โจทย์สำคัญและการสเกลของ Startup จากงาน Huawei Spark Founder Summit 2022 | Techsauce

โจทย์สำคัญและการสเกลของ Startup จากงาน Huawei Spark Founder Summit 2022

ท่ามกลางยุคสมัยที่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนวัตกรรมในปัจจุบัน คำตอบคงหนีไม่พ้น “สตาร์ทอัพ (Startup)” ผู้มีบทบาทในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาของผู้ใช้งานรวมถึงทำให้ชีวิตของใครหลาย ๆ คนดีขึ้น 

แต่รู้ไหมว่า อะไรคือสิ่งที่ท้าทายและยากที่สุดในการทำสตาร์ทอัพ? 

Leo Jiang ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัล กลุ่มธุรกิจคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ของหัวเว่ย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้ก่อตั้ง The Spark Program ได้กล่าวถึงแง่มุมที่สำคัญเกี่ยวกับ Huawei Spark แพลตฟอร์มที่ช่วยให้การสเกลอัพของเหล่าสตาร์ทอัพรวดเร็วและเติบโตอย่างก้าวกระโดดไปสู่ตลาดโลก ในหัวข้อ “Huawei Spark – the Platform for Tomorrow’s Scale-ups” ณ งาน Huawei Spark Founder Summit 2022 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งมีองค์กรและสตาร์ทอัพกว่า 1,000 ราย และนักลงทุนอีกกว่า 100 รายเข้าร่วมงาน

“Scale Up” สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพ

เป็นที่รู้กันดีว่าการทำสตาร์ทอัพนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้งานมากที่สุด และสามารถใช้งานได้จริง จึงมีหลายเรื่องที่ท้าทายในวงการนี้ 

หลายคนอาจจะคิดว่าการแข่งขันในวงการสตาร์ทอัพด้วยกันเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุด แต่ Leo Jiang กล่าวว่า “ความท้าทายที่เป็นสากลที่สุดสำหรับสตาร์ทอัพทุกรายคือการสเกลอัพหรือขยายธุรกิจออกสู่ตลาด” ด้วยเหตุนี้เอง Huawei Spark จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยบ่มเพาะเหล่าสตาร์ทอัพให้สามารถสเกลอัพเติบโตไปอย่างก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็วและเชื่อมต่ออย่างเต็มรูปแบบในโลกแห่งความอัจฉริยะในฐานะเพื่อนและพาร์ทเนอร์ 

Huawei Spark – the Platform for Tomorrow’s Scale-ups

Huawei Spark คือแพลตฟอร์มระดับโลกของ Huawei ที่จะมาช่วยเร่งการเติบโต (Accelerate) ของสตาร์ทอัพทั่วโลก ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งเปิดให้ใช้งานทั้งในทวีปเอเซียและลาตินอเมริกาและมีเป้าหมายที่จะเปิดตัวในอีกสามตลาดทั้ง ยุโรป แอฟริกา และตะวันออกกลาง โดย Leo Jiang ได้กล่าวว่า “ เราได้ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐบาลทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ อินโดนีเซีย และประเทศไทย และบริษัทร่วมทุนระดับโลกกว่า 30 แห่ง เพื่อสร้างแพลตฟอร์มนี้ให้รองรับสตาร์ทอัพทั่วโลก” ซึ่งในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา Huawei Spark ได้ช่วยให้เกิดการลงทุนในสตาร์ทอัพกว่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐในกว่า 100 สตาร์ทอัพ 

Leo Jiang กล่าวว่า “เราไม่สามารถทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพียงแค่ข้ามคืน แต่การที่เราได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนทั้งหน่วยงานรัฐบาลและบริษัทร่วมทุนทำให้เรามีวันนี้ ดังคำพูดที่ว่า ไปคนเดียวไปได้ไว แต่ไปด้วยกันไปได้ไกล” 

นอกจากนี้ Huawei Spark ยังได้รับรางวัล “Technology Excellence Award 2022” จากรัฐบาลสิงคโปร์ และจะมีการเปิดตัว Incubation Program ขึ้นเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคมนี้ โดยได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากรัฐบาลสิงคโปร์อีกด้วย

เจาะลึก 3 สิ่งที่สตาร์ทอัพจะได้รับหลังเข้าร่วมโครงการของ Huawei Spark

ประการแรกในเรื่องของ การเข้าสู่ตลาด (Go to Market) Leo Jiang กล่าวว่า “ Huawei Spark มี Go to Market Program ที่จะช่วยให้เหล่าสตาร์ทอัพเจาะตลาดทั้งในประเทศจีน เอเซียและทั่วโลก ” Huawei Spark จึงได้จัด “Spotfire Program” ขึ้นมา

Leo Jiang ยังได้กล่าวถึงประการที่สอง การทำการค้า (Commercialisation) ไว้ว่า “เราได้สร้าง Spotfire Program ขึ้นมาเพื่อให้ขั้นตอนของการเจรจาค้าขายไปจนถึงการทำ PoC เป็นไปได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น”

ส่วนประการที่สาม การหาเงินลงทุน (Fundraising) “เราตระหนักว่าในบางช่วงของการทำสตาร์ทอัพต้องใช้เงิน เราจึงได้สร้างเครือข่ายกับ VC และนักลงทุนทั่วโลกเพื่อช่วยให้การลงทุนระหว่างสตาร์ทอัพเองและ VC เป็นไปอย่างราบรื่น” Leo Jiang กล่าว

Spark Ignite อีกหนึ่งโอกาสแห่งการไปสู่ตลาดโลก

นอกจากการมีแพลตฟอร์ม Huawei Spark เพื่อช่วยให้การสเกลอัพของสตาร์ทอัพเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นแล้ว ยังจัดการแข่งขัน “Spark Ignite” เพื่อช่วยสนับสนุนและเร่งยกระดับสตาร์ทอัพสร้างนวัตกรรมชั้นยอดสู่ตลาดโลกขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งในปี 2022 มีสตาร์ทอัพจำนวน 1,500 รายจาก 120 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน

ในปีนี้เรายังเริ่มเห็นถึงความหลากหลายมากยิ่งขึ้นในวงการสตาร์ทอัพทั้งในเรื่องของเชื้อชาติ และเพศของผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขัน โดย 10 ประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันมากที่สุดได้แก่ อินเดีย ไนจีเรีย สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย สหราชอณาจักร ปากีสถาน บังกลาเทศ แอลจีเรีย และมาเลเซียตามลำดับ และมีผู้ก่อตั้งเพศหญิงเข้าร่วมการแข่งขัน Spark Ignite 2022 มากขึ้นเกือบสองเท่าจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีเพราะมีผู้สนใจวงการสตาร์ทอัพที่หลากหลายทั้งเพศและเชื้อชาตินั่นเอง

Huawei Cloud อีกหนึ่งสุดยอดเทคโนโลยีช่วยเหล่าสถาปนิกแห่งโลกอนาคต

Huawei Cloud เป็นระบบคลาวด์สาธารณะเพียงระบบเดียวที่ให้คุณเข้าถึง Ecosystem ที่แตกต่างกันสองระบบ คือ Huawei DevCloud (Cloud App Ecosystem) สำหรับธุรกิจหรืออุตสาหกรรม และสองคือ HMS core (Consumer & Mobile Devices Ecosystem) 

โดย Leo Jiang กล่าวว่า “ Huawei DevCloud เป็นร้านค้าครบวงจร ใช้แพลตฟอร์ม DevOps ที่มีทุกสิ่งสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ มี solution เดียวตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานซึ่งเปิดให้ใช้งานแล้วในประเทศสิงคโปร์” 

“ส่วน HMS ย่อมาจาก Huawei Mobile Service ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันที่ดีขึ้น เนื่องจากมี SDK หรือชุดเครื่องมือที่สามารถใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่กำหนดเป้าหมายไปยังแพลตฟอร์มที่เฉพาะเจาะจง ช่วยให้สร้างแอปพลิเคชันได้ในอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ แท็บเล็ต นาฬิกา หรือแม้แต่ในรถยนต์” 

“และเมื่อนำสิ่งนี้มารวมกับความสามารถของ Huawei Cloud คุณจะสามารถเผยแพร่แอปพลิเคชันบน Huawei Cloud ได้โดยตรง”

ส่อง 3 สตาร์ทอัพ ผู้เป็น “The Game Changers” จาก Spark Program

3 สตาร์ทอัพ : School Bright, Scantist และ Sentient.io จาก Spark Program ยังได้กล่าวว่า Huawei Spark และ Huawei Cloud ทำให้เขาได้รับการสนับสนุนและโอกาสมากมายจากสมาชิกทั่วโลกซึ่งรวมไปถึงการระดมทุนในระยะเวลาอันสั้น การสร้างพันธมิตร และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทั่วโลกอีกด้วย

นรินทร์ คูรานา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร School Bright แพลตฟอร์มนำเสนอ solution การจัดการโรงเรียนดิจิทัลที่เชื่อมโยงระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง และนักเรียน ได้กล่าวว่า “ทั่วโลกกำลังพูดถึงแนวคิดของการศึกษาแบบเปิดและแพลตฟอร์มในแง่ของการศึกษาดิจิทัลในประเทศไทย เราใกล้เคียงที่สุดที่จะทำให้แนวคิดในฝันนี้เป็นจริง เพราะฉะนั้น School Bright ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่เป็นการสร้างผลกระทบเชิงบวกในสังคม เราจะจับมือกับ Huawei เพื่อเปลี่ยนอุตสาหกรรมการศึกษาไปด้วยกัน”

Liu Yang ผู้ร่วมก่อตั้ง Scantist แพลตฟอร์มให้บริการการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และจัดการช่องโหว่ของ Open Source ให้แก่องค์กร กล่าวว่า “เราสร้าง End-to-End Open Source ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการจัดการความเสี่ยงโดยเริ่มจากผลลัพธ์ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกส่วนประกอบ Open Source ที่ดีและปลอดภัยได้ โดยสามารถสแกนช่องโหว่ในแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็วและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยใด ๆ ซึ่ง Spark Program เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราระดมทุนได้ในเวลาอันสั้น สร้างพันธมิตร และส่งเสริมการขายในภูมิภาคนี้ได้มากยิ่งขึ้น”

Christopher Yeo ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Sentient.io สตาร์ทอัพที่นำเสนอโมเดล AI พร้อมใช้งานเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์นำเทคโนโลยี AI ไปใช้ได้เร็วขึ้น ได้กล่าวว่า “เราได้สร้างแพลตฟอร์มที่มีอัลกอริธึม และชุดข้อมูลสาธารณะจำนวนมาก อีกทั้งยังมีอัลกอริธึมการฝึกอบรมฟรีเพื่อให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือที่ยังไม่ชำนาญด้าน AI สามารถใช้งาน AI ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยทีม Spark Program ทำให้เขาสามารถเข้าถึงทรัพยากรมากมายที่จำเป็นและยังได้รับโอกาสทางธุรกิจมากมายจากสมาชิกทั่วโลกอีกด้วย”

โอกาสในการสร้างสตาร์ทอัพยูนิคอร์นแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ในมุมมองขององค์กร Patrick Cao ประธาน GoTo ซึ่งเป็นบริการขนส่งแบบออนดีมานด์ อีคอมเมิร์ซ การจัดส่งอาหาร และโลจิสติกส์ ตลอดจนบริการทางการเงิน กล่าวว่า “ฉันคิดว่ามีโอกาสอีกมากสำหรับการสร้างสตาร์ทอัพไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามในภูมิภาค คุณมีฐานลูกค้าที่มีคุณค่าที่กำลังมองหาผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรมที่ยอดเยี่ยมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และหรือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ๆ เพราะฉะนั้นแม้จะต้องผ่านการเดินทางที่ยากลำบาก แต่ถ้าคุณมีความฝัน มีจุดประสงค์ที่ชัดเจน และมีภารกิจที่น่าทึ่ง คุณก็รู้ว่าไม่มีอะไรหยุดคุณได้”

Zhang Yutong กรรมการผู้จัดการ GSR Ventures ได้กล่าวถึงโอกาสของสตาร์ทอัพในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของนักลงทุนว่า “ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วย 10 ประเทศที่มี GDP รวมกันถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ ดังนั้นหากเราคิดเกี่ยวกับภูมิภาคนี้เป็นประเทศเดียว นั่นจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก 5 แห่ง รองจากสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนีใน GDP ที่เติบโตเร็วกว่าประเทศข้างต้นทั้งหมด ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกต่างก็สนใจ สู่ศักยภาพของภูมิภาคนี้เพราะปกป้องจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น สงครามในยุโรป และอื่น ๆ”

เธอยังกล่าวอีกว่ามีธุรกิจ 3 กลุ่มที่น่าจับตามอง ได้แก่ ด้านซอฟต์แวร์ เนื่องจากบริษัทซอฟต์แวร์ในเอเชียมีกลุ่มผู้มีความสามารถด้านวิศวกรรมที่มีทักษะสูงมากในราคาที่ไม่แพง ด้านต่อมาคือ Fintech โดยในอนาคตการบริหารความมั่งคั่ง เทคโนโลยีการประกันภัย การจำนองดิจิทัล Crypto เทคโนโลยีการกำกับดูแลจะเป็นคลื่นลูกต่อไปของ Fintech Unicorn ส่วนด้านสุดท้ายคือ Consumption Upgrade อย่างการ Live Stream ขายของ และการขายปลีกแบบออฟไลน์

