OpenAI เผยสูตรลับถาม ChatGPT ให้ได้คำตอบที่ดีกว่าเดิม | Techsauce

OpenAI เผยสูตรลับถาม ChatGPT ให้ได้คำตอบที่ดีกว่าเดิม

ใครเคยเจอปัญหาถาม ChatGPT แต่ได้คำตอบไม่ครบหรือไม่ตรงกับที่ถามไปบ้าง ?

ไม่ใช่เพราะมันไม่ฉลาด แต่อาจเป็นเพราะเราเอง ‘ตั้งคำถาม’ ไม่ดีพอ ทาง OpenAI จึงได้แจกสูตรถาม ChatGPT ให้ได้คำตอบที่ดีกว่าเดิมและตรงประเด็น รวมถึงครอบคลุมทุกข้อสงสัย มีด้วยกันอยู่ 6 วิธี 

6 เคล็ดลับถาม ChatGPT ให้ได้คำตอบที่ดีกว่า

1. เขียนคำสั่งให้ชัดเจน

ไม่ว่า ChatGPT จะเก่งแค่ไหน แต่ก็อ่านใจคนไม่ได้  เราอยากได้คำตอบแบบไหนก็ควรระบุไปให้ชัดเจน มีความเฉพาะเจาะจง และมีรายละเอียดมากพอ เช่น สไตล์การเขียนที่ต้องการ (งานเขียนวิชาการ, คำแนะนำ ฯลฯ), ความยาวของคำตอบ, หรือแม้เแต่การแบ่งบรรทัดและย่อหน้า

ทาง OpenAI เน้นย้ำว่า ยิ่งคำสั่งชัดเจนและละเอียดมากเท่าไร ChatGPT ก็จะเข้าใจและตอบตรงตามในสิ่งที่คุณต้องการมากขึ้นเท่านั้น คุณภาพของชุดคำสั่งจึงสำคัญต่อการได้คำตอบที่ดี เพราะเป็นตัวกำหนดตัวบริบทและขอบเขตของคำตอบ

2. มีคำตอบหรืออ้างอิงจากแหล่งอื่นร่วมด้วย

การเขียน prompt ที่ดี นอกจากเขียนให้เข้าใจง่ายและตรงประเด็นแล้ว ชุดคำสั่งควรมีข้อมูลที่อ้างอิงจากแหล่งอื่นประกอบด้วย จะทำให้คำตอบที่ได้มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ไม่ใช่มาจาก ChatGPT อย่างเดียว

3. ย่อยคำสั่งออกมาทีละส่วน

การย่อยคำสั่งออกมาทีละส่วน หมายถึง การถามคำถามที่ไม่ซับซ้อนเกินไป เช่น การถามทีละคำถามตามวัตถุประสงค์และลำดับความสำคัญ ไม่เช่นนั้น ChatGPT จะตัดสินใจเองว่าส่วนใดมีความสำคัญ และอาจส่งผลให้มันตอบในสิ่งที่เราไม่ต้องการมากกว่าสิ่งที่ต้องการ

4. ให้เวลามันหาคำตอบ

การตั้งคำสั่งที่ยุ่งยากก็ควรให้เวลาหาคำตอบด้วยเช่นกัน อย่าเพิ่งรีบด่วนสรุป ควรวิเคราะห์คำตอบร่วมเองด้วย สามารถถามย้ำเพื่อเช็คคำตอบอีกครั้งได้เพื่อป้องกันความผิดพลาดและได้คำตอบที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5. การใช้เครื่องมืออื่น ๆ เข้ามาช่วย

การเขียนคำสั่ง prompt เราสามารถเพิ่มตัวเลือกให้กับโมเดลได้ โดยใช้เครื่องมือภายนอกเป็นตัวช่วยให้ได้คำตอบที่หลากหลายเพิ่มความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น การใช้ Code Interpreter การอัปโหลดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถิติและตัวเลข สามารถช่วยเรื่องเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ และการใช้โค้ด เป็นต้น

6. การทดสอบและวัดผลคำตอบ

การทดสอบและวัดผลคำตอบเพื่อปรับปรุงแก้ไขจะได้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยวัดผลจากการทำ A/B Test ของชุดคำสั่ง เช่น คำสั่งแรกถามโดยไม่ใช้ข้อมูลอ้างอิง แต่คำถามที่ 2 ใช้ข้อมูลอ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือมาเทียบกัน 

จากนั้นลองตรวจสอบว่าคำตอบจากชุดคำสั่งไหนมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน วิธีนี้จะช่วยให้ได้คำตอบที่ถูกต้องและครอบคลุมที่สุด

อ้างอิง: forbes

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ยิบอินซอย ทำอย่างไรถึงเป็นบริษัทไอทีที่อยู่มาเกือบ 100 ปี กับเป้าหมายใหม่โตต่อเนื่องไปอีกศตวรรษ

‘ยิบอินซอย’ (Yip In Tsoi) ชื่อของบริษัทเก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมากว่า 100 ปี ทำมาหลายอย่างหลายอุตสาหกรรมจนทำให้คนอาจรู้จักกันไปในคนละมุม แต่แท้จริงแล้ว ยิบอินซอย ถือเป็น ‘บริษัทไอที...

Responsive image

KBTG Kampus ผนึก ลาดกระบัง ธรรมศาสตร์ มหิดล ดีไซน์ 3 หลักสูตร ป.โท สร้าง Tech Talent เก่งเชิงลึก

สำรวจหลักสูตร ป.โท Co-Master's Degree ที่ KBTG Kampus ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง, มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดสอน มีสาขาวิชาอะไรให้เรี...

Responsive image

Ingram Micro ร่วมกับ Microsoft นำเสนอ ‘CAN Innovation’ ผู้ช่วย SMEs และองค์กร เก็บ Data ครบทุกการขาย ควบคุมได้ตลอดการกระจายสินค้า

Ingram Micro ร่วมกับ Microsoft นำเสนอ CAN Innovation ผู้ช่วยให้ธุรกิจของคุณทำงานได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเครื่องมือจัดการงานขายที่ครบครัน ช่วยให้คุณลดต้นทุน เพิ่มยอดข...