จากบทความครั้งก่อนที่นำเสนอ Startup ที่เข้าร่วมโครงการ Singtel Group-Samsung Regional Mobile App Challenge นอกจากทีม Socialgiver และ FlowAccount แล้วนั้น ยังมี Startup อีก 2 บริษัท ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ AIS The StartUp และปัจจุบันธุรกิจอยู่ในช่วงระยะเวลาของการเพิ่มตลาด ขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ หรือที่เราเรียกว่า startup ที่อยู่ในช่วงของ Scaling อย่าง StockRadars และ Digio ได้รับการสนับสนุนค่าเดินทาง และ ค่าที่พักจาก AIS The StartUp ให้เดินทางไปยังเมืองจาการ์ต้าด้วยเพื่อนำเสนอผลงานให้กับผู้บริหารสายพัฒนาผลิตภัณฑ์จาก operator ชั้นนำทั่วโลก ทั้งจากทวีปยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย และ อื่นๆ เรามีโอกาสได้พูดคุยกับผู้ก่อตั้งทั้ง 2 บริษัท และมีข้อมูลเชิงลึกหลายอย่างที่น่าสนใจมาแชร์ให้กับเพื่อนๆ Startup ไทย รวมถึงผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้กับ Head of AIS The StartUp ดร.ศรีหทัย พราหมณี

ต่อเนื่องจากบทความก่อน ทราบว่าในงาน Singtel Group-Samsung Regional Mobile App Challenge ยังมีเวทีให้ startup ที่พร้อม scale ด้วย รายละเอียดเป็นอย่างไร

ดร. ศรีหทัย: สำหรับ AIS the StartUp เราเปิดโอกาสให้ตั้งแต่ startups ในช่วงแรกเริ่มไปจนถึง startups ที่พร้อมจะขยายตลาดออกนอกประเทศ เรามี การประชุมประจำทุกๆครึ่งปีภายใต้ชื่อ Singtel Group Product Head Meeting ซึ่งหนึ่งใน agenda การประชุม คือการเปิดโอกาสให้ startups ได้เอาผลงานเข้ามานำเสนอต่อ product head ของทุก operator ครั้งนี้เริ่มมองว่า startups ของ AIS The StartUp Singtel group หลายตัวอยู่ในขั้นตอนที่พร้อมจะ implement ในต่างประเทศได้เลย จึงเป็นครั้งแรก ที่เราเริ่มสนับสนุนให้ startup ของเราได้มีโอกาสแสดงผลงานในการประชุมครั้งนี้ ถ้าถามว่าต่างกับการนำเสนองานทั่วไปอย่างไร ข้อแรกเลย คนที่อยู่ในห้องประชุมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ มีอำนาจตัดสินใจได้เลยว่าต้องการนำผลิตภัณฑ์ใดมาต่อยอด ส่วนข้อที่ 2 เกณฑ์การพิจารณาจะดูเรื่องการเข้าถึงตลาดขายได้จริงๆ ไม่ใช่เป็นแค่เวทีการแข่งขันที่เพียงแค่ให้เงินรางวัล

ผลลัพธ์ที่เราคาดหวังจากการประชุมนี้ ก็คืออย่างน้อยๆ 2 ทีมของเราที่ได้นำเสนองานไป จะมี operator ภายใต้กลุ่มของเรา แสดงความสนใจที่อยากจะร่วมงานด้วยต่อไป ซึ่ง 2 ทีมของเราก็มี operator มากกว่า 1 ที่ สนใจที่จะเอาผลิตภัณฑ์ไปพัฒนาต่อ

