“เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่?” คำถามนี้เป็นที่ถกเถียงกันมาเป็นเวลาหลายสิบปี แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดจะดีหรือไม่ดีนั้นล้วนขึ้นกับการนำไปใช้งาน และอย่างที่ทราบกันดีว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาคำว่า Metaverse ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ในหลายอุตสาหกรรมก็ต่างหันมาสร้างสำนักงานและลงทุนในโลกเสมือนนี้ และทุกครั้งที่เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีย่อมเกิดผลกระทบกับคนจำนวนมาก บางคนได้ประโยชน์อย่างมหาศาล บางคนอาจตกหล่นหรืออาจเข้าไม่ถึง 

ซึ่งในการจะเปลี่ยนแปลงจาก Reality World ไปสู่โลกเสมือนครั้งนี้ก็เช่นกัน ที่ย่อมจะส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของคนทั่วไป ดังนั้นการจะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมจึงเป็นประเด็นที่น่าจับตามอง 

วันนี้ทางทีม Techsauce จึงสรุปเนื้อหาสำคัญจากงาน TECHSAUCE GLOBAL SUMMIT2022 ในหัวข้อ Metaverse for Positive Impacts 

ซึ่งบรรยายโดย คุณพันธบัตร สันติมากร Chief of Business Development and Strategy, Translucia โปรเจค metaverse สเกลระดับโลกโปรเจคแรกของคนไทย พัฒนาโดย T&B Media Global (Thailand) ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการพัฒนา metaverse ที่ไม่เหมือนใคร นั่นคือการมอบประสบการณ์ metaverse ที่โฟกัสที่การสร้างความสุขแทนที่จะเห็นเพียงผลกำไรเชิงธุรกิจ โดยมุ่งยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้ใช้งานทั้งในโลกจริงและโลกเสมือนที่เชื่อมถึงกันอย่างไร้รอยต่อ ด้วยการโอบรับและผลักดันขีดจำกัดของเทคโนโลยี Web3 อันล้ำสมัย

และร่วมบรรยายโดยคุณภารุต เพ็ญพายัพ ผู้อำนวยการโครงการ metaverse ของ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยรายแรกที่ลงทุนพัฒนา metaverse อีกทั้งยังเป็นพาร์ทเนอร์รายแรกที่เข้าร่วมเป็นหนึ่งกาแลคซี่ในจักรวาล Translucia ซึ่งพัฒนา metaverse โดยใช้แนวคิดเดียวกับการสร้างอสังหาริมทรัพย์นั่นคือ purpose-driven หรือการใช้เป้าหมายที่ต้องการสร้างโลกที่อยู่ดี มีสุขสำหรับทุกคนและทุกสรรพสิ่งเป็นประเด็นหลักในการทำธุรกิจ ที่ metaverse ของ MQDC ก็ใช้แนวคิดและใช้เป้าหมายเดียวกันนี้เป็นสารตั้งต้นในการพัฒนาเช่นกัน 

ปัจจุบันเส้นกั้นระหว่างเทคโนโลยีและคนเราจะเริ่มบางลงจนเทคโนโลยีเป็นส่วนที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน การจะใช้ชีวิตโดยไม่มีอินเตอร์เน็ทดูเป็นสิ่งที่ยากขึ้นเรื่อยๆ แต่การเข้ามาของ Metaverse นี้จะเป็นอีกขั้นของการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน เพราะเป็นการย้ายจาก Reality world ไปสู่ Virtual World ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์กับความสุขในชีวิตประจำวัน (เช่น การเล่นเกม หรือเสพสื่อบันเทิงเป็นต้น) แม้ว่าตอนนี้ Metaverse จะยังอยู่ในช่วงพัฒนาหรือช่วงเริ่มต้น แต่คนก็เริ่มได้เรียนรู้ในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น ไม่ว่าจากการลงทุนในการถือ Tokens หรือ NFTs ต่างๆ และผ่านสื่อบันเทิงอย่างเกม หรือการรับชมรับฟังงานศิลปะและดนตรี ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับ Metaverse ในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้คนได้เรียนรู้และเข้าใจการใช้งาน แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ที่เราจะย้ายไปสู่โลกเสมือนได้แบบ 100% ไม่มีใครที่สามารถทนใส่แว่น VR ได้ทั้งวัน เพราะมันส่งผลเสียต่อสายตา แต่ว่าเราสามารถหา Balanced ระหว่างทั้ง 2 โลกนี้ได้ และเก็บเกี่ยวอรรถประโยชน์จากทั้ง 2 โลกได้เหมือนกัน ทั้งการหารายได้และกิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย

ข้อดีที่ชัดเจนของ Metaverse นั่นคือช่วยขจัดอุปสรรคและเงื่อนไขต่างๆ ที่กั้นระหว่างผู้คนทำให้ไม่สามารถเข้าถึงหรือเชื่อมต่อกันได้ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศ เวลา การเดินทางใน Real World ณ โลกเสมือนคนสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ง่ายดาย เราสามารถติดต่อกับคนอีกซีกโลกได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสบนโทรศัพท์มือถือ 

ตัวอย่างจุดเด่นข้อหนึ่งที่น่าสนใจของ Metaverse นั่นคือสามารถออกแบบการใช้งานเพื่อช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม ด้วยคือการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเกม อย่างเช่น เกม Concrete Genie โดยจุดเริ่มต้นของตัวละครหลักคือโดนกลั่นแกล้ง (Bullying) และเอาชนะปัญหานี้ด้วยภาพวาด กล่าวคือเป็นการนำความคิดสร้างสรรค์กับเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ หรือเกม Massira เกมแนวพัซเซิลผจญภัยที่ขับเคลื่อนด้วยเรื่องราวของเด็กผู้หญิงกับคุณยายที่พยายามจะหนีจากช่วงเวลาที่ยากลำบากจากการก่อการร้ายในซีเรียด้วยการเดินเท้าไปยังยุโรปเพื่อแสวงหาความสงบสุขในชีวิต อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคือเกม Beyond eyes ที่เป็นเรื่องราวของเด็กหญิงวัย 10 ขวบที่สูญเสียการมองเห็นจากอุบัติเหตุจึงทำให้ต้องอาศัยการรับรู้จากการสัมผัสและเสียง ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นเข้าใจการใช้ชีวิตและโลกของคนตาบอดมากขึ้น ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างของอุตสาหกรรมเกมใน Metaverse ซึ่งนอกจากจะเป็นกิจกรรมในการพักผ่อนที่ดี และยังสามารถออกแบบประสบการณ์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ช่วยลดปัญหาความขัดแย้ง ความไม่เท่าเทียมในสังคม ทำให้เราสามารถเข้าใจคนกลุ่มอื่นๆ ได้ ผ่านภาพวิดีโอเกมที่สวยงามและสร้างสรรค์

Virtual Scarcity vs Social Equality

บางคนอาจมองว่า NFT และ Token เป็นสิ่งที่ต้องมีต้นทุนถึงจะถือครองได้ อย่างที่เห็นนักลงทุนเข้ามาเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น หรือการจะเล่นเกมก็ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อเกมมาเล่น (Pay to Play) แต่ในอีกด้านหนึ่งนี่ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ใครๆ ก็สามารถเข้าถึงเพื่อสร้างรายได้ได้ เช่น การสร้างรายได้จาก NFT หรืออาชีพต่างๆ ที่มีมากขึ้นใน Metaverse ซึ่งเราอาจไม่สามารถประกอบอาชีพนั้นได้ในชีวิตจริง แต่ทำได้บนโลกเสมือน อย่างตอนนี้ที่หลายคนมีงานพาร์ทไทม์โดยการเป็นนักออกแบบใน Metaverse อาจกล่าวได้ว่าเป็นการ Earn to Give หรือแม้แต่เกมก็ยังมีรูปแบบ Play to Earn ที่สามารถสร้างรายได้เช่นกัน แม้ว่าในตอนนี้อาจมีต้นทุนในการเริ่มต้น (เช่น ค่าธรรมเนียม หรือที่มักเรียกกันว่าค่า Gas) แต่จะเห็นได้ว่ามีการพัฒนา Solution ใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ต้นทุนในการเข้าถึงถูกลง และมีความเร็วที่มากขึ้น สามารถรองรับธุรกรรม และผู้ใช้งานในจำนวนที่มากขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม การจะใช้เทคโนโลยีนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมนอกจากจะต้องเริ่มต้นด้วยจุดประสงค์ที่ดีในการนำไปใช้งานแล้ว การมีส่วนร่วมของคนใน Community ก็สำคัญในการเข้ามาควบคุมและจัดหมวดหมู่เนื้อหาก็เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เหมาะสมกับแต่ละผู้ใช้งาน และเกิดบรรยากาศที่ดีใน Community ซึ่งในฐานะแพลตฟอร์มอย่าง Translucia นั้นก็มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดการปิดกั้นความฝันของผู้คนด้วย