เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
THE STANDARD ให้ความสำคัญต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้โดยไม่มีการปรับตั้งค่าใดๆ แสดงว่าท่านยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
SK Group กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับต้น ๆ ที่มีการดำเนินงานในอุตสาหกรรมที่เป็นแบบดั้งเดิมของเกาหลีใต้ ได้ออกมาประกาศว่า SK Square ที่เป็นขาธุรกิจที่มุ่งไปในการลงทุน จะหันมาลงทุนโดยเฉพาะในด้านที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse
Huh Seok-joon กรรมการผู้จัดการของ SK Group กล่าวในการสัมภาษณ์ว่า ลูกค้าของ SK Group จะสามารถทำธุรกรรมด้วย Cryptocurrency ในการช้อปปิ้ง สตรีมมิ่ง และอื่น ๆ ที่อยู่ในคอมมูนิตี้ Metaverse ของบริษัทฯ ได้
และเพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจตามทันความเปลี่ยนแปลงในโลกเทคโนโลยี SK Square ก็ได้มุ่งหน้าลงทุนในกิจการต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ SK Group ตามทันความต้องการของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นได้ โดยเมื่อเดือนก่อน SK ได้มีการลงทุนใน Cryptocurrency และหนึ่งในบริษัทลูกของ SK Group ก็มีแผนที่จะออกเหรียญเองในปีหน้านี้
“ธุรกิจของเราจะต้องก้าวเข้าสู่ Metaverse และการปฏิสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นจะเปลี่ยนจากหน้าจอโทรศัพท์ไปสู่โลก Metaverse อีกทั้งสกุลเงินใหม่จะถูกใช้บนแพลตฟอร์มของเรา” Huh Seok-joon กล่าว
SK Square ขาธุรกิจที่แยกตัวออกมาจากบริษัทแม่ SK Telecom ซึ่งเป็นบริษัทที่เดินในอุตสาหกรรมด้านการผลิตมาอย่างยาวนาน กำลังดำเนินงานด้านการลงทุนตามแนวทางเดียวกันกับ SoftBank Group ที่มุ่งลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคต
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SK Square ได้ประกาศ ลงทุนใน Korbit บริษัทเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย Cryptocurrency ของเกาหลีใต้ ด้วยเงินลงทุนกว่า 9 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 76 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และถึงแม้ว่า ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Korbit จะมีเพียง 0.3% แต่ SK Square ก็มองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเข้าสู่ธุรกิจคริปโตฯ
SK Square มีแผนจะสร้างเหรียญของตัวเองบน Korbit เพื่อให้ผู้ใช้งานนำมาซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของ SK Group ได้ โดย SK Group มีการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่ด้านโทรคมนาคม ผลิตชิป ไปจนถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้ง และบริการเรียกรถรับ-ส่ง
โดยแพลตฟอร์ม Metaverse ที่จะสร้างขึ้นมานั้น จะเรียกว่า “ifland”
นอกจากนี้แล้ว การลงทุนของ SK Square ยังเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นให้กฎหมายและข้องปฏิบัติต่าง ๆ ถูกจัดทำให้รัดกุมมากขึ้น หลังจากที่ทางเกาหลีใต้ ได้เดินหน้าปิดกิจการของบริษัทด้าน Cryptocurrency มากขึ้น รวมถึงอนุญาตให้บางแห่งดำเนินกิจการได้ โดยจะต้องเปิดให้ผู้ใช้งานลงทะเบียนด้วยชื่อจริง และบัญชีธนาคาร
ไม่เพียงเท่านี้ SK Square ยังตั้งเป้าที่จะลงทุนเพิ่มในบริษัทด้านคริปโตฯ ของต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการก้าวสู่ Ecosystem ที่ใหญ่ขึ้น และยังมีแผนที่จะลงทุนในสกุลเงินอื่น ๆ อย่างเช่น Bitcoin ถ้าทางการมีการผ่อนผันหรือมีการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น
อ้างอิง: Bloomberg