ในแง่ของหน่วยงานรัฐบาลประเทศสิงคโปร์ Justin Ang ผู้ช่วยประธานบริหาร Infocomm Media Development Authority (IMDA) ได้กล่าวถึงการสนับสนุนสตาร์ทอัพในสิงคโปร์ว่า “ความพยายามส่วนใหญ่ของเราตอนนี้มุ่งเน้นไปที่วิธีที่เราช่วยให้สตาร์ทอัพเอาชนะอุปสรรคในระยะเริ่มต้น ซึ่งก็คือการเข้าถึงความต้องการ การเข้าถึงเงินทุน และการปรับปรุงคุณภาพของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลก โดยมีโปรแกรมอย่าง Spark Program ที่ช่วยในการบ่มเพาะสตาร์ทอัพโดยเฉพาะอีกด้วย”

Muhammad Neil El Himam รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์แห่งอินโดนีเซีย ได้กล่าวถึงโอกาสสำหรับสตาร์ทอัพในประเทศว่า “ เราเป็นหมู่เกาะ ประเทศที่มีผู้คนอาศัยอยู่มากมายและมีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นแอ่งน้ำ ทำให้ประชาชนเหมือนอยู่คนละเกาะ และสิ่งเหล่านี้สร้างปัญหาในด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ การเงินการธนาคาร ซึ่งเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่สำหรับสตาร์ทอัพที่มีความกระตือรือร้นจริง ๆ ที่จะทำแก้ปัญหาเหล่านั้น และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราในฐานะรัฐบาลจึงพยายามส่งเสริมสตาร์ทอัพ”

สำหรับสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศไทย คุณกษมา กองสมัคร ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และความมั่นคง (Digital Policy and Security) แห่งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Promotion Agency หรือ DEPA) กล่าวว่า “สตาร์ทอัพของประเทศไทยในตอนนี้ยังมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเทียบกับสิงคโปร์และอินโดนีเซีย เราสนับสนุนและช่วยเหลือสตาร์ทอัพในช่วงระยะแรกเริ่มโดยส่งเสริมการศึกษา เงินทุนสนับสนุน และจัดโปรแกรมที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยพัฒนาพวกเขาจนกระทั่งพวกเขาเติบโตขึ้นเป็นสตาร์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งบทบาทของ DEPA คือการส่งเสริมสตาร์ทอัพที่อยู่ในระดับเริ่มต้นเพื่อช่วยเขาพัฒนาจนเป็นที่ต้องการของ VC เพื่อระดมทุนในการพัฒนาต่อไป ”

ในการสร้างสตาร์ทอัพขึ้นมา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเราไม่สามารถเดินไปเพียงคนเดียวได้ อย่างที่ Leo Jiang ได้กล่าวไว้ว่า

“คุณคือสถาปนิกแห่งโลกอนาคต แต่สถาปนิกที่ดีที่สุดก็ต้องการคนที่จะมาช่วยเหลือและสนับสนุนพวกเขาเช่นกัน”


บทความนี้เป็น Advertorial

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

RELATED ARTICLE

Responsive image

ธ.ก.ส. เดินหน้า ‘New Gen Hug บ้านเกิด Season 2’ เฟ้นหาเกษตรกรรุ่นใหม่ เศรษฐกิจชุมชนยั่งยืน

ธ.ก.ส. เดินหน้า ‘New Gen Hug บ้านเกิด Season 2’ เฟ้นหาเกษตรกรต้นแบบ สร้างแรงบันดาลใจ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน บนหน้าจอทีวี...

Responsive image

‘ตัวพ่อ’ วงการเทค 2023 ผู้สร้างปรากฏการณ์ ดราม่า และโอกาส

ในปีนี้ Techsauce ได้รวม 3 ตัวพ่อแห่งวงการเทคโนโลยี 2023 ที่มีบทบาท อิทธิพล และสร้างดราม่า มากที่สุดแห่งปี !...

Responsive image

เปิดตัว “ออร์บิกซ์” (orbix) กระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งเป้าสู่ผู้นำด้านบริการสินทรัพย์ดิจิทัล

ออร์บิกซ์ เทรด เปิดตัว “orbix” แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รองรับความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้น เข้าถึงบริการที่ตอบโจทย์การใช้งานและปลอดภัย...