3 เทรนด์ประกันรถยนต์น่ารู้ แห่งปี 2023 และทำความรู้จัก ประกัน Tesla ผ่าน Priceza Money | Techsauce

3 เทรนด์ประกันรถยนต์น่ารู้ แห่งปี 2023 และทำความรู้จัก ประกัน Tesla ผ่าน Priceza Money

คุ้นเคยกับชื่อของ Priceza แพลตฟอร์มรวมแหล่งค้าปลีกออนไลน์ที่คนไทยเสิร์ชเพื่อเปรียบเทียบราคาสินค้ากันมาหลายปี รู้ไหมว่า มีไลน์ธุรกิจใหม่ ‘Priceza Money' เว็บเปรียบเทียบประกันรถยนต์และ Insurance Content Creator ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวหลังจากให้บริการมาแล้ว 2 ปี 

โควิดเป็นเหตุ จับสังเกต ‘ประกัน’ ยกใหญ่

พิษโควิดที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต สังคม เศรษฐกิจ เขย่าธุรกิจประกันหลายเจ้าที่จ่ายค่าชดเชยไม่ไหวจนต้องอำลาวงการหรือเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อไป ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Priceza จึงสร้าง Priceza Money (Money.priceza.com) เว็บเปรียบเทียบประกันรถยนต์ขึ้น โดยเปิดตัวเว็บพร้อมกับแนะนำ สิริวิชญ์ ชญาวานิช Head of Priceza Money 

นายสิริวิชญ์เล่าว่า pain point หลักของคนไทยคือ มีคนจำนวนมากที่ซื้อประกันโควิดแล้วไม่ได้รับค่าชดเชย เมื่อจะทำประกันจึงหันมาเลือกแบรนด์หรือบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง เชื่อถือได้ จ่ายค่าชดเชยตามกรมธรรม์ อย่างการเลือกประกันรถยนต์ ผู้ขับขี่ใช้รถน้อยลงเนื่องจาก Work from home หรือไม่ต้องเดินทางไปทำงานในออฟฟิศทุกวัน จึงเริ่มคิดว่า คุ้มไหมที่จะจ่าย ในเมื่อไม่ได้ใช้รถ รวมถึงคำถามอื่นๆ ซื้อประกันชั้น 1 ที่ไหนดี ได้ซ่อมอู่หรือซ่อมศูนย์ ถ้าไม่มีคู่กรณีจะเคลมได้ไหม ฯลฯ 

ด้วยเหตุนี้ Priceza Money จึงเข้ามาอุดช่องโหว่ด้วยการเข้ามาเป็นตัวช่วยผู้ขับขี่ในการเปรียบเทียบประกันรถยนต์ พร้อมเป็น Insurance Content Creator ที่ให้ความรู้ด้านประกันแก่ผู้บริโภค

3 เทรนด์และแนวโน้มของวงการประกันภัยรถยนต์ ปี 2023

จากสถิติบนเว็บ Priceza Money และการเดินทางไปหลายประเทศ นายสิริวิชญ์เผย 3 เทรนด์ที่คนต้องการในปี 2023 ได้แก่ Personalize insurance, Direct to customers และ การเปลี่ยนไปของพฤติกรรมการเลือกซื้อประกันรถยนต์

  • เทรนด์ที่ 1 Personalize insurance 

Personalize insurance คือ ประกันภัยที่ออกแบบตามการใช้งาน โดยนายสิริวิชญ์บอกว่าเนื่องจาก Priceza Money เป็นแพลตฟอร์มที่นำข้อมูลจากหลากบริษัท หลายโบรกเกอร์ มารวมไว้ทั้งหมดเพื่อให้ผู้บริโภคค้นหาได้ว่า ใครขายแล้วให้ราคาดีที่สุด ระยะเวลาผ่อนยาวที่สุด ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยยกตัวอย่างบริษัทประกันรถยนต์ที่มีการค้นหามากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น  ‘ประกันเติมไมล์’ ที่ขับมาก จ่ายมาก ของทิพยประกันภัย ‘ประกันเปิดปิด’ ที่คุ้มครองตามชั่วโมงการขับรถ ของไทยวิวัฒน์ ‘ประกันตามโปรไฟล์ผู้ขับขี่ รู้ใจ’ ที่ออกแบบตามอายุผู้ขับขี่ อายุน้อยจ่ายมาก อายุมากจ่ายน้อยลง เพราะบริษัทมองว่า มีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า 

สัดส่วนผู้ค้นหา ‘ประกันเปิดปิด’ ผ่าน google เติบโตจากปี 2019 - 2020 ถึง 73% 

สิริวิชญ์หยิบยกชื่อบริษัทประกัน 3 แบรนด์ที่น่ารู้จักจากเทรนด์ Personalize insurance ที่ใช้กันจนเป็นเรื่องปกติในต่างประเทศมาบอกต่อ ได้แก่ 1) By Miles (สหราชอาณาจักร) ประกันขับมาก จ่ายมาก ขับน้อย จ่ายน้อย 2) Tesla Insurance (สหรัฐอเมริกา) ประกันขับปลอดภัย จ่ายน้อย ขับเร็ว จ่ายแพง และมีการให้ reward เป็นส่วนลดค่าประกันเมื่อขับขี่แบบปลอดภัย และ 3) Geico (สหรัฐอเมริกา) ประกันที่จ่ายเบี้ยตามพื้นที่อยู่อาศัยด้วยรหัสไปรษณีย์ หากเป็นพื้นที่ที่เกิดอาชญากรรมสูงต้องจ่ายแพงกว่า

สิริวิชญ์กล่าวว่า เมื่อก่อนทุกคนจ่ายประกันเท่ากัน แต่พอเปลี่ยนเป็นการเก็บเบี้ยประกันตามการใช้งาน ผู้ขับขี่จ่ายเบี้ยถูกลงโดยเฉลี่ย 30-40% การขายประกันแบบ Personalize insurance จึงถูกใจผู้บริโภค แต่ไม่ถูกใจกลุ่มตัวแทนและโบรกเกอร์มากนัก เนื่องจากได้ค่านายหน้า (commission) น้อยลง

  • เทรนด์ที่ 2 Direct to customers

ตลาดประกันรถยนต์ส่วนใหญ่ขายผ่านประกันและนายหน้า ผู้ขายขายได้ก็จะได้ค่าคอมมิชชัน แต่ประกันออนไลน์เติบโตจาก ‘พฤติกรรมผู้บริโภคที่มาซื้อประกันออนไลน์มากขึ้น’ โดยในปี 2019 – 2020 สัดส่วนตลาดเติบโตมากถึง 223.41% 

สิริวิชญ์ระบุว่า บริษัทประกันจึงเห็นช่องทางการขายแบบ Direct มากขึ้น เช่น ‘ทิพยประกันภัย’ เดิมช่องทางขายหลักทำผ่านโบรกเกอร์ เมื่อทำเว็บขายประกันเอง จากที่มีคนซื้อประกันออนไลน์ 30% ก็เพิ่มขึ้นถึง 80% ในช่วงหลังโควิด จึงไม่มีตัวแทนหรือโบรกเกอร์อีก ต่างจาก ‘ไทยวิวัฒน์ประกันภัย’ ที่เน้นขายประกันรถยนต์ตามความต้องการของผู้ใช้ (Personalize insurance) ผ่านเว็บ Thaivivat.co.th แต่ก็ยังให้ตัวแทนจำหน่ายและนายหน้าขายโดยได้ค่าคอมมิชชันอยู่ เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างบริษัทกับตัวแทนให้มากที่สุด

สิริวิชญ์ ชญาวานิช Head of Priceza Money

หากมองภาพรวม ณ ปัจจุบัน ช่องทางการขายประกันรถยนต์แบบ Direct to customers ในไทยมีสัดส่วนราวๆ 1% จากช่องทางการขายประกันรถยนต์ทั้งหมด  ต่างจากสหรัฐอเมริกาที่มีสัดส่วนการซื้อแบบ Direct เฉลี่ยสูงถึง 25% หรือในสหราชอาณาจักรที่มีสัดส่วนการซื้อเฉลี่ยสูงถึง 30%

สิริวิชญ์เผยว่า หากเปรียบเทียบกับตลาดต่างประเทศ  สัดส่วนการซื้อประกันรถยนต์แบบ Direct นำหน้าประเทศไทยเป็น 10 ปี อย่างไรก็ตาม ตลาดในประเทศไทยยังเล็กมาก นั่นหมายความว่า ยังมีโอกาสอีกมาก

  • เทรนด์ที่ 3 การเปลี่ยนไปของพฤติกรรมการซื้อประกันรถยนต์

อีกเทรนด์หลังวิกฤตโควิด คือ การเปลี่ยนไปของพฤติกรรมการซื้อประกันรถยนต์ โดยข้อมูลจาก Priceza Money ระบุว่า ช่วงก่อนโควิดถึงระหว่างโควิด พฤติกรรมการเลือกซื้อประกันรถยนต์ของผู้บริโภคจะเน้นที่ ‘ราคาถูก’ เป็นหลัก เนื่องจากผู้ซื้อหรือลูกค้ายังไม่ได้ตระหนักรู้ถึงความต่างของแต่ละบริษัท 

แนวคิด ‘ที่ไหนขายถูก ก็เลือกที่นั่น’ จึงเห็นได้ชัดในช่วงปี 2019-2021 โดยบริษัทประกันรถยนต์ที่ผู้บริโภคนิยมเลือกมากที่สุด ได้แก่ สินมั่นคงประกันภัย ไทยศรีประกันภัย และ รู้ใจประกันภัย ซึ่งมีเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 เฉลี่ยที่ราคา 9,000 - 12,000 บาท 

ธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Priceza

แต่บทเรียนจากวิกฤตโควิดที่บางบริษัทประกันไม่สามารถจ่ายให้ผู้ติดโควิดได้ ทำให้คนไทยพิจารณาความน่าเชื่อถือของบริษัทประกันต่างๆ มากขึ้น รวมถึงยอมจ่ายแพงขึ้น ซึ่งถ้าดูเฉพาะประกันรถยนต์ ราคาเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 1 จากค่าเฉลี่ย 9,000 - 12,000 บาท เพิ่มสูงขึ้นเป็น 15,000-18,000 บาท ในปี 2022 โดยบริษัทประกันที่ได้รับเลือกมากที่สุด คือ วิริยะประกันภัย ธนชาติประกันภัย กรุงเทพประกันภัย สวนทางกับ สินมั่นคงประกันภัย ที่อยู่ในช่วงฟื้นฟูกิจการและยังคงขายประกันรถยนต์ราคาถูก (เฉลี่ย 9,000 บาท) แต่ลูกค้าก็ไม่คิดจะซื้อด้วยแล้ว

ประกันรถยนต์จะมีราคาถูกลง เงินในกระเป๋าผู้บริโภคก็จะลดลง คนจึงคิดมากขึ้นว่า ซื้ออะไรแล้วต้องคุ้มค่า ตอบโจทย์ Personalize คือไม่กลับไปจ่ายแบบเดิมแล้ว เทรนด์ ‘การเลือกบริษัทประกันก่อนราคา’ จึงคาดว่าจะดำเนินต่อไปในปีหน้าอย่างแน่นอน” 

ธนาวัฒน์กล่าวเสริม พร้อมทั้งอธิบายพฤติกรรมการซื้อของคนไทยที่จะ ‘เลือกมากขึ้น’ นี่จึงเป็นโอกาสของเว็บเปรียบเทียบราคา ซึ่งตลอด 2 ปีที่ผ่านมา Priceza Money มี Conversion Rate หรือการเสิร์ชที่นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ 20-30% จากที่มีผู้เข้าชมเว็บเฉลี่ยเดือนละ 100,000 คน

ทำความรู้จัก ‘ประกัน Tesla’ ผ่าน Priceza Money

ข้อมูลด้านบนทั้งหมดยังไม่รวมการมาถึงของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่จะสามารถเก็บข้อมูลการขับขี่ได้ละเอียดขึ้น โดยบริษัทประกันจะสามารถบริหารความเสี่ยงในการเลือกรับประกันภัยจากแต่ละบุคคลได้ดีขึ้น จากพฤติกรรมการขับขี่ที่ทุกรูปแบบ ทุกสไตล์ ที่จะกลายเป็นข้อมูลในโลกดิจิทัล

เมื่อถามถึงเบี้ยประกันของ Tesla ที่ใช้กันแล้วในสหรัฐอเมริกา นายสิริวิชญ์ตอบว่า Tesla จะเก็บข้อมูลการขับขี่ผ่าน Telemetrics ซึ่งก็คือ AI ที่อยู่ในรถ แล้วประมวลผลข้อมูลทุกเดือน เบี้ยประกันที่คิดจึงเป็นแบบเดือนต่อเดือน ดังนั้น ผู้ขับขี่อาจจ่ายถูกลงหรือจ่ายแพงขึ้นในเดือนถัดไปก็เป็นได้

แม้ Tesla เข้ามาจดทะเบียนบริษัท TESLA Thailand แล้ว แต่ในด้านประกันภัย นายสิริวิชญ์ชี้ว่า ประกัน Tesla มีใช้แต่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และไม่ว่า Tesla จะดำเนินธุรกิจในประเทศใด ต้องปรับแนวทางการเก็บเบี้ยประกันให้เข้ากับประเทศนั้นๆ ซึ่งต้องใช้เวลาอีกมาก เนื่องจากผังเมือง ท้องถนน และบริบทต่างๆ ในแต่ละประเทศนั้นต่างกัน

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สองวิธีเรียกคืนอำนาจบริหารจากบริษัทตัวเอง ถกประเด็นน่ารู้จากซีรีส์ Queen of tears

เจาะลึกประเด็นซีรีส์ Queen of tears การต่อสู้แย่งชิงอำนาจบริหาร Queens Group กำลังทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ในความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นจริงแล้ว ตระกูลฮงจะกลับมายึดคืนอำนาจบริหาร ...

Responsive image

17 เรื่อง AI ต้องรู้ จากรายงาน AI Index 2024

Techsauce ได้สรุป 17 ประเด็นสำคัญจากรายงาน AI Index Report 2024 ซึ่งจัดทำโดย Stanford Institute for Human-Centered Artificial Intelligence (HAI) ที่รวบรวมประเด็นต่างๆ ของปัญญาประดิ...

Responsive image

แนะเทรนด์ลงทุนในสตาร์ทอัพปี 2024 พร้อมช่องทางใหม่ในการระดมทุนจากงาน KATALYST TALK MEETUP #3

บทความที่เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพควรอ่านเพื่อเป็นไกด์ไลน์ในการเผชิญความท้าทายในปีนี้ จากการรับฟังภายในงาน KATALYST TALK MEETUP #3 ‘Navigating the Startup Challenges in 2024 and Beyond’...