Tim Cook ให้สัมภาษณ์ Reuters ยืนยัน Apple เต็มที่เรื่อง AI ทุ่มงบวิจัยและพัฒนาเพิ่มอีก 3,120,000,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 108,727 ล้านบาท) เน้นย้ำจะใช้เทคโนโลยีนี้อย่างรับผิดชอบ 

Tim Cook ยืนยัน Apple เอาจริงเรื่อง AI

นับตั้งแต่งาน WWDC ของ Apple หลายสื่อวิเคราะห์เหตุผลว่าทำไม Apple ไม่เคยมีการกล่าวถึง AI เลยแม้แต่นิดเดียว ในขณะที่บริษัททั่วโลก ทั่วทุกอุตสาหกรรมกำลังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว 

ล่าสุด Tim Cook CEO ของบริษัทให้สัมภาษณ์กับ Reuters หลังประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ย้ำว่าบริษัทของเขากำลังโฟกัสการสร้างนวัตกรรม AI 

เราได้วิจัยเทคโนโลยี AI อย่างกว้างขวาง รวมถึง Generative AI เป็นเวลาหลายปี และเห็นได้ชัดว่าเรากำลังลงทุนจำนวนมาก อย่างที่คุณเห็นในงบการวิจัยและพัฒนา (Research & Development)

โดยในปีงบประมาณนี้ Apple ใช้จ่ายกับงบการวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นถึง 3,120,000,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 108,727 ล้านบาท) Tim Cook เผยว่าค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นมามีแรงหนุนจากการพัฒนา Generative AI เช่นเดียวกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ 

เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็มีรายงานจาก Bloomberg เผยว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนา AI คล้าย ChatGPT แต่ยังไม่มีแผนการเปิดตัวที่ชัดเจน 

พัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ

หัวเรือใหญ่ของ Apple กล่าวว่าเทคโนโลยี AI มีความสำคัญอย่างยิ่งและ AI รวมถึง Machine Learning จะเป็นส่วนประกอบสำคัญของทุกผลิตภัณฑ์ 

สิ่งหนึ่งที่ Tim Cook เน้นย้ำมาเสมอคือ Apple จะพัฒนา AI อย่างมีความรับผิดชอบ และครั้งนี้ก็เช่นกัน 

เราจะเดินหน้าลงทุน สร้างสรรค์นวัตกรรม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อช่วยให้ชีวิตผู้คนดีขึ้น

ช่วงเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ OpenAI เปิดตัว ChatGPT ก็มีบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หันเข้ามาลงทุน สำหรับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างที่พวกเราพบเห็นกันไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Google, Meta และ Amazon

ในทางตรงกันข้ามความเคลื่อนไหวเรื่องเทคโนโลยี AI ของ Apple กลับช้าเกินไปเห็นได้จาก งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ Apple อย่าง WWDC ที่ไม่มีการกล่าวถึง AI เลยแม้แต่นิดเดียว

แต่ในขณะเดียวกันถูกแสดงออกมาในผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ออกมาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่น Crash Detection บน iPhone และ Personal Voice ที่กำลังจะมาใน iOS 17 และ เพื่อให้ตามทันบริษัทเทคโนโลยีคู่แข่ง 

ที่มา : Business Insider, Mashable