Amazon Web Services (AWS) แผนกคลาวด์คอมพิวเตอร์ของ Amazon ได้ประกาศปลดพนักงานหลายร้อยคนในฝ่ายขาย การตลาด และฝ่ายเทคนิค การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการลดพนักงานอย่างต่อเนื่องของบริษัทแม่ Amazon

“เราได้ปรับปรุงขอบเขตเป้าหมายของบริษัทใหม่ ครั้งนี้เพื่อที่จะสามารถทุ่มเทให้กับกลยุทธ์หลักของบริษัทที่เราเชื่อว่าจะมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราเชื่อว่านี่เป็นการตัดสินใจที่รอบคอบ และยืนยันว่าจะสนับสนุนพนักงานทุกคนในการเปลี่ยนผ่านสู่บทบาทใหม่ทั้งในและนอกบริษัท”

การ Layoff ที่เกิดขึ้นมาจากการชะลอตัวของยอดขายของ AWS ในไตรมาสล่าสุด เนื่องจากบริษัทต่างๆ ลดการใช้จ่ายในระบบคลาวด์เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น 

ทีมเทคโนโลยีร้านค้าถูกลดจำนวนลงเนื่องจากการประกาศถอดระบบการจ่ายเงินแบบอัตโนมัติในร้านค้า U.S Fresh ซึ่งทีมนี้ประกอบด้วยฝ่ายที่ดูแลเทคโนโลยีไร้แคชเชียร์หรือที่เรียกว่า Just Walk Out รวมถึงเทคโนโลยีการชำระเงินด้วยฝ่ามือของ Amazon one ก็ได้รับผลกระทบในส่วนนี้

โฆษกของ AWS กล่าวว่า “การเลิกจ้างในแผนกเทคโนโลยีร้านค้าเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นในการใช้แอปพลิเคชันบางอย่างในร้านค้าของบริษัทเองรวมถึงของบริษัทอื่นๆ”

Amazon ยังคงเลิกจ้างพนักงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2022 ต่อเนื่องจนถึงปี 2023 โดยเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดด้วยจำนวนถึง 27,000 ตำแหน่งในทุกแผนกของบริษัท จนมาถึงปัจจุบัน Amazon ได้เลิกจ้างพนักงานในหน่วย Twitch, Audible, Buy with Prime และ Prime Video และ MGM Studios รวมถึงฝ่าย AWS ในครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตามพนักงานในสหรัฐฯ จะยังคงได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ต่อไปอย่างน้อย 60 วัน และมีสิทธิ์ได้รับเงินชดเชยจากการเลิกจ้าง

แม้จะมีการปลดพนักงาน แต่ AWS ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้ 7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.64 แสนล้านบาทในไตรมาสที่ 4 เมื่อปี 2023 ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจโดยรวมของ Amazon

อ้างอิง:  cnbc, geekwire