สมมุติว่าวิกฤตไวรัสโควิด-19 ยังคงระบาดต่อเนื่อง 2-3 ระลอก หรือ มีการระบาดเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งกินระยะเวลายาวนานออกไปแบบไม่มีกำหนด ด้วยตัวเลขยอดรวมของโลกที่ยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มที่ยังคงสูงขึ้นทุกวัน ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปควรต้องรู้ และวางแผนบริหารจัดการการเงินอย่างไร ให้อยู่รอด รู้จักตัวเองและตั้งเป้าหมาย  โดย “เป้าหมาย” ในการลงทุนของเราคืออะไร มีงบประมาณเท่าไหร่ในการลงทุน แล้วอยากได้ผลลัพธ์อย่างไร และคำถามที่สำคัญเลยก็คือ เราสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน? แล้วคำถามเหล่านี้เราสามารถหาคำตอบได้จากที่ไหน หรือการลงทุนแบบไหนจะเหมาะกับเรา 

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) หรือ NIA จึงมี 4 Startups ไทยด้านการลงทุน และผู้ที่ให้คำปรึกษาในด้านการลงทุนด้านธุรกิจ Startups มาแนะนำ สำหรับผู้ที่คิดอยากจะลงทุนไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ตาม เราควรเข้าใจและมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวข้องกับการลงทุนนั้นๆด้วย เพราะทุกการลงทุนมีความเสี่ยงสามารถผันผวนได้ โดยเริ่มวิเคราะห์ภาพรวมเศรษฐกิจ มาอุตสาหกรรม และสุดท้ายเรามาเลือกสินทรัพย์หรือหลักทรัพย์ที่ควรลงทุนได้อย่างปลอดภัย

Jitta Wealth - Global ETF (Private Fund)

กองทุนส่วนบุคคล Global ETF ที่สามารถพานักลงทุนคว้าโอกาสสร้างผล ตอบแทนคาดหวังเฉลี่ย 4-8% จากสินทรัพย์คุณภาพดีทั่วโลก ในความเสี่ยงต่ำ โดยจัดสรรสินทรัพย์ตามทฤษฎีรางวัลโนเบล ลงทุนในตราสารหนี้และหุ้น ผ่าน ETF ในสหรัฐฯ และดูแลปรับพอร์ตอัตโนมัติด้วยเทคโนโลยีเฉพาะตัว

จุดเด่นของ Platform นี้

• เป็น Startup WealthTech แห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตบริหารกองทุน ส่วนบุคคลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) 
• ช่วยบริหารจัดการความมั่งคั่งให้นักลงทุนรายย่อยด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติ (automated investing) ที่สามารถจัดสรรเงินลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก บริหารจัดการพอร์ตอย่างมีวินัยตามหลักการ 
• เป็น Plartform ด้านการลงทุนที่ได้รับการยอมรับระดับสากล และเรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่ำ เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปสามารถ ลงทุนได้อย่างถูกต้อง สร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างยั่งยืน และมีเวลาไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เต็มที่

ช่วยแก้ Pain Point หรือมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร?

• เริ่มต้นเพียง 100,000 บาท ก็ลงทุนทั่วโลกได้ ซึ่งปกติแล้ว หากต้องการจัดพอร์ตลงทุนทั่วโลก อย่างที่ Global ETF ทำให้ ก็อาจจะต้องใช้เงินหลักสิบล้าน
• ไม่ต้องลงทุนเก่ง ก็มีพอร์ตลงทุนที่เติบโตเฉลี่ย 4-8% ต่อปีได้
• ไม่มีเวลาดูแลพอร์ต ก็วางใจเทคโนโลยีช่วยบริหารจัดการให้อัตโนมัติได้ ได้เงินปันผลมาก็ไปลงทุนต่อให้อัตโนมัติ พร้อมคอยมอนิเตอร์ปรับพอร์ตให้ตามความเหมาะสม แค่ใส่เงินมา แล้วก็ออกไปใช้ชีวิตให้สบายใจ
• ไม่ต้องกลัวพอร์ตผันผวนเยอะเกินไป เพราะเลือกแผนการลงทุนที่ระดับความเสี่ยงเหมาะกับตนเองได้

STOCKRADARS

แพลตฟอร์มวิเคราะห์และซื้อขายหลักทรัพย์ฝีมือคนไทย StockRadars  มีเป้าหมายเพื่อสร้างเครื่องมือด้านการลงทุนที่ทำให้คนทั่วไปสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ง่ายและสะดวกขึ้น พร้อมช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน 

จุดเด่นของ Platform นี้

• เป็นแอปพลิเคชัน StockRadars ได้รับรางวัลซอฟต์แวร์ชนะเลิศ ด้านการเงินในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก APICTA 
• ปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดกว่า 930,000 ครั้ง รวมทั้งได้รับการร่วมลงทุนจากกองทุนต่างชาติ https://stockradars.co/ 

ช่วยแก้ Pain Point หรือมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร?

