Huawei สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในตลาดสมาร์ทโฟนอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว Mate XT สมาร์ทโฟนจอพับ 3 ทบรุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกับยอดจองล่วงหน้าทะลุ 4 ล้านเครื่อง ทั้งๆ ที่ราคาเปิดตัวสูงถึง19,999 หยวน หรือ 95,000 บาท (รุ่นเริ่มต้น) ทำให้เกิดคำถามว่าอะไรคือปัจจัยที่ผลักดันให้ Mate XT ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามเช่นนี้? ลองมาวิเคราะห์ 10 เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Mate XT ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งกัน
Huawei ทุ่มเทพัฒนานวัตกรรมจอพับ 3 ทบมานานกว่า 5 ปี จนในที่สุดก็สามารถเปิดตัว Mate XT สมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่สามารถพับหน้าจอได้ถึง 3 ทบ การเปิดตัวนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการประกาศศักดาของ Huawei ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมที่ไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
Mate XT ไม่เพียงแต่มีนวัตกรรมที่ล้ำสมัย แต่ยังมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามและพกพาสะดวก เมื่อกางออกเต็มที่ Mate XT มีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 10.2 นิ้วและมีความบางเพียง 3.6 มม. นอกจากนี้ยังมีคีย์บอร์ดขนาดพกพา(อุปกรณ์เสริม) ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Mate XT ได้ ทำให้การทำงานหรือพิมพ์ข้อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Mate XT อัดแน่นไปด้วยสเปกที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ OLED LTPO ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียด 3K, กล้องหลัง 3 ตัว (กล้องหลัก 50MP, กล้องมุมกว้าง 12MP และกล้อง Periscope ซูม 5.5 เท่า), แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5600 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Super Fast Charge, รองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียม และที่สำคัญคือใช้ชิปประมวลผล Kirin ที่ Huawei ผลิตขึ้นเอง พร้อมเทคโนโลยี AI ในตัว
Huawei เลือกเปิดตัว Mate XT เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก Apple เปิดตัว iPhone 16 เป็นการส่งสัญญาณท้าชนและแสดงให้เห็นว่า Huawei ไม่เกรงกลัวคู่แข่งจากสหรัฐฯ การเปิดตัวในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนี้ทำให้ Mate XT ได้รับความสนใจจากสื่อและผู้บริโภคอย่างมาก และยังเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ของ Huawei ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมที่ไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ
ในขณะที่ Apple เน้นการพัฒนา AI ใน iPhone 16 แต่ฟีเจอร์นี้ยังไม่พร้อมใช้งานในจีน เนื่องจากข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ ทำให้ Mate XT ซึ่งโดดเด่นด้านนวัตกรรมฮาร์ดแวร์ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจีนได้มากกว่า ผู้บริโภคจีนจำนวนมากให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่จับต้องได้และเห็นผลได้ชัดเจน เช่น หน้าจอที่พับได้ กล้องความละเอียดสูง หรือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน
หลังเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ Huawei กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยการเปิดตัว Mate 60 Pro ที่ใช้ชิปประมวลผล Kirin ผลิตเอง และปัจจุบัน Huawei ครองส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในจีนสูงสุดถึง 42% การกลับมาครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Huawei สามารถแข่งขันในตลาดได้อีกครั้ง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี
ความสำเร็จของ Mate 60 Pro สร้างกระแสความรักชาติในจีน ผู้บริโภคหันมาสนับสนุนแบรนด์ในประเทศมากขึ้น ทำให้ Mate XT ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดของ Huawei ได้รับแรงหนุนจากกระแสนี้ด้วย
ตลาดสมาร์ทโฟนพับได้ทั่วโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในไตรมาส 2 ปี 2024 มียอดจัดส่งเพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบกับปีก่อน Huawei เป็นผู้นำตลาดนี้ด้วยส่วนแบ่ง 27.5% แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความต้องการสมาร์ทโฟนจอพับได้สูงขึ้น และ Huawei ก็สามารถตอบสนองความต้องการนั้นได้เป็นอย่างดี
Mate XT มียอดจองล่วงหน้าสูงถึง 4 ล้านเครื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของตลาดที่มีต่อผลิตภัณฑ์นี้อย่างชัดเจน ผู้บริโภคจำนวนมากต้องการเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนจอพับ 3 ทบรุ่นแรกของโลก แม้ราคาจะค่อนข้างสูงก็ตาม
การเปิดตัว Mate XT หลัง iPhone 16 เพียงนาน ช่วยดึงดูดความสนใจจากสื่อและผู้บริโภคได้มาก ทำให้ Mate XT กลายเป็นที่พูดถึงและได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด แทนที่ iPhone 16 จะได้รับความสนใจไปเต็มๆ แต่ Mate XT กลับมาแย่งซีนได้สำเร็จ
ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Huawei Mate XT ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แม้จะมีราคาสูง แต่ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ดีไซน์ที่โดดเด่น และการตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ทำให้ Mate XT ได้รับความสนใจและสร้างยอดจองได้อย่างถล่มทลาย Huawei ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการพัฒนานวัตกรรมที่เหนือชั้น แต่ยังสามารถท้าทาย Apple ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมได้อย่างเต็มภาคภูมิ อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ Huawei ในตลาดจีน และศักยภาพที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต
อ้างอิง Reuters, NIKKIE, asiafinancial
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด