ญี่ปุ่นกับราคาที่ต้องจ่าย จากการเลื่อนจัดงาน โอลิมปิก 2020 | Techsauce

ญี่ปุ่นกับราคาที่ต้องจ่าย จากการเลื่อนจัดงาน โอลิมปิก 2020

แม้ว่าวิกฤติโควิดจะส่งผลให้โอลิมปิกที่จัดขึ้นโดยประเทศญี่ปุ่นต้องเลื่อนขึ้นมายังก.ค. ปี 2021  คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ยังคงสงวนชื่องานไว้ดังเดิมนั่นก็คือ โอลิมปิก 2020 (Olympic 2020) ด้วยเหตุที่ต้องการจะให้โอลิมปิก เสมือนเป็นแสงสว่างของปลายอุโมงค์ มหกรรมกีฬาแห่งชัยชนะสำหรับญี่ปุ่นที่พึ่งผ่านพ้นวิกฤติโควิดระลอกแรกในปีที่ผ่านมา 

แต่ถึงกระนั้นเอง ครั้นพอเดินหน้าให้โอลิมปิกจัดขึ้นต่อไปในปี 2021 ญี่ปุ่นก็เจออุปสรรคซ้ำซ้อนอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่หนักกว่าเดิมจนต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค. จนถึง 22 ส.ค. และไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้าชมการแข่งขันในสนาม  จากแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่กล่าวขาน โอลิมปิกครั้งนี้ที่ปราศจากผู้ชมนับได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลที่ญี่ปุ่นต้องจ่าย และอาจกลายเป็นวิกฤติการเงินครั้งใหญ่สุดที่เคยมีมา

โอลิมปิก 2020

ทำไมญี่ปุ่นถึงไม่ยกเลิกจัดการแข่งขัน โอลิมปิก 2020 ?

จากผลสำรวจของประชาชนชาวญี่ปุ่นเกือบ 70% ไม่ต้องการให้โอลิมปิกครั้งนี้เดินหน้าจัดงานต่อไป ด้วยเหตุที่กังวลถึงสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศ อีกทั้งความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจรุนแรงกว่าช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ญี่ปุ่นยังคงยืนยันว่าจะจัดงานโอลิมปิก 

ต่อให้นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูกะจะกล่าวว่ารัฐบาลจะไม่ให้ความสำคัญกับโอลิมปิกไปมากกว่าความคิดเห็นประชาชน แต่ท้ายที่สุดแล้วคำตัดสินใจของรัฐบาลกลับสวนทางกับแรงกดดันของฝ่ายคัดค้าน 

หลายคนจึงเกิดข้อสงสัยว่าเหตุใดญี่ปุ่นจึงมีอำนาจในการตัดสินใจดำเนินการจัดงานโอลิมปิกต่อท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์เช่นนี้?

สาเหตุหลัก ๆ มาจากสัญญาระหว่างคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และรัฐบาลญี่ปุ่น โดยรายละเอียดการยกเลิกจัดงานโอลิมปิกจะอยู่ภายใต้อำนาจของ IOC ทั้งหมดโดยสิ้นเชิง นั่นเป็นเพราะว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนั้นคือ “ทรัพย์สินทางปัญญา” ของ IOC กล่าวคือ IOC เป็น “เจ้าของ” ของเกมที่สามารถบอกเลิกสัญญาดังกล่าวได้แต่เพียงผู้เดียว 

ทาง Alexandre Miguel Mestrae ทนายความด้านกีฬาระหว่างประเทศได้กล่าวกับ BBC ว่านอกเหนือจากเหตุการณ์ครั้งใหญ่เช่น สงคราม หรือเหตุก่อความไม่สงบ ถ้า IOC มีเหตุอันควรเชื่อตามดุลยพินิจของตนแต่เพียงผู้เดียวว่าความปลอดภัยของผู้เข้าร่วมจะถูกคุกคามหรือตกอยู่ในอันตรายอย่างร้ายแรง การแพร่ระบาดโควิด-19 ก็อาจถือว่าเป็นภัยคุกคามดังกล่าวได้ ซึ่งกฎบัตรโอลิมปิกยังกำหนดอีกว่า IOC ควรรับรอง “สุขภาพของผู้เข้าแข่งขัน” และส่งเสริม “การแข่งขันกีฬาที่ปลอดภัย” 

อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่า IOC มุ่งมั่นจะดำเนินต่อไป โดยมีข้อกำหนดว่าผู้เข้าร่วมงานจะต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบ และนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันจะต้องกักตัว 3 วันก่อนมาโอลิมปิก ทั้งนี้ยังคงตรวจโควิดรายวันสำหรับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 

ดังนั้น หากญี่ปุ่นหากต้องการยกเลิกสัญญาเพียงฝ่ายเดียว ทางศาสตราจารย์ Jack Anderson จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นได้กล่าวว่า ความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดจะตกอยู่กับคณะกรรมการจัดงานในญี่ปุ่น 

แม้ว่า IOC บอกเลิกสัญญาดังกล่าวด้วยเช่นกันและมีประกันคุ้มครองความเสียหาย ก็ไม่สามารถจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายการลงทุนทุกอย่างทั่วประเทศ เช่น การเตรียมรับนักท่องเที่ยวจากภาคโรงแรมและร้านอาหารที่ต้องปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อการนี้โดยเฉพาะ 

ราคาที่ต้องจ่ายจากการเลื่อน โอลิมปิก 2020 

ต่อให้ญี่ปุ่นตัดสินใจจัดงานโอลิมปิกต่อเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจประเทศเสียหายไปมากกว่านี้ แต่ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตลอดขั้นตอนเริ่มวางแผนจนถึงตอนนี้อยู่ที่อย่างน้อย 3 แสนล้านเยน (2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และยิ่งถ้าไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมการแข่งขันก็จะเสมือนเป็นการทิ้งระเบิดครั้งใหญ่ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ที่รายได้หลักล้วนมาจากผู้เข้าชมการแข่งขันทั้งหมด

นอกจากนี้ทั้ง IOC และญี่ปุ่นต้องปรับแผนการตลาดใหม่ ก่อนหน้านี้คณะกรรมการผู้จัดงานยังคงพึ่งพาสปอนเซอร์ภายในประเทศทั้ง 68 ราย นำโดย Asahi Beer ผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่ของประเทศ ซึ่งได้ระดมทุนจากสปอนเซอร์ทั้งหมดถึง 3.3 พันล้านดอลลาร์ การเลื่อนงานมีผลทำให้สปอนเซอร์หลายรายอาจลังเลที่จะสนับสนุนงานนี้ต่อไป และทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการหาสปอนเซอร์รายใหม่ อีกทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการออกตั๋วจำนวนราว 7.8 ล้านใบ ก่อนที่จะเลื่อนการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ดังนั้น การคงชื่อการแข่งขันว่าเป็น Tokyo Olympic 2020 ก็ช่วยให้คณะกรรมการผู้จัดงานประหยัดต้นทุนทั้งสปอนเซอร์ และพันธมิตรจัดงาน ในส่วนของการเปลี่ยนสัญลักษณ์การจัดงาน บรรจุภัณฑ์ เสื้อ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับตัวงาน 

Olympic 2020 สัญญะแห่งความหวัง ฟื้นเศรษฐกิจประเทศ

จากที่ทราบกันว่าการตัดสินใจจัดงานต่อไปอาจทำให้คนญี่ปุ่นจำนวนมากไม่พอใจและเกรงกลัวว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นยิ่งส่งผลให้ทั้งเศรษฐกิจและสภาพสังคมของญี่ปุ่นย่ำแย่ลงยิ่งขึ้น แต่ก็ญี่ปุ่นก็ยังพร้อมจะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อการแข่งขันครั้งนี้ 

เนื่องจากโอลิมปิกมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์อย่างมากสำหรับประเทศ สื่อถึงการกลับมายิ่งใหญ่และแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่งของญี่ปุ่น จากที่ก่อนหน้านี้เศรษฐกิจประเทศซบเซา และเผชิญหน้ากับภัยพิบัติครั้งใหญ่ทั้งสึนามิ สารกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะรั่วไหล และเหตุการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้ 

ดังที่ญี่ปุ่นเคยเป็นเจ้าภาพจัดงานโอลิมปิกฤดูร้อนเมื่อปี 1964 ซึ่งขณะนั้น ญี่ปุ่นได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นประเทศที่สามารถฟื้นฟูและกลับมาเริ่มต้นใหม่จากสงครามโลกครั้งที่สอง จากที่ตอนแรกถูกแปะป้ายว่าเป็นผู้แพ้สงครามและต้องจ่ายค่าปฏิมากรรมสงครามจนเศรษฐกิจไม่เหลือชิ้นดี

ต่อจากนี้เราต้องมาดูกันว่าโอลิมปิกครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร จะเจอความท้าทายจากโควิด-19 อีกครั้งหรือไม่ และญี่ปุ่นจะรับมือกับเหตุการณ์โอลิมปิกที่จะจัดขึ้นในวันที่ 23 ก.ค. นี้อย่างไร 

อ้างอิง Bloomberg, BBC


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สงครามห้างไทย: ใครจะครองตำแหน่ง Landmark แห่งกรุงเทพ?

ห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยนั้นกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บทความนี้ Techsauce จึงอยากชวนมาจับตามองสงครามห้างใหญ่ใจกลางเมืองของไทยจาก 4 ผู้เล่นหลักอย่าง Siam Piwat , Central, เครือ TCC ...

Responsive image

จาง อีหมิง เจ้าของ TikTok ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งในจีน!

ปี 2024 ดูเหมือนเศรษฐกิจจีนจะไม่สู้ดีนัก ส่งผลให้จำนวนมหาเศรษฐีจีนเติบโตช้าที่สุดในรอบ 20 ปี รายงานจากสถาบันวิจัย Hurun เผยว่าในปีนี้มีเศรษฐีหน้าใหม่เพียง 54 คนที่ได้เข้าสู่รายชื่อ...

Responsive image

PwC นำประสบการณ์ผสานเทคโนโลยี SAP สร้างเครื่องมือ ‘ESG Solution’ ช่วยลูกค้าเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน

PwC ร่วมมือกับ SAP สร้างโซลูชันด้าน ESG เพื่อช่วยลูกค้าองค์กรเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืน ชื่อว่า ‘SAP Sustainability Control Tower’...