• เป็นแอปพลิเคชันที่เกิดจากความต้องการของนักลงทุน โดยเหมาะกับนักลงทุนมากมายได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาที่ต้องประสบหลายๆอย่าง เช่น ไม่รู้จะตัดสินใจซื้อหุ้นตัวไหน เมื่อไหร่ ไม่มีเวลาดูตลาดตลอดเวลา หรือต้องเข้าเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลตลาดอย่างเป็นทางการมากๆ 
• แอปฯนี้มีการออกเเบบที่ทำให้การลงทุนง่ายขึ้นและสามารถดูผลได้ง่ายเข้าใจได้ไม่ยาก โดยรูปแบบจะเป็นเหมือนเรดาร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวต่างๆของหุ้น และด้วยการนำเสนอ ข้อมูลในรูปแบบที่สวยงามและเข้าใจง่าย ทำให้นักลงทุนเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพื่อให้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของตลาดอย่างแน่นอน

SmartContract Blockchain Studio 

เป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยี Blockchain สำหรับ Enterprise, Fintech และ Healthcare ในประเทศไทยและเอเชีย เราให้บริการให้คำปรึกษาและพัฒนาระบบ Blockchain ให้กับหน่วยงานเอกชนและภาครัฐชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ 

จุดเด่นของ Platform นี้

SmartContract Thailand เป็นผู้ให้บริการ Smart Contract บน Blockchain ที่นำเอาความสามารถในการบันทึกข้อมูลที่น่าเชื่อถือและโปร่งใสตรวจสอบได้ของ Blockchain และคุณสมบัติการบังคับใช้สัญญาโดยอัตโนมัติของ Smart Contract มาพัฒนาเป็นระบบการทำธุรกรรมแบบอัตโนมัติที่น่าเชื่อถือและมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย เพิ่มความคล่องตัวทางธุรกิจ และลดต้นทุนการให้บริการทางการเงินของธนาคาร สถาบันทางการเงิน อีคอมเมิร์ซ บริษัทประกัน รวมไปถึงธุรกิจด้าน FinTech และ InsureTech

ช่วยแก้ Pain Point หรือมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร?

ก่อนนี้การพัฒนาระบบ blockchain หรือ digital token จะใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 4 เดือนในการพัฒนาระบบ และต้องมีงบลงทุนเริ่มต้นสูง ระบบ blockchain และ digital asset as a service ของ SmartContract Blockchain Studio ช่วยให้ลดระยะเวลาลงเหลือเพียง 2 สัปดาห์ และสามารถเปลี่ยนจากงบลงทุนที่สูงมาก เป็นค่าใช้ระบบรายเดือนตามที่ใช้งานจริงได้

2Exit

เป็น Platform ด้านการเป็นที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ที่จะให้คำแนะนำแก่ผู้ที่สนใจเริ่มต้นทำธุรกิจ Startup ที่มีไอเดียเหลือล้น และกำลังมองทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาที่หลากหลาย ทั้งการทำธุรกิจ กฎหมายในการทำธุรกิจ กฎระเบียบข้อบังคับ ด้านการเงินและการลงทุน 

ช่วยแก้ Pain Point หรือมีประโยชน์ในชีวิตประจำวันอย่างไร?

ช่วยให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแก่ Startups ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท การสร้างแบรนด์ การจับคู่นักลงทุน การให้คำปรึกษาด้านการเงิน การระดมทุนจากนักลงทุนเพื่อความร่วมมือทางธุรกิจ  ตลอดจนการเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุน รวมถึงการหา Startups ใหม่ๆ ที่น่าลงทุน และการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของธุรกิจ ด้วยความเชี่ยวชาญและความรู้ในระบบนิเวศของธุรกิจ Startups ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

ติดตาม Startups ไทยที่มีโซลูชั่นและบริการดีๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับ Startups ไทย ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA  และข้อมูลข่าวสาร ได้ที่ FB Page: Startup Thailand และ FB Group: Startup Thailand Marketplace

บทความนี้เป็น Advertorial