ถอดบทเรียนการบริหารจัดการพนักงานที่ SME ควรเรียนรู้ เพื่อเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ได้กับทุกสถานการณ์ | Techsauce

ถอดบทเรียนการบริหารจัดการพนักงานที่ SME ควรเรียนรู้ เพื่อเตรียมพร้อมและปรับตัวให้ได้กับทุกสถานการณ์

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปี 2020 ทั่วทั้งโลกต่างประสบปัญหาจากโรคระบาดอย่าง COVID-19 ที่ส่งผลกระทบไม่ใช่แค่ในมิติของสาธารณสุขเท่านั้น แต่เป็นมิติของเศรษฐกิจก็พังทลายลงไปด้วย ทั่วโลกต้องมีการปิดประเทศ กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงักทำให้หลายธุรกิจต้องมีการปิดตัวไปตาม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็กก็ตาม ดังนั้นจึงมีเพียงสิ่งเดียวที่ยังคงประคับประคองในช่วงเวลาเช่นนั้นได้ คือ กระแสเงินสด แต่ก็ใช่ว่าทุกบริษัทจะมีกระแสเงินสดสำรองในวิกฤตที่ยาวนานเช่นนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าที่เป็นปัญหาหนักที่สุดก็ คือ SME ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีสายป่านสั้นกว่าบริษัทขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลพนักงานที่จะต้องแบกรับล้วนแล้วแต่เป็นต้นทุนทั้งสิ้น

โดยหนึ่งในปัญหาที่น่ากังวล คือ ความเสี่ยงในการเลิกจ้างงาน เนื่องจาก SME ถือเป็นกระดูกสันหลังของการจ้างงาน หากมีคนตกงานเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากย่อมส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจที่อาจจะพังทลายได้ ซึ่งที่ผ่านมาเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น จะเห็นได้ว่าหลายธุรกิจต่างพากันปรับตัวในเรื่องของการจ่ายเงินเดือนพนักงาน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของธุรกิจ โดยบางบริษัทก็ตัดสินใจลดจำนวนพนักงานลง บางบริษัทก็ขอความร่วมมือในการที่ให้พนักงานลางานโดยไม่รับเงินเดือน หรือบางบริษัทก็มีการจ้างพนักงานตามความจำเป็นและจ่ายเงินเป็นรายวัน 

ปัจจุบัน นับว่าหนึ่งปีผ่านไปกับวิกฤต COVID-19 เนื่องจากหลายประเทศได้มีการคิดค้นวัคซีนและได้มีการทยอยฉีดให้กับประชากรโลกในบางประเทศแล้ว ส่งผลให้ในหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาในหลาย ๆ ประเทศ แต่สำหรับประเทศไทยนั้น การแพร่ระบาดได้กลับมาอีกระลอก และดูเหมือนว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ค่อนข้างยาก จากหลากหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนั้นสำหรับภาคธุรกิจแล้วจึงต้องมีการปรับกระบวนการเปลี่ยนการทำงานอีกครั้งเพื่อรับมือกับสถานการณ์วิกฤต โดยเฉพาะการบริหารจัดการพนักงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรให้ดำเนินธุรกิจไปต่อได้ 

ถอดบทเรียนการบริหารจัดการพนักงานของ SME ในยามวิกฤต

ที่ผ่านมาในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกแรกในประเทศไทย หลายธุรกิจต่างก็ได้มีการปรับตัวกันแบบชนิดที่เรียกว่า ไร้กระบวนท่า เพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤต ซึ่งไม่มีสูตรสำเร็จหรือวิธีการตายตัวที่จะการันตีได้ว่าเดินไปในทิศทางไหน หรือทำอย่างไรถึงถูกต้อง แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราต่างก็ได้เรียนรู้วิธีการมากมาย โดยเฉพาะการดูแลพนักงานในยามวิกฤตโรคระบาดเช่นนี้ 

  • ดูแลสุขภาพของพนักงานสำคัญที่สุด 

ในยามที่มีโรคระบาดนั้นการดูแลบริหารจัดการไม่ให้พนักงานในองค์กรติด COVID-19 ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กร เพราะถ้าหากมีพนักงานหนึ่งคนที่ได้รับเชื้อด้วยลักษณะของการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและอัตราการติดต่อกันง่ายของเชื้อไวรัสจะส่งผลให้พนักงานคนอื่น ๆ ในบริษัทกลายเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูงไปด้วย ดังนั้นองค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยจากโรค  

นอกจากนี้หลายองค์กรยังได้มีสวัสดิการเพิ่มเติมอย่างการทำประกัน COVID-19 ในกรณีฉุกเฉินให้กับพนักงานด้วย ดังนั้นในช่วงวิกฤตเช่นนี้บริษัทจึงต้องมีการลงทุนสำหรับดูแลพนักงานเป็นพิเศษ รวมถึงความปลอดภัยในสถานที่ทำงานที่จะต้องปลอดโรคและปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างเคร่งครัด 

  • ปรับกระบวนการทำงานมาเป็น Work From Home 

ย้อนกลับไปในช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 ในช่วงแรก ที่หลายองค์รอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการต้องออกมาตรการให้พนักงานต้องทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) เนื่องด้วยปัจจัยจากการใช้เทคโนโลยีเป็นหลัก หรือหลายองค์กรอาจจะยังไม่เคยต้องบริหารจัดการแบบระยะไกลมาก่อน 

ดังนั้นหลังจากที่ช่วงเวลาของความเปลี่ยนแปลงผ่านไป เมื่อเกิดวิกฤตอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสในประเทศไทย จนทำให้ทางรัฐบาลต้องมีมาตรการและขอความร่วมมือให้ทำงานจากบ้านอีกครั้ง ช่วงเวลาที่ผ่านมาจึงได้มีการอบรมให้ความรู้พนักงานในการใช้เครื่องมืออย่างคล่องแคล่ว รวมไปถึงสร้างความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีด้วย ส่งผลให้การทำงานนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และกระบวนการไม่มีหยุดชะงัก แม้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

  • มอบขวัญและกำลังใจให้กับพนักงาน

จากวิกฤตในครั้งก่อนหน้านี้ที่ SME หลายรายต่างต้องประสบกับปัญหาที่คาดไม่ถึงกับตกอยู่ในสถานการณ์ที่คาดเดาไม่ได้นั้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของคนในองค์กรเป็นอย่างมากที่จะมีความกังวล ตั้งข้อสงสัย ซึ่งจะทำให้เกิดการคาดเดาและอาจจะทำให้เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาดออกไปได้ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อขวัญและกำลังของพนักงานทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ขึ้นอีกระลอก ก็อาจจะส่งผลต่อจิตใจของพนักงานเป็นปกติ SME ที่สามารถปรับตัวและรอดมาได้จากวิกฤตครั้งก่อน จึงต้องเรียนรู้ที่จะหาวิธีในการสื่อสารกับพนักงาน สร้างความเข้าใจ และเรียกความเชื่อมั่น ให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจในการทำงานเพื่อขับเคลื่อนองค์กรต่อไปได้ 

  • บริหารจัดการเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ 

ในเรื่องของการบริหารจัดการเงิน ถือเป็นหัวใจหลักที่มีความสำคัญกับธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่แล้วมักจะเต็มไปด้วยกระบวนการที่ซับซ้อนมากมาย รวมไปถึงหลายองค์กรมักจะเสียเวลาไปกับการจัดการเรื่องการเงินมากที่สุด ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอกแรก ปัญหาส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับกลุ่มธุรกิจในแง่ของการทำธุรกรรมที่ต้องเกิดขึ้นตลอดเวลา จากการที่เทคโนโลยีที่มาอำนวยความสะดวกในด้านนี้ยังไม่ตอบโจทย์ได้ครอบคลุมที่สุด ดังนั้นสถาบันการเงินเองต่างก็ได้มีการพัฒนาโซลูชันเพื่อมาแก้ Pain Points ของกลุ่มลูกค้าธุรกิจที่ต้องประสบภาวะลำบากในการบริหารจัดการเงินเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถลดขั้นตอนและประหยัดเวลาของลูกค้าธุรกิจได้ 

ดังนั้นหากธุรกิจ SME ต้องการที่จะทำ Digital Transformation ในองค์กรนั้น อะไรก็ตามที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยได้ โดยไม่ต้องลงทุนควรจะต้องปรับและทำทันทีเพื่อที่ให้องค์กรคล่องตัวที่สุด ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของการจ่ายเงินเดือนพนักงาน ธุรกิจ SME ส่วนใหญ่เมื่อถึงรอบที่ต้องจ่ายเงินเดือนให้พนักงานมักจะใช้วิธีการแบบเดิม ๆ คือไปจัดการที่ธนาคารโดยตรง หรือบ้างก็ใช้อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งในการโอนหลาย ๆ ครั้งเพราะต้องโอนทีละรายการ เนื่องจากฟังก์ชันที่ไม่สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุมความต้องการอย่างแท้จริง ลองคิดดูว่าหากมีพนักงาน 100 คนคุณต้องเสียเวลาเท่าไหร่ในการโอนทีละคนกว่าจะสำเร็จ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นขั้นตอนที่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ทั้งสิ้น ที่สำคัญยังต้องมาคอยเสียค่าธรรมเนียมจุกจิกทุกครั้งในการโอน ซึ่งถ้ารวม ๆ ออกมาอาจจะสามารถนำเงินเหล่านั้นไว้เป็นทุนสำรองในยามวิกฤตได้เลยทีเดียว ดังนั้นสำหรับการปรับตัวของ SME หลังจากนี้จำเป็นที่จะต้องมีโซลูชันจากธนาคารที่ตอบโจทย์ได้ตรงจุด อย่างบริการจ่ายเงินเดือนพนักงานผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ทีทีบี บิสสิเนสวัน ซึ่งเป็นบริการดี ๆ จาก ทีทีบี ที่ช่วยให้ SME บริหารจัดการจ่ายเงินเดือนได้สะดวกกว่า ประหยัดกว่า ปลอดภัยกว่า ประหยัดได้ทั้งต้นทุนและเวลาเพื่อช่วยให้บริหารธุรกิจได้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน 

ซึ่ง Pain Points หลัก ๆ ที่ SME ต้องเผชิญจะหมดไป เพราะบริการจ่ายเงินเดือนพนักงานผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ทีทีบี บิสสิเนสวัน นั้นจะตัดทุกความกังวล ตัดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป โดยสามารถทำรายการโอนจ่ายได้ทีละหลายรายการในครั้งเดียว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถโอนเงินเดือนเข้าบัญชีพนักงานได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง (บัญชี ทีทีบี) และสะดวกมากยิ่งขึ้นไม่ต้องกลัวลืม เพราะสามารถเลือกโอนเข้าบัญชี ทีทีบี ได้ทันทีหรือโอนโดยกำหนดวันและเวลาล่วงหน้าได้ ที่สำคัญสามารถตรวจสอบรายงานการโอนได้ย้อนหลังนานสูงสุด 12 เดือน นอกจากนี้เจ้าของธุรกิจบางคนอาจจะยังมีความกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเมื่อทำธุรกรรมผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ก็ขอให้มั่นใจได้เลยว่า ปลอดภัยเพราะมีรหัสทำธุรกรรม (OTP) หรือ Hard Token ทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิ์ผู้ทำรายการ (Maker) และผู้อนุมัติ (Approver) ได้หลายรูปแบบ 

และสิ่งสุดท้ายที่พลาดไม่ได้ก็คือ ช่วยตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เพราะ ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและตลอดชีพเมื่อสมัครใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ทีทีบี บิสสิเนสวัน รวมถึงฟรี ค่าธรรมเนียมการโอนและสามารถโอนเข้าได้หลายธนาคารพร้อมกันเมื่อใช้บริการจ่ายเงินเดือนพนักงาน (แบบไม่มีประกันกลุ่ม) คู่กับบัญชีธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอีวันแบงก์ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้การปรับตัวของ  SME ที่หันไปบริหารจัดการการเงินด้วยเทคโนโลยี จะช่วยลดขั้นตอน ประหยัดเวลา ประหยัดค่าใช้จ่าย ทำให้สามารถไปทุ่มเทกับด้านอื่น เพื่อบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลังจากนี้การแพร่ระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลง ทั่วโลกสามารถฉีดวัคซีนประชากรได้มากพอจนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวและดำเนินได้อย่างปกติแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะหลังจากนี้โลกจะอยู่ท่ามกลางความไม่แน่นอนสูง ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง ดังนั้น  SME เองก็จะต้องเตรียมพร้อมและสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับธุรกิจ  เพื่อที่จะพร้อมรับมือและปรับตัวได้กับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเสริมประสิทธิภาพและลดต้นทุนให้กับธุรกิจ

สำหรับ  SME  ใดที่อยากจะหลุดจากการใช้บริการธุรกรรมการเงินแบบเดิม ๆ  มาใช้ธุรกรรมการเงินที่ง่ายกว่าและตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ ด้วยบริการจ่ายเงินเดือนผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ทีทีบี บิสสิเนสวัน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbbank.com/ttb/ttb-payroll-plus/index.html หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าธุรกิจ ทีทีบี โทร . 0 2643 7000


บทความนี้เป็น  Advertorial 


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะเบื้องหลังดีล Zipevent และ Link Station Group สู่การขยายธุรกิจอีเวนต์ในภูมิภาค SEA

การเข้าซื้อกิจการระหว่าง Zipevent แพลตฟอร์มจัดการอีเวนต์และจำหน่ายบัตรออนไลน์ในประเทศไทย กับ Link Station Group บริษัทญี่ปุ่นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบจำหน่ายบัตร (Ticketing System) ถือเ...

Responsive image

KBank x Orbix Technology x StraitsX สาธิตการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยบล็อกเชนที่ SG FinTech Festival 2024

ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับ Orbix Technology และ StraitsX เปิดตัวนวัตกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนด้วย e-Money on Blockchain ในงาน Singapore FinTech Festival 2024 ชูศักยภาพฟินเทคไทยบนเวทีโลก...

Responsive image

‘Yindee’ แชตบอตในแอป ttb Touch ใช้ Gen AI จับความรู้สึก ตอบเร็วและฉลาดกว่าที่เคย

Yindee แชตบอตที่อยู่บน Mobile Banking ของ ttb ทำงานผ่านแอป ttb Touch สามารถจับ Mood & Tone ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการ ว่าขณะแชตนั้น ลูกค้าอยู่ในอารมณ์ไหน ด้วย Generative AI โดย Azur...