จะสังเกตได้ว่าในระยะหลังมานี้เรามักจะเห็นการปรับตัวของธุรกิจในการเข้าสู่ Metaverse มากขึ้นซึ่งอาจจะไม่ได้หวือหวาเท่ากับช่วงแรก ๆ ที่ทุกพื้นที่ต่างมีการพูดถึงกัน แต่เราเห็นการความเปลี่ยนแปลงในแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะ Metaverse ถือเป็นการรวมเทคโนโลยีต่าง ๆเข้ามาไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น การรวมกันของ blockchain กับ AI (artificial intelligence), VR (virtual reality) และ AR (augmented reality) มารวมกันเป็น XR (extended reality) ที่จะทำให้เกิดประสบการณ์ระหว่างแบรนด์กับ ลูกค้าที่สามารถเกิดการโต้ตอบกันได้ ในบทความนี้เราจะพามาทำความเข้าใจกันว่าเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มารวมกันนั้นจะทำงานร่วมกันได้อย่างไรในโลก Metaverse
ใน Metaverse เทคโนโลยี XR จะช่วยสร้างโลกเสมือนจริงที่ไม่เคยมีมาก่อน และในส่วนของเทคโนโลยี Blockchain สิ่งนี้จะนำมาซึ่งการกระจายอำนาจ มีความโปร่งใส รวมถึงไม่สามารถแก้ไขธุรกรรมที่ผ่านมาได้
ส่วนต่อมาคือ Nonfungible tokens (NFTs) ซึ่ง NFT จะมาเป็นองค์ประกอบหลักของ metaverse รวมถึงเป็นผลิตภัณฑ์ของ blockchain โดยวัตถุทั้งหมดใน metaverse เช่น ที่ดิน ยานพาหนะ เรือ รายการของขวัญ จะอยู่ในรูปแบบ NFT
และสุดท้าย AI ใน metaverse จะช่วยลดปัญหาและข้อจำกัดต่างๆ เช่น คุณภาพการโต้ตอบที่ไม่ดี รวมถึงยังช่วยสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การประชุมเสมือนจริงแบบสด ซึ่งเพิ่มการปฎิสัมพันธ์ที่ง่ายมากยิ่งขึ้น และในอนาคตความสามารถของ metaverse จะทำให้การใช้งานของอวาตาร์ง่ายขึ้น และในการเล่นเกมจะเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การโต้ตอบมีส่วนร่วมมากขึ้น รวมทั้งธุรกิจก็ประสบความสำเร็จมากขึ้นเช่นกัน
Conversational AI จะคล้ายกับการสื่อสารระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ซึ่ง Voice assistant AI จะช่วยขับเคลื่อนกรณีการใช้งานหลายอย่างในโลก Metaverse เช่น ความช่วยเหลือด้านการดำเนินชีวิตและคำแนะนำเฉพาะบุคคล
และ AI concierge ใน Metaverse เป็นเหมือนเครื่องมือที่นำเสนอคำแนะนำเฉพาะตามความชอบของอวาตาร์(Avatar) โดยคำนึงถึงปริมาณข้อมูลที่มีอยู่ในทุกคน ทั้งนี้ Voice AI สามารถแปลความหมายของคำขออวาตาร์ในภาษาที่มีความเป็นมนุษย์และเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยคำนึงถึงรสนิยมและความชอบของแต่ละบุคคล
XR ทำงานร่วมกันแบบเปลี่ยนสภาพแวดล้อม (Dynamic Collaboration) ใน Metaverse ซึ่งช่วยให้พนักงานออฟฟิศสามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมแบบออฟฟิศเดิมได้ โดย Metaverse ที่ขับเคลื่อนโดย AI จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานเทคโนโลยี้นี้ได้อย่างสนุกสนานมากยิ่งขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นการนำเทคโนโลยี XR มาใช้ในสภาพแวดล้อมการทำงานในโลก Metaverse จะช่วยให้บรรยากาศการทำงานใกล้ชิดและสนิทสนมมากยิ่งขึ้น และเทคโนโลยี XR จะมีประสิทธิภาพอย่างยิ่งโดยเฉพาะเมื่อมีเกณฑ์การใช้งานที่ไม่ซับซ้อนและสามารถปฏิบัติตามได้โดยง่าย เช่น ขณะที่เล่นเกมกระดาน คุณอาจต้องการแสงสลัวและดนตรีโดยเฉพาะ ซึ่งเทคโนโลยี XR จะช่วยสร้างในสิ่งที่คุณต้องการได้
หลังจากที่ได้เห็นความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีต่าง ๆที่ได้กล่าวถึงไปแล้วนั้น สิ่งที่เป็นที่น่าสังเกตุว่ากว่า Metaverse จะเกิดได้จริง ต้องก้าวข้ามความท้าทาย โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นองค์ประกอบอย่างไรบ้าง
อย่างเทคโนโลยี VR และ AR ที่ยังมีข้อจำกัดตรงความบกพร่องในการมองเห็นสภาพแวดล้อม ข้อจำกัดด้านกราฟิก และกิจกรรมบน Metaverse ของยุคก่อนนั้นเป็นไปอย่างเรียบง่าย ไร้ซึ่งความซับซ้อนทางเทคนิคจึงซึ่งทำให้กรณีการใช้งานนั้นไม่มาก แต่ด้วยความก้าวหน้าใน VR และ AR และการรวม Metaverses เข้ากับ AI ทำให้กรณีการใช้งานเพิ่มขึ้นและมีการสร้างรายได้ตามมาในเวลาต่อมา
เทคโนโลยี Metaverse เผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก โดยปัญหาที่เทคโนโลยี Metaverse พบเจอคือ การนำมาใช้งาน แม้จะค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปตามโปรเจ็กต์ต่างๆแล้วก็ตาม และการผสานรวมกันของเทคโนโลยีอย่าง XR และ AI จะส่งผลให้มีส่วนร่วมยังโลกเสมือนจริงมากขึ้นรวมถึงมีการใช้งานที่ดีมากยิ่งขึ้นด้วย จึงทำให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในระบบนิเวศมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม Emergen Research ได้มีการคาดการณ์ตลาด Metaverse จะมีมูลค่าถึง 8 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 และจะมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Metaverse ในหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ การเล่นเกม การศึกษา การค้า บริการของรัฐบาล การเข้าสังคม และอื่นๆ อีกมากมาย
อ้างอิง
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด