุแบรนด์: 12 ปี 
• รายได้รวมทั้งปี พ.ศ. 2566:  998 ล้านบาท (998,530,240.00 บาท)

4. หงส์ไทย 

ยาดมที่ลิซ่าใช้ ! กระปุกเขียวนีออนที่มาพร้อมกลิ่นสมุนไพรแบบเข้มข้นถึงใจมี ‘เก่ง-ธีระพงศ์ ระบือธรรม’ เป็นผู้ก่อตั้ง เรียกได้ว่าช่วงปีที่ผ่านมาได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในตอนที่นักร้องสาวระดับโลกอย่างลิซ่า ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BlackPink ออกรายการและเปิดกระเป๋าว่าพกอะไรติดตัวบ้าง หนึ่งในนั้นก็คือ ‘ยาดมหงส์ไทย’ ทำให้ช่วงนั้นสินค้าขาดตลาดมาก 

ยาดมหงส์ไทยมีข้อมูลบริษัทและยอดขาย ดังนี้

• บริษัท: สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด
• ก่อตั้ง: พ.ศ. 2531
• อายุแบรนด์: 36 ปี
• รายได้รวมทั้งปี พ.ศ. 2566: 350 ล้านบาท

5. เฌอเอม

ผลิตภัณฑ์รุ่นลูกของ ‘ยาตราใบโพธิ์’ ยาสมุนไพรไทยแผนโบราณที่มีชื่อเสียงในเรื่องของสรรพคุณการรักษามายาวนานกว่า 100 ปี ยาดมที่มีดีไซน์มินิมอลและดูออแกร์นิกของ คุณอัครพัจน์  ตั้งตรงจิตร ผู้บริหาร ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิสประพัจน์ ซึ่งได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมานานกว่า 20 ปี

ยาดมเฌอเอมมีข้อมูลบริษัทและยอดขาย ดังนี้

• บริษัท: ห้างหุ้นส่วนจำกัด จิสประพัจน์
• ก่อตั้ง: พ.ศ. 2544
• อายุแบรนด์: 23 ปี
• รายได้รวมทั้งปี พ.ศ. 2566: 58 ล้านบาท (58,747,405.14 บาท)

อ้างอิง: bertram1958 datawarehouse(1),(2)