ทีมงานคุณภาพทำงานแตกต่างจากทีมอื่นยังไง บทความนี้จะมาแชร์ 5 ข้อที่ทีมประสิทธิภาพสูงทำในที่ทำงาน

นักวิจัยพบว่าการจะสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยความต้องการด้านจิตใจสามอย่าง คือ ความเป็นอิสระ ความสามารถ และความรู้สึกเชื่อมโยงกัน เมื่อพนักงานได้รับการเติมเต็มความต้องการด้านจิตใจ พวกเขาจะมีความสุขมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น และแน่นอนประสิทธิภาพดีขึ้นด้วย

แต่ในบรรดาความต้องการทางใจทั้งสามข้อนั้น ความรู้สึกเชื่อมโยง หรือความปรารถนาที่จะเกี่ยวดองกับผู้อื่น เป็นความท้าทายมากที่สุด เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้คนที่แตกต่างกันในองค์กรรู้สึกถึงความเชื่อมโยงในกันและกัน ยิ่งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป การทำงานแบบไฮบริดกลายทำให้เป็นเรื่องยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ในองค์กร 

5 สูตรลับที่พนักงานเก่งใช้ในออฟฟิศ 

ทีมวิจัยจากความร่วมมือของ ignite80 บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจในนิวยอร์กร่วมกับ Front บริษัทซอฟต์แวร์การสื่อสาร ได้สำรวจพนักงาน 1,106 คน เพื่อหาคำตอบว่า ทีมที่มีประสิทธิภาพสูงทำงานยังไง และนี่คือ 5 ข้อสำคัญที่ทีมงานคุณภาพทำ 

ใช้โทรศัพท์สื่อสารกัน 

รับโทรศัพท์เกี่ยวอะไรกับประสิทธิภาพการทำงาน ? การศึกษาของทีมวิจัยพบว่า ทีมที่มีประสิทธิภาพสูง มักจะสื่อสารกันมากกว่าทีมที่ประสิทธิภาพต่ำ และมีแนวโน้มที่จะสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานโดยใช้โทรศัพท์มากกว่า โดยเฉลี่ย 10 ครั้งต่อวัน

ยิ่งในยุคไฮบริด การสื่อสารด้วยแอปแชทอย่างเดียว อาจทำให้สารที่ต้องการสื่อไม่ครบถ้วนหรือผิดความหมายได้ การโทรศัพท์จะป้องกันการเข้าใจผิด และยังส่งให้ปฏิสัมพันธ์ในทีมดีขึ้นด้วย ปัจจุบันแอปแชทเกือบทั้งหมดก็มีฟีเจอร์โทรเช่นกัน

มีกลยุทธ์ตอนประชุม 

ทีมงานคุณภาพจะพยายามส่งเสริมให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับการประชุม เช่น ทุกคนต้องเตรียมตัวมาก่อนหรือทำงานมาก่อน เพื่อให้การประชุมไหลลื่น มีการแจ้งวาระการประชุม และให้สมาชิกทุกคนอัปเดตงานก่อนเริ่มประชุมทุกครั้ง เพื่อจะได้รู้ภาระหน้าที่และความก้าวหน้าของกันและกัน 

ใช้เวลาคุยนอกเรื่องงาน 

ทีมที่ดีจะใช้เวลางานรวมหัวคุยกันนอกเรื่องงานด้วย การวิจัยพบว่าทีมที่ประสิทธิภาพสูงมีแนวโน้มจะใช้เวลาในออฟฟิศคุยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยมากกว่า 25% ไม่ว่าจะเรื่องหนังสือที่ชอบ กีฬาที่ชอบ เรื่องครอบครัว และยังตั้งตี้ไปกินกาแฟ หรือดื่มแอลกันด้วย

เพราะทีมที่เก่งที่สุดไม่ได้เก่งเพราะทำงานตลอดเวลา แต่พวกเขาลงทุนเวลาสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งส่งเสริมทั้งมิตรภาพและการทำงานเป็นทีม

อวยกันเอง ชมกันเอง 

หลายครั้งการได้รับพลังใจ มีค่ามากกว่าพลังเงิน (แต่บางครั้งเงินก็คือกำลังใจเช่นกัน) แต่ทีมที่ทำงานเก่งจะเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับคำชมในกันและกันเสมอ การวิจ้ยพบว่าทีมที่ดีได้รับคำชื่นชมในที่ทำงานบ่อยขึ้น ทั้งจากเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการ ยิ่งในช่วงเวลายากลำบาก พวกเขากลับได้รับคำสรรเสริญเยินยอมากขึ้นด้วย 

จริงใจ

ทีมงานคุณภาพมักจะแสดงทั้งอารมณ์เชิงบวกและเชิงลบให้กับเพื่อนร่วมงานมากกว่า แน่นอนว่าอารมณ์เชิงบวกย่อมส่งผลดีต่อจิตใจและความสัมพันธ์ แต่การเลือกแสดงอารมณ์เชิงลบกับเพื่อนร่วมงานแสดงให้เห็นว่า พวกเขาไว้ใจในทีมและไม่คิดจะปิดกั้นสิ่งที่ตัวเองรู้สึกอึดอัดใจ พวกเขารู้สึกปลอดภัยทางจิตใจ 

แปลและเรียบเรียงจาก : Harvard Business Review