26 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ประกาศความสำเร็จในการนำบริษัทลูก BKV Corporation (BKV) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ BKV เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 15 ล้านหุ้น ในราคา 18 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น รวมมูลค่าการระดมทุนประมาณ 261 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.8 พันล้านบาท
หุ้นของ BKV เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ "BKV" โดยคาดว่าการปิดการจำหน่ายหุ้น IPO จะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 27 กันยายน 2567
คุณสินนท์ ว่องกุศลกิจประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเป็นการปลดล็อกมูลค่าที่แท้จริงของ BKV และช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการลงทุนเพื่อขยายโครงการพลังงานสะอาด เช่น โครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCUS) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ ที่มีความต้องการพลังงานสะอาดสูง
BKV ถือเป็นกุญแจสำคัญในธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบ้านปูในสหรัฐฯ โดยบริษัทมีแหล่งผลิตก๊าซหลักที่แหล่งก๊าซบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเท็กซัส และแหล่งก๊าซมาร์เซลลัส (Marcellus) ในรัฐเพนซิลเวเนีย นอกจากนี้ BKV ยังมีการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโครงการ CCUS เพื่อสนับสนุนการลดคาร์บอน
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่าการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเสริมราคาหุ้นของบ้านปูให้มีแนวโน้มเติบโตในช่วงไตรมาสที่ 4/2567 และไตรมาสที่ 1/2568 โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่ความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นตาม
สุดท้ายนี้บ้านปูยังคงมุ่งมั่นต่อเป้าหมายในการลดคาร์บอนและดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน โดยการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายด้านพลังงานสะอาดและการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด