เชื่อว่าการเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัวนั้นเป็นอาชีพในฝันของใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นเด็กจบใหม่หรือพนักงานที่ผ่านการทำงานมาแล้ว แต่การที่พวกเขานั้นจะก้าวไปถึงฝั่งฝันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเรื่องสภาพเศรษฐกิจ การแข่งขันและเงินทุนที่เริ่มประดังประเดเข้ามาใส่ผู้ที่อยากจะเปิดกิจการของตัวเอง ซึ่งคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากนั้นจะต้องผ่านการคิด กลั่นกรอง วางแผนธุรกิจของตัวเองอย่างรัดกุม ถ้าหากไม่ได้มีการวางแผนที่รัดกุม ความสำเร็จนั้นก็อาจจะเข้ามาแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงยุคหลัง COVID-19 ที่เศรษฐกิจนั้นมีความไม่แน่นอนสูงและมีความผกผันอยู่ตลอดเวลา  NIA พารู้จัก 4 ตัวช่วยจาก Startup ไทย สำหรับคนที่อยากจะเป็นเจ้าของกิจการหรือกำลังหาตัวช่วยในการบริหารกิจการในรายการ Startup Marketplace

บริหารกิจการง่าย ๆ ด้วย 4 ตัวช่วยจาก Startup ไทย

1. Choco CRM

Choco CRM เกิดขึ้นจากเทรนด์การตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการทำการตลาดแบบคาดเดา (Blind Side) เข้าสู่ยุคที่ต้องทำการตลาดด้วยข้อมูล Choco CRM นั้นเป็นทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน CRM (Customer Relationship Management) และการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) แบบเฉพาะด้าน ประกอบกับการสร้างแพลตฟอร์ม (Platform) ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยธุรกิจของลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านการบริหารจัดการธุรกิจ, การบริหารจัดการลูกค้า และการวางแผนทางด้านการตลาด โดย Choco CRM นั้นมีอยู่ 5 บริการหลักด้วยกัน ได้แก่

• CRM ระบบบริหารจัดการสมาชิก การสร้างฐานลูกค้าประจำ โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ 
• POS ระบบการจัดการบริหารหน้าร้านค้า โปรแกรมขายหน้าร้านที่ใช้งานง่าย ครอบคลุมทุกฟังก์ชัน รวดเร็ว แม่นยำ และลดความผิดพลาดในขั้นตอนต่าง ๆ
• Brand Loyalty (Enterprise) ระบบที่จะสร้างแคมเปญเพื่อเก็บฐานข้อมูล โดยที่แบรนด์สามารถกำหนดทิศทางหรือกิจกรรมที่ต้องการให้ User เข้ามาร่วมสนุกเล่นได้ง่าย และยังดีไซน์รูปแบบ UI/UX ได้ตามความต้องการของแบรนด์ 
• LINE OA CRM Management สร้าง Brand Engagement ง่ายๆผ่าน Line OA โดยช่วยให้แบรนด์ของคุณสามารถเก็บฐานข้อมูลและติดต่อลูกค้าด้วยการทำ Loyalty Program 
• White Label Application บริการรับทำ Application ภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ

Choco CRM จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

จากผลสำรวจที่ Choco นั้นได้ทำ CRM มาตลอด 5 ปี พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาซื้อของหรือสินค้ามากกว่า 70% จะเข้ามาที่ร้านเพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น ทำให้ร้านค้ามีโอกาสได้รายได้จากลูกค้าเพียงแค่ครั้งเดียว ซึ่งถ้าหากร้านค้ามีโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าได้ จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับร้านค้าได้อย่างมั่นคง และทำให้ร้านค้าหรือแบรนด์รู้จักลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยจะส่งผลในการทำการตลาดหรือโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มเพื่อกระตุ้นยอดขาย 

2. Creden Asia Co., Ltd 

Creden Asia เป็นบริษัท Startup สัญชาติไทยที่ดำเนินธุรกิจในด้าน FinTech ซึ่งมีบริการอยู่ 3 ส่วน คือ eKyc, eSignature และ Credit Score

• eKyc คือ ระบบพิสูจน์ตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการระบุว่าบุคคลคนนั้นเป็นคนที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่
• eSignature คือระบบลงนาม (เซ็นเอกสาร) ทางอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้เราสามารถทำธุรกรรมต่าง ๆ จากที่ไหนก็ได้
• Credit Score คือระบบการให้คะแนนและให้บริการเข้าถึงข้อมูลบริษัททั่วประเทศ

ซึ่งกลุ่มลูกค้าของ Creden Asia นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ

• กลุ่มลูกค้า SME และผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ทั่วไป ลูกค้ากลุ่มนี้จะสามารถใช้บริการได้ผ่านบริการ Self-Service บนเว็บไซต์ Creden.co
• กลุ่มลูกค้า Coporate ขนาดใหญ่และองค์กรภาครัฐ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการบริการที่ซับซ้อนขึ้นและใหญ่ขึ้น โดยจะมีทีมงาน Creden Asia เข้าไปช่วยดูเป็น Project based

Creden Asia จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

บริการทางด้าน eKyc และ eSignature รวมทั้ง Credit Score จะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความ สะดวกสบายมากขึ้นในการทำธุรกรรมด้านต่าง ๆ ลดการเดินทาง ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะ Credit Score นั้นช่วยให้ SME สามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งช่วยให้ทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

3. Energy Response Co., Ltd

Energy Response เป็น Platform ที่นำหลักการ IoT มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการออนไลน์ของพารามิเตอร์ที่สำคัญภายในอาคาร โรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ โรงพยาบาล สถานศึกษา หรือห้างสรรพสินค้า เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบน้ำ ระบบอากาศ ระบบเครื่องจักร และระบบเซลล์แสงอาทิตย์ ในรูปแบบ Real-time ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ คาดการณ์ถึงแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น ตรวจสอบหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามมาตรฐานสากล หรือตามมาตรฐานการตั้งค่าของผู้ใช้งาน เพื่อทำให้เกิดการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจ และเมื่อมีการใช้งานที่ผิดปกติก็ยังมีระบบแจ้งเตือนผ่าน LINE และ Email อีกด้วย

Energy Respons จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

บริการของ Energy Response นั้นจะช่วยแก้ Pain Point ใน 4 จุดด้วยกัน

1. ลดระยะเวลาที่ซับซ้อนในการทารายงานหรือจดบันทึกข้อมูลด้านพลังงาน
2. แก้ไขเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติได้อย่างทันท่วงที ผ่านการสื่อสารด้วย LINE หรือ Email
3. สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านพลังงานประเภทต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
4. ลดค่าดำเนินการทางธุรกิจหรือพัฒนาศักยภาพของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง

4. Horganice Co., Ltd

Horganice เป็นบริษัทผู้ให้บริการระบบบริหารจัดการหอพักอพาร์ทเม้นท์ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มกำไร โดยระบบนั้นสามารถทำงาน ดูแลและบริหารหอพักจากที่ไหนก็ได้ด้วยโทรศัพท์ เครื่องเดียวผ่านแอพลิเคชัน คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต ซึ่งจะช่วยลดการทำงานหอพักจาก 15 วันเหลือเพียง 5 นาที

โดยบริการของ Horganice นั้นมีอยู่ 2 ส่วนหลัก ดังนี้

• System: ระบบของ Horganice นั้นสามารถรองรับหอพักตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ โดยในตอนนี้ก็มีผู้ใช้งานค่อนข้างครอบคลุมประมาณ 8,000 หอพักและอพาร์ทเม้นท์
• Hardware: โดยจะเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จัดจำหน่ายให้หอพักอพาร์ทเม้นท์ เพื่อให้ทีมงานสามารถทำงานง่ายสะดวกมากขึ้นหรือเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ เช่น ตัวมิเตอร์ดิจิทัลไฟฟ้า, ตู้กาแฟหยอดเหรียญ หรือไม่ว่าจะเป็นเครื่องอ่านบัตรประชาชนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่หอพัก 

Horganice จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

ปกติการบริหารหอพักนั้นจะต้องมีหลายเรื่องที่ต้องทำ ซึ่งทาง Horganice ก็ได้ทำการศึกษาและได้ผลเฉลี่ยออกมาว่าเจ้าของหอพักหรือพนักงานต้องเข้าหอพัก 15 วันต่อเดือนอย่างต่ำเพื่อเข้าไปจัดการงานต่าง ๆ ในหอพัก ทำให้บริการของ Horganice นั้นเข้ามาช่วยประหยัดเวลา โดยสามารถที่จะทำงานจากที่ไหนที่ได้และลดเวลาการทำงานมาเป็นแค่ 5 นาทีต่อเดือนเท่านั้น 

ติดตาม Startup ไทยที่มีโซลูชันและบริการดี ๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับ Startup ไทยในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่

FB Page: Startup Thailand

FB Group: Startup Thailand Marketplace

บทความนี้เป็น Advertorial