หนึ่งในโครงการที่น่าจับตาสำหรับสาย FinTech ระดับมหาวิทยาลัย เห็นจะหนีไม่พ้นโครงการ Krungsri Uni Startup 2016 ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ระดับมหาวิทยาลัยสามารถส่งผลงานเข้าร่วมแข่งขันได้ ซึ่งฝีมือของน้องๆ หลายคน ยอมรับว่าไม่แพ้รุ่นพี่กันเลยทีเดียว โดยทีมผู้ชนะเลิศปี 2016  ได้แก่ทีม Finis จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และรางวัลของทีมผู้ชนะคือโอกาสไปดูงานด้านดิจิทัลและนวัตกรรมระดับนานาชาติที่ VISA Innovation Lab ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 13-15 มี.ค. 2560 ที่ผ่านมาร่วมกับผู้บริหารคุณฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้ง/นวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และคุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย

เราไปพูดคุยกับน้องๆ ทีม Finis กันหน่อยว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

ความประทับใจจากโครงการ Krungsri Uni Startup

ตัสนีม: ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ Krungsri ที่ได้สร้างโครงการดีๆ อย่าง Krungsri Uni Startup ขึ้นมา เพื่อให้นิสิตนักศึกษาได้มีโอกาสในการแสดงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์เพื่อที่จะพัฒนาเทคโนโลยีในด้าน FinTech ต่อไป และขอขอบคุณ VISA Thailand ที่ได้มอบโอกาสที่ดีในการไปดูงานที่ VISA Innovation Lab ณ ประเทศสิงคโปร์ ทางทีม Finis รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง

โรสมาลิน: ขอบคุณ VISA Thailand และ Krungsri Fintech เป็นอย่างยิ่ง ที่มอบโอกาสดีๆเช่นนี้ ให้แก่ทีม Finis ได้ไปศึกษาดูงาน ณ ประเทศสิงคโปร์

ประสบการณ์ที่ VISA innovation lab สิงคโปร์เป็นอย่างไรบ้าง

ตัสนีม: ส่วนตัวแล้ว เรามองว่าบรรยากาศในการทำงานนั้นมีผลต่องานที่จะเกิดขึ้น โดยภายใน VISA Innovation Lab นั้น ได้สร้างบรรยากาศในการทำงานที่ดี ซึ่งเอื้อต่อการคิดและสร้างสรรค์ผลงานเป็นอย่างยิ่ง และทาง VISA นั้นได้เปิด API และมีฟังก์ชันต่างๆ มากมายที่พร้อมรองรับ Startup หน้าใหม่ที่มีไอเดียและความมุ่งมั่นในการสร้าง Product ใหม่ๆ อีกมากมาย และท้ายที่สุดนี้ทางทีม Finis ต้องขอบคุณทาง Krungsri  สำหรับโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ Krungsri RISE ต่อไป ซึ่งเป็นโครงการที่อัดแน่นไปด้วยความรู้และกลยุทธ์ต่างๆ มากมาย

โรสมาลิน: ได้เปิดมุมมองของเราให้กว้างขึ้น เห็นบรรยากาศการทำงานและสถานที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ใน VISA Singapore ทำให้เรามีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนา Project ของเราให้สามารถนำออกมาใช้ประโยชน์ได้จริง และนำแนวคิดการแก้ปัญหาอะไรที่อยู่รอบตัวเรามาปรับใช้ โดยส่วนตัวชอบแนวคิดที่ VISA พยายามที่จะสร้างฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของคนในสังคม สร้างความสะดวกสบายให้กับคนมากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ Advance มากๆ แต่มองไปรอบๆ ตัวเรา และแก้ปัญหาที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เช่น เราสามารถจ่ายค่าโดยสารรถแท็กซี่ในอินเดีย เพียงแค่ Scan QR Code ระบบก็จะทำการตัดยอดในบัญชีของเรา และทำการส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังผู้ให้บริการทันที ทั้งนี้ ทางกรุงศรี ได้ช่วยอำนวยความสะดวก และดูแลพวกเราอย่างอบอุ่นตลอดการดูงาน ณ ประเทศสิงคโปร์ รวมถึง ให้โอกาสทีมของเราในการเข้าร่วมโครงการ Krungsri Rise ต่อไป

ได้อะไรจากการเข้าโครงการ krungsri uni startup

ตัสนีม: โครงการ Krungsri Uni Startup ได้มอบโอกาสที่ดีให้แก่นักศึกษาทั่วประเทศที่มีไอเดียที่สร้างสรรค์ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้ออกสู่ตลาดได้จริง โดยภายใน Boot Camp นั้น Mentors ได้สอนพวกเราวิเคราะห์ธุรกิจโดยใช้ Business Lean Canvas ช่องทางในการโปรโมทสินค้าอย่างเช่น Facebook Canvas และการทำ Minimal Viable Product ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับทดสอบผลิตภัณฑ์ที่จะออกสู่ตลาด โดยจะสามารถรับ Feedback เพื่อนำมาปรับปรุงได้ทันที และที่สำคัญที่สุดคือโครงการนี้ทำให้เราได้รู้จักกับ Mentors เก่งๆแนวหน้าของเมืองไทย ที่ได้มาช่วยสอนวิธีคิดในเรื่องต่างๆ ทำให้เรากล้าที่จะคิดมากขึ้น และอยากพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ให้คนไทยได้ใช้งานต่อไป

โรสมาลิน: ได้พูดคุยแลกเปลี่ยน Idea กับ Mentors หลายๆท่าน ทำให้เราสามารถที่จะปรับปรุง Idea ของเราให้เป็นรูปเป็นร่างและเป็นไปได้จริงมากขึ้น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการ การเขียน Lean Canvas  Pitching skill รวมถึงการใช้ Facebook ในการทำ Marketing และความรู้อื่นๆอีกมากมาย การเข้าร่วมโครงการ Krungsri Uni Startup  เป็น One of the best experiences in my university life และเป็นประสบการณ์ที่เราไม่สามารถหาได้ในห้องเรียน ทำให้เราได้นำสิ่งที่เรียนในคณะมาปรับใช้กับการเริ่มต้นทำธุรกิจจริงๆ ได้รู้จักๆเพื่อนจากต่างคณะและต่างมหาวิทยาลัย และที่สำคัญได้รู้จักกับ Mentors ที่เก่งๆ หลายๆ ท่าน ขอบคุณนะคะ