Digit หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทำงานรับเงินเดือนตัวแรก พลิกโฉมอุตสาหกรรมและแรงงานในอนาคต

หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ไม่ได้เป็นเพียงภาพฝันอนาคตอีกต่อไป! ปัจจุบัน Digit หุ่นยนต์จาก Agility Robotics กำลังเข้ามาปฏิวัติวงการแรงงาน โดยเริ่มต้นจากการทำงานในโรงงาน บรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และรับหน้าที่งานที่หนักหน่วงและซ้ำซากจำเจ ซึ่งมนุษย์มักหลีกเลี่ยง 

ในยุคที่หลายอุตสาหกรรมในสหรัฐฯ กำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงาน โดยปัจจุบันมีตำแหน่งงานที่ว่างอยู่กว่า 622,000 ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแรงงานในเดือนมกราคม ซึ่ง Deloitte คาดการณ์ว่าอาจสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์หรือราว 33 ล้านล้านบาทภายในปี 2030 หุ่นยนต์จึงกลายเป็นทางออกที่น่าจับตามอง

Digit คือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากบริษัท Agility Robotics มีลักษณะสูง 175 เซนติเมตร รูปร่างคล้ายมนุษย์ ออกแบบมาพร้อมกับมือที่สามารถหยิบจับวัตถุได้อย่างแม่นยำ ขาที่สามารถพับเก็บได้ เพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนที่ในพื้นที่จำกัด และที่สำคัญคือ ดวงตา LED ที่ทำหน้าที่เสมือนสื่อกลางในการสื่อสารกับมนุษย์ บ่งบอกสถานะการทำงานกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการปฏิบัติงานร่วมกัน

ปัจจุบัน Digit ถูกใช้งานจริงในโรงงานผลิตเสื้อผ้าสตรี Spanx ของ GXO Logistics ทำให้ Digit กลายเป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ตัวแรกที่ได้รับค่าตอบแทน Agility Robotics ใช้โมเดลธุรกิจแบบเช่าใช้บริการ (RaaS - Robot as a Service) คิดค่าบริการรายเดือน คล้ายกับซอฟต์แวร์ แม้ต้นทุนการเช่าจะสูง แต่บริษัทมั่นใจว่าคุ้มค่ากว่าการจ้างแรงงานมนุษย์ในระยะยาว โดยประเมินว่าลูกค้าจะคืนทุนภายในสองปี เมื่อเทียบกับการจ้างแรงงานมนุษย์รายชั่วโมงละ 30 ดอลลาร์ หรือราว 1,027 บาทต่อชั่วโมง เนื่องจาก Digit ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันหยุด และไม่เรียกร้องค่าแรงเพิ่ม

Digit มีหน้าที่หลักคือการย้ายกล่องสินค้าและวางลงบนสายพานลำเลียง และขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบประสิทธิภาพและการปรับใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ ยา และร้านขายของชำ แม้แต่บริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Amazon และ Ford ก็แสดงความสนใจ และเล็งเห็นถึงศักยภาพของ Digit ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ปัจจุบัน Digit ยังทำงานในพื้นที่จำกัดและแยกจากมนุษย์เพื่อความปลอดภัย แต่ Agility Robotics กำลังพัฒนา Digit รุ่นใหม่ให้สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้อย่างใกล้ชิด คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับการนำ Digit เข้าสู่ตลาดผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายให้ทำงานบ้านได้หลากหลาย เช่น การพับผ้า ทำความสะอาด ดูดฝุ่น หรือแม้แต่การเตรียมอาหารง่ายๆ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพแวดล้อมในบ้านมีความซับซ้อนกว่าในโรงงาน การพัฒนาให้ Digit ทำงานบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงยังคงต้องใช้เวลาในการพัฒนา

แม้ผลสำรวจของ Gallup ในปี 2023 พบว่า ประมาณ 1 ใน 5 ของคนงานในสหรัฐฯ กังวลว่างานของพวกเขาจะถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี แต่ Johnson ซีอีโอของ Agility Robotics ยืนยันว่า Agility Robotics ไม่ได้ถูกต่อต้านจากสหภาพแรงงานแต่อย่างใดเพราะ Digit มุ่งเน้นไปที่งานที่คนไม่ต้องการทำ และเป็นการเสริมกำลังคน ไม่ใช่การแย่งงาน 

Agility Robotics เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและตรงไปตรงมา เกี่ยวกับความสามารถของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์เพื่อหลีกเลี่ยงการโฆษณาเกินจริง Digit พร้อมทำงานจริง ไม่ใช่แค่เป็นแค่ตัวแสดงในงานต่างๆ นอกจากนี้บริษัทยืนยันจะระมัดระวังการใช้งานและพัฒนาด้วย AI อย่างรอบคอบ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

อ้างอิง: businessinsider(1)(2)

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

ทำไมดุสิตธานีขาดทุน 5 ปี เปิดเบื้องหลังที่คนไม่รู้ กับแผนยอมเจ็บเพื่อ Reset ธุรกิจ

เปิดเบื้องหลัง 5 ปีที่ดุสิตธานีขาดทุนและไม่จ่ายปันผล กับแผนรีเซตองค์กรครั้งใหญ่ สู่การเติบโตระยะยาวผ่านโครงการ Dusit Central Park และกลยุทธ์กระจายความเสี่ยง...

Responsive image

เทคโนโลยีใหม่! แค่ตรวจเลือดก็รู้ผลอัลไซเมอร์ได้แบบไม่ต้องสแกน

การวินิจฉัยโรคอัลไซเมอร์อาจไม่ต้องพึ่ง PET scan หรือการเจาะน้ำไขสันหลังอีกต่อไป! เพราะตอนนี้มีการตรวจเลือดแบบใหม่ ที่ใช้วัดสัดส่วนของโปรตีนในเลือด ที่สามารถบอกได้ว่าผู้ป่วยมีแนวโน้...

Responsive image

งานเข้า! งานวิจัย Stanford ชี้ Chatbot 'นักบำบัด' ไม่ได้ฮีลใจ แต่กำลังพาไปสู่หายนะ

ผู้คนหันมาใช้ Chatbot เป็น 'นักบำบัด' มากขึ้น แต่เทคโนโลยีพร้อมสำหรับบทบาทนี้แล้วหรือยัง? งานวิจัยล่าสุดจาก Stanford ฟันธงว่า 'ยังไม่พร้อมอย่างสิ้นเชิง' สำหรับความรับผิดชอบนี้...