Telehealth หาหมอแบบออนไลน์ หายไว จ่ายน้อย | Techsauce

Telehealth หาหมอแบบออนไลน์ หายไว จ่ายน้อย

Telehealth หรือการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชน ทำให้ประชาชนนั้นสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพร่างกายได้มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล และช่วยลดปัญหาความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลอีกเช่นกัน ซึ่ง Telehealth นั้นได้สนับสนุนการให้บริการทางสุขภาพที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาจากแพทย์กับคนไข้ การให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ในที่ห่างไกล และการให้ความรู้เรื่องยาเภสัชกรสู่ประชาชน

จากการสำรวจล่าสุดพบว่า COVID-19 ได้ทำให้พฤติกรรมการใช้บริการทางการแพทย์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว จากการใช้งาน 11% ในปี 2019 ได้เพิ่มขึ้นเป็น 76% ในช่วงการระบาดของ COVID-19 และการให้บริการ Telehealth นั้นเพิ่มขึ้น 57% เป็น 64% 

ในภาวะความเสี่ยงทางด้านสุขภาพนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การ มหาชน) หรือ NIA ได้มี 4 Startup ทางการแพทย์มาแนะนำในรายการ “Startup Marketplace is LIVE Now” เพื่ออำนวยความสะดวกในการรักษาที่ดีและสุขภาพที่ดีขึ้นของทุกคน

4 Startup ทางการแพทย์ หาหมอแบบออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

1.Chiiwii

Chiiwii แอปพลิเคชันบนมือถือสำหรับปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ผ่านวีดี โอคอล เสียงและแชท โดยสามารถทำนัดล่วงหน้าได้ จ่ายเงินผ่านแอป และสามารถใช้สวัสดิการองค์กรหรือตัดประกันสุขภาพได้ มีระบบจัดส่งยาตามคำสั่งแพทย์ไปถึงที่บ้าน และการบันทึกข้อมูลสุขภาพอย่างปลอดภัยบนคลาวด์

Chiiwii จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

บริการของ Chiiwii นั้นจะให้ลูกค้านั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ ในราคาที่เหมาะสม ประหยัดเวลาและสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางในกรณีที่มีปัญหาสุขภาพเบื้องต้น หรือกลุ่มโรคเรื้อรัง และจะช่วยในเรื่องของ Cost Effective Time Management ในการจัดสรรทรัพยากรของโรงพยาบาลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งบริการของ Chiiwii นั้นมี Specialist ที่ครบและหลากหลายและมีหมอครอบคลุมเกือบทุกสาขา ไม่ว่าจะเป็นสหวิชาชีพ หรือแพทย์ทางเลือก

2. Doctor A to Z

Doctor A to Z เป็นผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีให้กับกลุ่มผู้ประกอบกิจการธุรกิจสุขภาพ ปรับเปลี่ยนและขยายธุรกิจในด้านออนไลน์ ด้วยโครงสร้างเทคโนโลยีที่ทันสมัย ครอบคลุมทั้งส่วน Technology และ Service Provider โดยบริการของ Doctor A to Z นั้นจะสามารถช่วยผู้ประกอบการ

  1. ลดต้นทุนการพัฒนามากกว่า 90 %
  2. ลดระยะเวลาในการพัฒนา 90 %
  3. ช่วยลดภาระงาน มากกว่า 80 %

นอกจากนี้ Doctor A to Z ยังมีรูปแบบการดูแลพนักงานและการบริหารจัดการต้นทุนด้านสุขภาพที่สามารถยืดหยุ่นให้กับองค์กรต่าง ๆ โดยให้บริการผ่านระบบ Virtual Care และ บริการ Doctor on Site ที่จะช่วยดูแลพนักงานได้ครบ 360 องศา

โดยบริการของ Doctor A to Z จะมีอยู่ 3 ส่วนหลักคือ 

  1. Hospital on Cloud: บริการระบบ Virtual Healthcare (App & Web) ในรูปแบบ White Labelling ให้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจและบริการสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลหรือ บริษัทประกัน
  2. Online Healthcare Services: บริการสุขภาพ ออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ปรึกษาแพทย์ออนไลน์, บริการการจัดการด้านยา หรือเเพ็คเกจสุขภาพออนไลน์จากเครือข่ายโรงพยาบาล
  3. Medical Tourism: บริการช่องทางเข้าถึงบริการสุขภาพในประเทศไทยสู่เครือข่ายโรงพยาบาลชั้นนำ

Doctor A to Z จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

  1. ลดระยะเวลาการรอคอยหมอ 
  2. มีช่องทางที่จะปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้สะดวก 
  3. ลดความแออัดในโรงพยาบาลรัฐ
  4. เข้าถึงบริการสุขภาพอื่นๆ ครอบคลุม 360 องศา

3. HealthSmile X LabMove

HealthSmile X LabMove เป็นการให้บริการเจาะเลือดนอกโรงพยาบาล เช่น ที่บ้าน คลินิกเทคนิคการแพทย์ ศูนย์บริการสุขภาพ หรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลใกล้บ้าน โดยนักเทคนิคการแพทย์ผู้มีใบประกอบวิชาชีพ สามารถทำการจองวันเวลานัดเจาะเลือดผ่านแอปพลิเคชัน LabMove ซึ่งให้บริการตามมาตรฐานและการรับรองของโรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญา ลดความแออัด ลดความเสี่ยง ลดเวลาในการไปโรงพยาบาล 2-3 เท่า เป็นทางเลือกให้คนไข้และญาติเลือกใช้บริการในรูปแบบ New Normal

โดยในฝั่งของ HealthSmile จะเป็นการให้บริการตรวจสุขภาพตามความเสี่ยงและความต้องการของผู้รับบริการ โดยมีระบบที่จะช่วยเลือกรายการตรวจสุขภาพที่เฉพาะเจาะจงกับแต่ละคน สามารถเพิ่ม-ลด-ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของผู้รับบริการ โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำผ่านทาง Online เพื่อให้การตรวจสุขภาพแต่ละครั้งมีความเฉพาะเจาะจง สะดวก และมั่นใจได้

และในฝั่งของ LabMove เป็นบริการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้บริการในการเจาะเลือดตรวจสุขภาพที่บ้าน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การเข้าถึงบริการตรวจเลือดได้ง่ายขึ้น เพื่อรองรับ Megatrend ด้าน Telemedicine ที่จะมีมากขึ้นในอนาคต

HealthSmile X LabMove จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

  1. ประหยัดเงินและประหยัดเวลา เนื่องจากผู้รับบริการสุขภาพ ย่อมไม่อยากเดินทางมาโรงพยาบาลหลายครั้ง และไม่อยากอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน
  2. ลดความแออัดและช่วยป้องกันความเสี่ยงของการติดเชื้อโรคต่าง ๆ จากในโรงพยาบาล
  3. สะดวก เตรียมตัวง่าย ๆ ได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องรีบมารอคิวเจาะเลือดที่สถานพยาบาลแต่เช้า โดยสามารถเลือกวันและเวลาที่ตนเองสะดวกได้ง่าย ๆ
  4. แก้ปัญหาความลำบากในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ หรือคนไข้ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ โดยช่วยลดขั้นตอนให้เหลือแค่การมารอพบแพทย์หน้าห้องตรวจตามเวลานัด โดยจะได้พบแพทย์เป็นคิวต้น ๆ ใช้เวลาตรวจไม่นานไปจ่ายเงินและรับยาในช่วงที่คนไข้น้อย ๆ

4. PharmaSafe 

PharmaSafe เป็น TeleMedication Care Platform เป็นระบบติดตามการรักษาและแนะนำการใช้ยาผู้ป่วยที่บ้าน พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มคุณภาพการรักษาต่อเนื่อง และลดปัญหาการใช้ยาผิด (Medication Errors) ของผู้ป่วย ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญอันดับต้น ๆ ของการรักษาพยาบาลทั่วโลก

ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ แอปมือถือที่เป็นผู้ช่วยแนะนำการใช้ยาให้กับผู้ป่วย โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบจ่ายยาของโรงพยาบาล แสดงข้อมูลยาของผู้ป่วยอัตโนมัติ สามารถเตือนเวลาทานยาตามที่แพทย์สั่งและเตือนความเสี่ยงของการใช้ยาอัตโนมัติ โดยข้อมูลและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยที่บ้านนี้จะถูกส่งไปยังส่วนที่ 2 คือ Dashboard รายงานผลสุขภาพ ซึ่งทางแพทย์สามารถติดตามการรักษาได้แบบ Real-Time โดยผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อช่วง COVID-19

PharmaSafe จะช่วยแก้ Pain Point ได้อย่างไร?

โดยบริการจาก PharmaSafe จะช่วยแก้ Pain Point ในฝั่งผู้ป่วยในเรื่องของการใช้ยาถูกชนิด ถูกวิธีและถูกเวลา สามารถมั่นใจว่าได้รับยาที่ถูกต้อง มีข้อมูลครบถ้วน มีข้อมูลยาติดตัวตลอดเวลาเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน และยังช่วยป้องกันความเสี่ยงก่อนเกิดอันตรายจากยา และในฝั่งของสถานพยาบาลบริการของ PharmaSafe จะช่วยเพิ่ม Patient Engagement ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์กับผู้ป่วยในการช่วยดูแลความปลอดภัยในการใช้ยา เพิ่มคุณภาพการรักษาและให้บริการด้านยาทางไกล และยังเป็นระบบอัตโนมัติและส่งเสริมแนวทาง Self-care และ Prevention ลดภาระบุคลากรในระยะยาว             

ติดตาม Startup ไทยที่มีโซลูชันและบริการดี ๆ ได้ใน “Startup Marketplace is Live Now” รายการที่จะช่วยสร้างช่องทางการตลาดให้กับ Startup ไทย ในช่วงสถานการณ์วิกฤต โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และข้อมูล ข่าวสาร ได้ที่

FB Page: Startup Thailand

FB Group: Startup Thailand Marketplace

บทความนี้เป็น Advertorial


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

‘ไปรษณีย์ไทย’ เพิ่มมูลค่า Asset ชูบริการเรือธง EMS World ส่งด่วน ทั่วโลก

EMS World คือ บริการเรือธงที่ทำรายได้หลักให้ไปรษณีย์ไทย หลังจากนี้จะผลักดันบริการสู่ตลาดโลก ร่วมกับการนำ Asset ที่มีอยู่เดิม มาเพิ่มมูลค่าได้อย่างน่าสนใจ...

Responsive image

SearchGPT คืออะไร ? เมื่อ OpenAI ลงสนาม Search engine ท้าชน Google ชิงส่วนแบ่งธุรกิจ

OpenAI ท้าชน Google ชิงส่วนแบ่งธุรกิจ Search Engine เปิดตัว SearchGPT โมเดล Search Engine ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เวอร์ชันต้นแบบ ที่จะมาเปลี่ยนการค้นหาข้อมูลให้เป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว ...

Responsive image

ลงทะเบียนพบนักลงทุนตัวจริงกับ "Meet the VCs" ในงาน Techsauce Global Summit 2024

"Meet the VCs" กิจกรรมสุด Exclusive ในงาน Techsauce Global Summit 2024...