รพ.ตำรวจจับมือกสิกรไทย เปิดตัวแอป POLICE PLUS เข้าถึงบริการตั้งแต่เช็กสิทธิการรักษาจนถึงการชำระเงิน | Techsauce

รพ.ตำรวจจับมือกสิกรไทย เปิดตัวแอป POLICE PLUS เข้าถึงบริการตั้งแต่เช็กสิทธิการรักษาจนถึงการชำระเงิน

ปัจจุบัน ดิจิทัล เทคโนโลยี ถูกนำมาใช้กับการพัฒนาบริการต่าง ๆ ในภาคสาธารณสุขของประเทศไทย การให้บริการของโรงพยาบาลรัฐก็ได้นำดิจิทัล เทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มศักยภาพกระบวนการทำงานภายในโรงพยาบาลให้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น เสริมคุณภาพการให้บริการ และการตรวจรักษา ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อทำให้การให้บริการต่าง ๆ สะดวก รวดเร็วและทั่วถึง

POLICE PLUS

รู้จักแอป POLICE PLUS หาหมอรพ.ตำรวจ สะดวก ง่าย จบครบในแอปเดียว

วันนี้ Techsauce ขอแนะนำให้รู้จักกับแอปพลิเคชัน POLICE PLUS แอปที่รวมทุกบริการของโรงพยาบาลตำรวจไว้ในแอปเดียว โดยเป็นแอปพลิเคชันที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลตำรวจและธนาคารกสิกรไทย โดยธนาคารกสิกรไทยได้นำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาและยกระดับบริการสุขภาพให้ประชาชน รองรับความต้องการผู้ใช้บริการกว่า 450,000  รายต่อปี นอกจากช่วยให้ประชาชนที่มารับบริการสะดวกมากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้การบริหารจัดการของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานของบุคลากรทางแพทย์ด้วย

แอปพลิเคชัน POLICE PLUS มีฟีเจอร์ใช้งานที่ทั้งสะดวก ง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานยุคใหม่  โดยผู้ใช้งานสามารถรับบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอปฯ ทันที เช่น บริการนัดหมาย - กดรหัสรับบริการวันที่มีนัดหมอ - ตรวจสอบสิทธิ สปสช. – จ่ายเงิน – พบหมอออนไลน์ตามแพทย์นัด เป็นต้น ช่วยลดความแออัด ลดระยะเวลารอคอยของผู้ใช้บริการ และลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมต่อยอดบริการใหม่ด้านส่งเสริมการดูแลสุขภาพในอนาคต เช่น Telemedicine 

ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน POLICE PLUS ถูกพัฒนาจาก 3 แกนหลักที่เป็นพื้นฐาน เพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ได้แก่

  • ใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ : มีการวางโครงสร้างการเชื่อมต่อข้อมูลจากฐานข้อมูลกลางของโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) มาแสดงที่แอปพลิเคชัน เพื่อให้แสดงผลได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ช่วยลดขั้นตอนและเวลาทำงาน ทำให้บุคลากรปฏิบัติงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งมอบบริการที่ดีให้กับประชาชนได้ 
  • ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งาน : ด้วยแอปพลิเคชันที่ใช้งานที่ง่าย รวดเร็ว สามารถรับบริการได้หลากหลาย และได้จากทั้งในและนอกสถานที่ของโรงพยาบาล ทำให้ผู้รับบริการจะได้ประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น การมาพบแพทย์จะไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป 
  • ชำระเงินง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล : มีการเชื่อมโยงระบบชำระเงินและบริการทางการเงินต่าง ๆ โดยในอนาคตจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น  ทำให้ผู้ใช้บริการของโรงพยาบาลตำรวจ ได้รับบริการด้านสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว และช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางการแพทย์

ความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลตำรวจ และธนาคารกสิกรไทย สู่การพัฒนาโรงพยาบาลอัจฉริยะ 

พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า “ความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย เป็นโครงการสำคัญในการผลักดันโรงพยาบาลตำรวจสู่การเป็นสถาบันการแพทย์ตำรวจที่ให้บริการดูแลรักษาสุขภาวะของประชาชนที่มาใช้บริการได้อย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ” 

ด้านของ นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย มีความตั้งใจที่จะนำความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลเทคโนโลยีและการพัฒนาแพลตฟอร์ม เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ให้กับหน่วยงานต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมกับโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่หลายแห่งอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาระบบบริการดิจิทัลและแอปพลิเคชัน  เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ ลดข้อจำกัดในระบบการดูแลสุขภาพในช่วงที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมถึงการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ยังเป็นเทคโนโลยีที่เอื้อให้เกิดการต่อยอดด้วยบริการใหม่ ๆ ได้อีกในอนาคต เพื่อนำการแพทย์วิถีใหม่มาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนในระยะยาว สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของธนาคารกสิกรไทยในการร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืน

9 ฟีเจอร์ในแอปที่จะช่วยให้การไปหาหมอ เป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม

9 บริการในแอปพลิเคชัน POLICE PLUS ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้มาใช้บริการของโรงพยาบาลตำรวจ ได้แก่

1.บริการตรวจสอบสิทธิการรักษา เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้ผู้ป่วยสามารถเช็กสิทธิรักษาพยาบาล 3 กองทุน ทั้งบัตรทอง ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ

2. บริการนัดหมาย สามารถทำนัดหมาย แสดงข้อมูลรายการนัดหมาย พร้อมแสดงรายการนัดหมายของวันปัจจุบัน ส่งข้อความแจ้งเตือน เพื่อกดรหัสรับบริการในแอปจากที่บ้านหรือที่อื่นก่อนมาถึงโรงพยาบาล ทำให้ประหยัดเวลา ไม่ต้องไปนั่งรอ

3. บริการตรวจสอบลำดับการรับบริการ แสดงลำดับการรับบริการ ให้รู้ลำดับการเข้ารับบริการและขั้นตอนการใช้บริการแต่ละคลินิกได้จากทุกที่ แม้ไม่ได้อยู่หน้าห้องตรวจ

4. บริการชำระเงิน ไม่ต้องเสียเวลาต่อแถว เดินหาตู้ ATM เพราะคุณสามารถชำระเงินทั้งผ่านแอป K PLUS  การสแกน Thai QR Code, บัตรเครดิต และบัตรเดบิต ได้ทันที แถมช่วยลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรค

5. บริการลงทะเบียนตรวจรักษา สามารถขอรับการตรวจกรณีไม่มีการนัดหมายได้ เพื่อที่จะสามารถเข้ารับการรักษาในระบบได้อย่างถูกต้องต่อไป

6. ตรวจรักษาออนไลน์ เป็นรักษาผ่านทางระบบออนไลน์ตามแพทย์นัด (Telemedicine) ผ่านระบบ Video Conference เหมาะกับคนไข้ที่มารับการรักษาแล้ว ต้องติดตามโรคหรือบางโรคที่ไม่ต้องพบแพทย์ และสะดวกมากกว่าเดิม เพราะสามารถจ่ายค่ารักษาผ่านแอปฯ รวมถึงมีบริการจัดส่งยาทางไปรษณีย์

7. บริจาคเงิน อำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสงค์บริจาคเงินสมทบแก่โรงพยาบาลในการช่วยเหลือ พัฒนา และปรับปรุงในด้านต่าง ๆ ต่อไป

8. ข้อมูลข่าวสาร ติดตามข้อมูลข่าวสารของโรงพยาบาล และข้อมูลด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

9. ข้อมูลแผนที่ แสดงแผนที่ตั้งอาคาร คลินิก ศูนย์อาหาร ร้านค้า ในโรงพยาบาลต่าง ๆ 

สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน POLICE PLUS ได้แล้วตั้งแต่วันนี้  เพียงพิมพ์ POLICE PLUS ใน App Store หรือ Google Play  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-207-6000

หมายเหตุ : สำหรับการใช้งานครั้งแรก ต้องนำบัตรประชาชนไปลงทะเบียน ณ ห้องเวชระเบียน ช่อง 9 และ 10 อาคาร มภร. ในวันและเวลาราชการ 

บทความนี้เป็น Advertorial 

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Intel พลาดอะไรไป ? ทำไมถึงต้องเปลี่ยน CEO กะทันหัน ? ถอดบทเรียนราคาแพงจากยุค Pat Gensinger

การ ‘เกษียณ’ อย่างกะทันหันของ Pat Gelsinger อดีตซีอีโอ Intel ในต้นเดือนธันวาคม สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ววงการเทคโนโลยี หลายฝ่ายมองว่าเป็นการบีบให้ออกจากบอร์ดบริหาร อันเนื่องมาจากผล...

Responsive image

GAC รถแห่งเมืองกวางโจว ขวัญใจแท็กซี่ยุคใหม่ | Tech for Biz EP. 30

แบรนด์รถยนต์ที่เป็นความภูมิใจของคนกวางโจว สู่ขวัญใจแท็กซี่ยุคใหม่ คลิปนี้ Tech for Biz จะพาไปรู้จัก GAC ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนอีกเจ้าที่กำลังบุกตลาดเมืองไทย...

Responsive image

เปิดดีล NVIDIA ปี 2024 ในอาเซียนไปร่วมมือใครมาบ้าง ?

NVIDIA ขยายอิทธิพลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปี 2024 ด้วยการลงทุน AI Centers และการพัฒนาระบบ AI ร่วมกับพันธมิตรในอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และไทย ขับเคลื่อนภูมิภาคสู่การเป็นศูนย์...