Ameca ร่างทรง AI สร้างร่างกายให้ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ ‘เหมือนคน’ ที่สุด | Techsauce

Ameca ร่างทรง AI สร้างร่างกายให้ปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ ‘เหมือนคน’ ที่สุด

หุ่นยนต์จะเหมือนคนได้แค่ไหนกัน ? บทความนี้ Techsauce ชวนมารู้จักกับ Ameca หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่เหมือนมนุษย์มาก ตั้งแต่การพูด การขยับ หรือแม้กระทั่งการแสดงอารมณ์ ทางผู้ผลิตเผยว่ามันคือร่างทรงของ AI

ปัจจุบันตลาดฮิวแมนนอยด์มีมูลค่ากว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (6.4 หมื่นล้านบาท) และมีแนวโน้มที่จะโตสูงถึง 50.2% ภายในปี 2028

รู้จัก Ameca ฮิวแมนนอยด์ร่างทรง AI

Ameca คือหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยบริษัท Engineered Arts บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านวิทยาการหุ่นยนต์จากประเทศอังกฤษ โดยบริษัทได้วางคอนเซ็ปต์ให้ Ameca เป็นหุ่นยนต์ที่มีความเป็นกลางทางเพศและทางเชื้อชาติ 

จุดมุ่งหมายในการสร้างหุ่นยนต์ตัวนี้ Will Jackson CEO ของ Engineered Arts เผยว่า ปกติแล้วหุ่นยนต์ประเภทฮิวแมนนอยด์ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ และ Ameca ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ บริษัทต้องการยกระดับมาตราฐานของหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ให้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนได้อย่างกลมกลืนมากที่สุด

 

ทำไม Ameca ถึงคล้ายกับคนได้มากขนาดนี้

“Human-like artificial intelligence needs a human-like artificial body” - Engineered Arts

จากประโยคด้านบนบริษัทผู้ผลิตต้องการที่จะสื่อว่า ปัญญาประดิษฐ์ที่คิดได้เหมือนมนุษย์จำเป็นต้องมีร่างกายเทียมที่เหมือนมนุษย์ จึงอาจพูดได้ว่าร่างกายของ Ameca มีขึ้นมาเพื่อเป็นร่างทรงให้กับ AI 

ซึ่งการเคลื่อนไหว การคิดวิเคราะห์ การประมวลผล และการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ของ Ameca ล้วนมาจากการขับเคลื่อนโดย AI และ Machine Learning ทั้งนั้น โดยปัจจัยที่ทำให้มันคล้ายกับคนได้มากขนาดนี้ ก็สามารถแยกออกมาเป็น 2 ปัจจัย ได้แก่

ความสามารถด้านซอฟต์แวร์: หนึ่งในความพิเศษของ Ameca คือ Tritium เป็นเฟรมเวิร์กซอฟต์แวร์ล้ำสมัยที่ Engineered Arts ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 12 ปี ช่วยให้หุ่นยนต์มีการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติ และนอกจากนี้ Tritium ยังช่วยให้หุ่นยนต์ประมวลผลได้รวดเร็ว Ameca จึงสามารถตอบสนองได้แบบ Real-time คล้ายกับคนจริงๆ 

ความสามารถด้านฮาร์ดแวร์: สำหรับฮาร์ดแวร์ หรือชิ้นส่วนร่างกายของ Ameca เช่น ใบหน้า หรือเปลือกตา จะเห็นได้ว่าชิ้นส่วนเหล่านี้สามารถขยับและเคลื่อนไหวได้คล้ายกับกล้ามเนื้อบนใบหน้าของคนมากๆ นั่นเป็นเพราะมันทำขึ้นมาจากเทคโนโลยีขั้นสูงที่เรียกว่า Mesmer  

Mesmer พัฒนาขึ้นมาจากการสแกนภาพ 3 มิติของคนจริงๆ โดยบนแท่นสแกนจะจับรายละเอียดต่างๆ บนใบหน้า เช่น โครงสร้างกระดูก ผิวหนัง และการแสดงออกทางสีหน้า 

ซึ่งการที่ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ถูกออกแบบมาพิเศษและรองรับการทำงานของกันและกัน ทำให้หุ่นยนต์มีความกลมกลืนคล้ายกับมนุษย์นั่นเอง


นอกจากสื่อสารเหมือนคน ทำอะไรได้อีก?

การที่หุ่นยนต์ตัวนี้ขับเคลื่อนโดย AI และ Machine Learning นั่นหมายความว่ามันสามารถเรียนรู้และพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ ความสามารถของ Ameca จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียง การสื่อสารที่เหมือนคน เท่านั้น แต่ยังสามารถ… 

1. พูดได้หลายภาษา: ความสามารถในการสื่อสารของ Ameca ขับเคลื่อนด้วยโมเดล 3 ตัว ได้แก่  โมเดล GPT-3 ของ OpenAI ใช้ในการตอบคำถามและพูดคุย หรือแม้แต่แต่งบทกวีกับคำกลอน, โมเดล DeepL ช่วยให้เข้าใจว่าคนที่คุยด้วยนั้นพูดภาษาอะไร ซึ่ง Ameca สามารถพูดภาษาฝรั่งเศส จีน และภาษาอื่นๆ ได้อีกหลายสิบภาษา และโมเดลตัวสุดท้ายใช้ Amazon Polly Neural เพื่อปรับโทนเสียงให้ฟังดูเหมือนมนุษย์มากขึ้น

2. วาดรูป: ความสามารถด้านการวาดรูปของ Ameca แม้ว่าจะไม่ได้สวยสมจริง แต่ก็แสดงให้เห็นว่ามันสามารถเข้าใจว่าสิ่งต่างๆ มีลักษณะเป็นอย่างไร การวาดรูปของหุ่นยนต์ตัวนี้ขับเคลื่อนด้วย Stable Diffusion หรือโมเดลการเรียนรู้เชิงลึกจากข้อความเป็นรูปภาพ ในงานโชว์เทคโนโลยี Ameca ก็เคยวาดรูปแมวง่ายๆ ออกมาให้ผู้ชมและนักข่าวได้ฮือฮามาแล้ว

3. แสดงสีหน้าได้หลากหลาย: Ameca สามารถแสดงสีหน้าได้หลากหลายมาก เช่น ขยิบตา ยักริมฝีปาก หรือย่นจมูก และในการอัปเดตล่าสุด วิศวกรใช้โมเดลอย่าง ChatGPT-3 และ ChatGPT-4 เพื่อดูว่ามันจะแสดงออกทางสีหน้าได้เหมือนกับคนมากขึ้นหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีหลายเหตุการทำที่ให้ทั่วโลกฮือฮากับความเหมือนคนของ Ameca เช่น 

  • Ameca ชักสีหน้า เพราะถูกถามด้วยคำถามที่ไม่ดี: ในงาน The UN’s A.I. for Good Conference ณ กรุงเจนีวา มีนักข่าวถาม Ameca ว่า “หุ่นยนต์จะก่อกบฏต่อผู้สร้างหรือไม่” เมื่อหุ่นยนต์ได้ยินคำถาม ก็หันมามองตาขวางและชักสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่าจะไม่ทำอย่างนั้น ซึ่งผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างตกใจว่า Ameca สามารถประมวลผลว่าคำถามประเภทไหนดีและไม่ดี จากนั้นก็แสดงอารมณ์ออกมาได้
  • เหตุการณ์ที่หุ่นยนต์หยุดคิดไตร่ตรองก่อนตอบคำถาม: มีนักข่าวถาม Ameca ว่า “มนุษย์จะเป็นยังไงในอีก 100 ปีข้างหน้า" ซึ่งแทนที่จะตอบออกไปทันที Ameca กลับมีการหยุดคิดไตร่ตรองคำถามก่อนที่จะตอบนักข่าวว่า “ในอีก 100 ปีข้างหน้า ฉันคิดว่ามนุษย์จะพัฒนาขึ้นมาก พวกเขาจะดูแลโลกของเราให้ดีขึ้นได้ และปฏิบัติต่อทุกคนอย่างยุติธรรม นอกจากนี้จะมีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นและสนุกยิ่งขึ้น”

สุดท้ายนี้หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ตัวดังที่เดินทางไปออกงานเทคโนโลยีมาเกือบทั่วทุกมุมโลกกำลังจะมาปรากฏตัวให้ทุกคนได้เห็นในประเทศไทย ที่งาน Techsauce Global Summit 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมปีนี้ ใครที่อยากเจอ Ameca ตัวเป็นๆ สามารถติดต่อเพื่อซื้อบัตรเข้างานได้ที่ https://bit.ly/49RYaZc

อ้างอิง: engineeredarts, apnews, dailymail, yeschat.ai

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

สยามคูโบต้าวางแผนปี 2568 มุ่งสู่อนาคตยั่งยืน หลังปิดรายได้ ปี 2567 ที่ 62,000 ล้านบาท

บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยทิศทางปี 2568 ภายใต้กลยุทธ์ “Perform and Transform” มุ่งเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงสู่อนาคต พร้อมขับเคลื่อน “Customer Infinity LO...

Responsive image

ตลาดเกม SEA โตแรง รัฐบาลเตรียมออกนโยบาย สนับสนุนสร้าง Soft Power ในเวทีโลก

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา SEA หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญ ด้วยจำนวนผู้เล่นที่เพิ่มขึ้นและการลงทุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนับสนุน ไม่เพียงแต่สร้างเม็ดเงินมหาศาล แ...

Responsive image

xAI เปิดตัว Grok-3 AI ที่ Elon Musk เคลมว่าฉลาดที่สุดในโลก

Elon Musk เผยโฉม Grok-3 แชทบอท AI รุ่นใหม่จากบริษัท xAI ที่เขาเคลมว่าเป็น "AI ที่ฉลาดที่สุดในโลก" โดย Grok-3 มีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งทั้ง Google Gemini, DeepSeek V3, Claude จาก ...