ASML บริษัทผลิตเครื่องจักรสร้างไมโครชิปขั้นสูงระดับโลกจากเนเธอร์แลนด์ ได้ระบุในแถลงการณ์ต่อนักลงทุนว่า ขณะนี้ บริษัทคาดการณ์รายได้ต่อปีจะแตะระดับที่ 28,000 - 35,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 และอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงถึงระหว่าง 54% ถึง 56% การประมาณการรายได้ครั้งล่าสุดนี้สูงกว่า 15,000 - 24,000 ล้านดอลลาร์ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในระยะยาวเพิ่มสูงขึ้น
“เราเห็นโอกาสการเติบโตของเซมิคอนดักเตอร์อย่างมีนัยสำคัญ” ASML กล่าว พร้อมเสริมการคาดการณ์ว่าทางบริษัทจะบรรลุอัตราการเติบโตรายได้ต่อปีประมาณ 11% ระหว่างปี 2020-2030
ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์ได้เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก และภายหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ก็ได้นำไปสู่วิกฤตขาดแคลนชิปที่สร้างความหายนะแก่อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอื่น ๆ
ASML กล่าวว่า “เมกะเทรนด์ระดับโลกในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์” ควบคู่ไปกับ “ระบบนิเวศที่สร้างกำไรสูงและเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่” คาดว่าจะกระตุ้นการเติบโตของตลาดเซมิคอนดักเตอร์ต่อไป
ASML ถือว่าเป็นบริษัทเดียวในโลกที่สามารถบุกเบิกเครื่องจักรผลิตชิปที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งมีผลให้ชิปที่ออกมานั้นมีความเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าในอดีต ลูกค้าของ ASML จึงล้วนเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ทั้ง Samsung และ Taiwan Semiconductor Manufacturing (TSMC)
“ASML มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์” Peter Hanbury พาร์ทเนอร์ของ Bain & Company ที่ปรึกษาด้านการจัดการกล่าวกับทางสื่อ CNBC ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา “ในบางแง่มุม ASML อาจสำคัญพอ ๆ กับ TSMC”
นอกจากนี้ ASML ยังคงเดินหน้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้รับอานิสงส์จากการที่ผู้ผลิตชิปลงทุนมหาศาลในส่วนของโรงงานและอุปกรณ์ใหม่เพื่อสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น ดังเช่นกรณีที่ TSMC ได้ให้คำมั่นว่าจะทุ่มเงิน 100,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 3 ปีข้างหน้าเพื่อขยายกำลังการผลิตและจัดการปัญหาชิปขาดแคลนเรื้อรัง
อ้างอิง CNBC
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด