อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (NYSE: BABA) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ 2017 ซึ่งสิ้นสุดลงไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
“ผลประกอบการที่โดดเด่น ทั้งในไตรมาสสุดท้ายและตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา เป็นเครื่องสะท้อนถึงความสำเร็จของเราในการเข้าถึงและสร้างรายได้จากผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคนทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ของเรา” แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว
“กลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งของเรายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังสร้างกระแสเงินสดได้อย่างแข็งแกร่งเช่นเคย จึงทำให้เราสามารถลงทุนเพื่อขยายธุรกิจคลาวด์ และธุรกิจสื่อดิจิทัลและความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ อันจะนำไปสู่การพลิกโฉมเศรษฐกิจสู่ยุคดิจิทัล และการยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคทั่วทั้งประเทศจีน”
“สำหรับในไตรมาสสุดท้ายนี้ เรายังคงมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ด้วยอัตราการเติบโตของรายได้ที่สูงถึง 60% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุด นับตั้งแต่เราเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขณะที่รายได้ตลอดปีงบประมาณนี้เติบโตขึ้น 56% และมีกระแสเงินสดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไปอยู่ราว 10,000 ล้านดอลลาร์” แมกกี้ วู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าว
“ผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักของเรา รวมถึงแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ของเรา เช่นในด้านของคลาวด์ คอมพิวติง ที่เรามองเห็นทิศทางการเติบโตได้อย่างชัดเจนในฐานะผู้นำตลาด”
ข้อมูลที่น่าสนใจจากผลประกอบการประจำปีงบประมาณ สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2017 มีดังต่อไปนี้
- รายได้รวม 158,273 ล้านหยวน (22,994 ล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน
- รายได้หลักจากธุรกิจการค้าปลีก–ค้าส่งเติบโตขึ้น 45% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 133,880 ล้านหยวน (19,450 ล้านดอลลาร์)
- รายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติงเพิ่มขึ้น 121% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 6,663 ล้านหยวน (968 ล้านดอลลาร์)
- รายได้จากธุรกิจสื่อดิจิทัลและบันเทิงเติบโตขึ้น 271% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 14,733 ล้านหยวน (2,141 ล้านดอลลาร์)
- รายได้จากกลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรมเพิ่มขึ้น 65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 2,997 ล้านหยวน (435 ล้านดอลลาร์)
- ช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาในประเทศจีน มีลูกค้าที่ซื้อสินค้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปีรวมกว่า 454 ล้านราย เพิ่มขึ้น 31 ล้านรายเมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559) โดยในจำนวนนี้ คิดเป็นผู้บริโภคที่ใช้งานช่องทางอาลีเอ็กซ์เพรสและลาซาด้ารวม 83 ล้านราย
- ยอดผู้ใช้งานในประเทศจีนที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกในแต่ละเดือนผ่านโทรศัพท์มือถือสูงถึง 507 ล้านคนในเดือนมีนาคม ซึ่งสูงกว่าในเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าถึง 97 ล้านคน
- ยอดขายรวมผ่านทางช่องทางค้าปลีกในประเทศจีนตลอดปีงบประมาณ 2017 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.767 ล้านล้านหยวน (547,000 ล้านดอลลาร์) โดยเติบโตขึ้น 22% เมื่อเทียบกับยอดขายรวมทั้งหมด 3.092 ล้านล้านหยวนในปีการเงินสิ้นสุด 2560
- อาลีบาบาได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการอีคอมเมิร์ซผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุนี้เอง ยอดขายรวมผ่านโทรศัพท์มือถือของช่องทางค้าปลีกในประเทศจีนในปีงบประมาณนี้จึงสูงถึง 2.981 ล้านล้านหยวน (433,000 ล้านดอลลาร์) หรือคิดเป็น 79% ของยอดขายรวมทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ส่วนรายได้ผ่านทางโทรศัพท์มือถือจากธุรกิจค้าปลีกในประเทศจีน สูงกว่า 90,731ล้านหยวน (13,182 ล้านดอลลาร์) หรือเพิ่มขึ้น 80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปีงบประมาณล่าสุดนี้ รายได้จากแพลตฟอร์มซื้อขายบนโทรศัพท์มือถือได้เติบโตแซงหน้ารายได้ผ่านทางช่องทางคอมพิวเตอร์ไปแล้ว
- จำนวนลูกค้าบริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่จ่ายค่าบริการ เพิ่มขึ้นจาก 513,000 คนในปีก่อนหน้า เป็น 874,000 คนในปีนี้ ส่วนในด้านผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2560 บริษัทได้รายงานการขาดทุนจากธุรกิจดังกล่าวเป็นเงิน 1,681 ล้านหยวน (244 ล้านดอลลาร์) หรือ 476 ล้านหยวน (69 ล้านดอลลาร์) หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย ภาษี และการชำระหนี้
- รายได้สุทธิอยู่ที่ 41,226 ล้านหยวน (5,989 ล้านดอลลาร์) ส่วนรายได้จากการดำเนินการ 48,055 ล้านหยวน (6,981 ล้านดอลลาร์) ขณะที่รายได้ก่อนคำนวณดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ อยู่ที่ 74,456 ล้านหยวน (10,817 ล้านดอลลาร์) สำหรับอัตรากำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 30% หรือคิดเป็น 47% หากไม่รวมดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ ทั้งนี้ อัตรากำไรของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ก่อนคำนวณดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ อยู่ที่ 62%
- กำไรต่อหุ้นปรับลดอยู่ที่ 16.97 หยวน (2.47 ดอลลาร์) ส่วนกำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 23.44 หยวน (3.41 ดอลลาร์)
- เงินสดสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 80,326 ล้านหยวน (11,670 ล้านดอลลาร์) ขณะที่กระแสเงินสดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 68,790 ล้านหยวน (9,994 ล้านดอลลาร์)
ผู้สนใจสามารถอ่านรายงานผลประกอบการฉบับเต็มของอาลีบาบา กรุ๊ป ได้ที่ BusinessWire