มี startup รายอื่นๆจากที่ไหน ที่น่าสนใจบ้าง

ดร. ศรีหทัย : ครั้งนี้มี บริษัทที่เข้ามานำเสนองานประมาณ 6 - 7 ราย จริงๆ แล้วเราสนใจพวกเขาทั้งหมด เพราะทุกบริษัทที่เข้ามาจะได้รับการพัฒนาและทดสอบจริงกันในตลาดของแต่ประเทศของเขาเองแล้ว และตอนนี้จะพัฒนาออกไปประเทศอื่นๆ ส่วนผลิตภัณฑ์ไหนที่เรามองว่าน่าสนใจ และจะนำมาพาร์ทเนอร์นั้นขอเป็นความลับก่อนนะคะ แต่บอกได้คร่าวๆ ว่าอยู่ในส่วนของ e-commerce พวกเขาได้เปิดตัวในประเทศอย่างมาเลเซีย อินโดนีเซียและสิงคโปร์ แต่ปัญหาที่ทำให้เขายังไม่สามารถเข้ามาในตลาดไทยได้ก็คือเรื่องของภาษา เพราะฉะนั้น AIS สามารถช่วยเขาในจุดนี้ได้

จุดเด่นของ Digio และ StockRadars ในมุมของ operator

ดร. ศรีหทัย : ทางเรามองหา startups ที่จะนำเสนอแล้วเป็นประโยชน์ให้แก่ทั้งฝ่าย operator และ startups หมายความว่า เมื่อการนำเสนองานเสร็จแล้ว operator ชอบ สามารถเริ่มการทำงานได้เลย ส่วนตัวของ startups เองก็ได้ประโยชน์ในเรื่องของการ scale และสร้างธุรกิจในประเทศอื่นๆ

ในส่วนของ StockRadars เรามี proven record ที่เคยร่วมงานกับ AIS มาแล้ว ทำให้ operator ค่ายอื่นๆสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้เหมือนกัน อีกอย่าง Stockradars ก็มี Country Manager อยู่ที่อินโดนีเซียด้วย ทำให้พร้อมที่จะขยายอย่างน้อยๆ ก็ที่ อินโดนีเซีย

เมื่อมาดู Digio เขาเป็นผู้นำด้าน mPos ของไทย ทำให้บริษัทพร้อมที่จะขยายไปในต่างประเทศ แต่การจะขยายไปต่างประเทศคนเดียวเป็นเรื่องยาก จึงจำเป็นต้องมองหาพันธมิตร ในขณะเดียวกันเรื่องของ payment ก็เป็นอะไรที่ operator หลายๆ เจ้าให้ความสนใจ ดังนั้นเลยเหมือนเป็นการจับคู่ที่ดี ที่ทำให้เราเลือก 2 ทีมนี้

จากช่วงนำเสนองาน ได้รับ feedback อย่างไรบ้าง (digio, stockradars)

นพพร ด่านชัยนาม (CEO - Digio) : เนื่องจากธุรกิจของเราเป็นแบบ B2B ก็คือ solution สำหรับบริษัทต่างๆ แล้วก็เกี่ยวกับด้านการเงิน สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการ เรื่องการเงินอาจเป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจ ในเรื่องของโครงสร้างและกระบวนการ สิ่งที่เราได้รับคำแนะนำก็คือ เราควรดูผู้ฟังของเราก่อนว่า พวกเขาอยู่ในจุดที่เข้าใจร่วมกันหรือเปล่า เวลาที่พวกเราไปในระดับภูมิภาค ก็จะปรับเนื้อหาให้เหมาะสม

ธีระชาติ ก่อตระกูล (CEO - StockRadars) : มีอยู่ 2 - 3 ประเทศที่ค่อนข้างสนใจในผลิตภัณฑ์ของเรานะครับ ประเทศแรกก็จะเป็นฟิลิปปินส์ ซึ่งพวกเขาสนใจในตัว analytic ของ StockRadars เหตุผลเพราะเป็นแอปฯ ใหม่ที่ยังไม่มีใครทำมาก่อนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอปฯ StockRadars ทำให้ trader ในประเทศไทย ดูหุ้นได้ง่ายขึ้น ทำให้เรารู้ถึงพฤติกรรม และสามารถเลือกได้ว่าจะเล่นตัวไหนดี พวกเขามองว่าถ้า StockRadars เข้าไปในประเทศเขา คงจะทำให้ตลาดบูมขึ้นมาก นอกจากฟิลิปปินส์ ก็ยังมีสิงคโปร์และอังกฤษที่ให้ความสนใจอีกด้วย อีกอย่างคือ เวลา StockRadars ขยายไปสู่ต่างประเทศ เราจะมีการปรับเปลี่ยนภาษาให้เข้ากับแต่ละประเทศ ทำให้เราสามารถเจาะตลาด retail ได้เยอะ

คำแนะนำสำหรับ startup ที่ควรต้องรู้ และเตรียมตัวสู่ต่างประเทศ

ธีระชาติ ก่อตระกูล: ถ้าเกิดว่า product market ของเราเริ่มเข้าที่ แสดงว่าเราเริ่มจะเข้าใกล้ฝันเข้าไปทุกที เมื่อเราสร้างซอฟต์แวร์เสร็จแล้ว เราก็อยากจะเอาไปขายข้างนอก เพราะมัน scale ได้มากกว่า และวิธีที่ง่ายที่สุดในการออกไปสำรวจก็คือ หาคนที่อยู่ในประเทศที่เราจะไป เพื่อพูดคุยกับเขาว่า landscape เป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมเป็นแบบไหน และเทียบดูกับโอกาสต่างๆ ระหว่าง ตลาดแรกและตลาดที่สอง

อย่างในกรณีของ StockRadars เราจำเป็นต้องมี proven record เพราะสิ่งที่เราทำอยู่มันคือเรื่องของความเชื่อถือ ถ้าเราจะ scale ไปต่างประเทศ เราจำเป็นต้องมีความน่าเชื่อถือ และประสบความสำเร็จก่อนส่วนหนึ่ง และเราควรจะมีคนของเราไปประจำอยู่ในต่างประเทศด้วย เพราะเขาจะสามารถบอกได้ว่าควรจะไปในทิศทางไหน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ ยังไงซะคนเราก็ต้องมีการพูดคุยและเจอกันแบบปกติ ไม่ใช่คุยกันแต่ในจอ

นพพร ด่านชัยนาม: ในธุรกิจที่ผมทำเป็น B2B คนที่เราคุยด้วยอาจจะไม่ใช่ผู้ใช้งานเสมอไป มันเปรียบเสมือนการหาหุ้นส่วนมากกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากเพราะ เราไม่รู้ว่าเขาจะใช่สำหรับเราไหม มันก็ต้องใช้เวลาและเงินในจุดนี้ ผมแนะนำว่าต้องมีความใจเย็น เพราะการเลือกหุ้นส่วนก็สามารถตัดสินได้ว่าคุณจะเกิดหรือไม่เกิด มีผลกระทบมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ อีกอย่าง คุณควรจะต้องมี proven record เป็นสิ่งที่จะเอาไปแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จคุณ เวลา scale ไปต่างประเทศ พวกเขาถึงจะเชื่อและอยากจะลงทุนหรือทำงานร่วมกับคุณ

แผนพัฒนาผลักดัน startup ทั้ง 2 หลังจากโครงการนี้

ดร. ศรีหทัย : สำหรับ 2 ทีมนี้ ทางเรามองไว้ที่การขยายตลาดออกนอกประเทศ แบ่งเป็น 2 ส่วน ในจุดแรกคือช่วยเขาในเรื่องการ follow up คือการไปช่วยพูดคุยกับ operator ต่างๆ การจะขยายไปต่างประเทศนอกจาก connection แล้ว ยังต้องมีความรู้เพิ่มต่างๆ เช่น insight market ก่อนจะไปเริ่มทำจริงๆ ซึ่งในจุดนี้เราจะช่วยรวบรวมข้อมูลให้ด้วย

ถ้าใครสนใจจะเข้าร่วม AIS the Startup จะเปิดรับอีกทีเมื่อไหร่

จริงๆ แล้วเราก็ยังเปิดรับอยู่เรื่อยๆ โดยช่องทางการรับเรื่องของเราก็ยังคงเป็น Facebook AIS The Startup หลายๆ คนก็ยังเสนองานเข้ามาเรื่อยๆ อยู่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของการส่งงานผ่านทางเว็บไซต์ คงต้องขอให้ติดตามกันอีกที

บทความนี้เป็น Advertorial