เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2022 ประธานาธิบดี Joe Biden ได้ลงนามเรียกร้องให้รัฐบาลกลางตรวจสอบความเสี่ยงและประโยชน์ของ cryptocurrencies และออกแนวทางควบคุมและดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลตาม Fact Sheets ของทำเนียบขาว สำหรับมาตรการที่เพิ่งประกาศนี้จะเน้นที่ 6 ประเด็นหลัก ได้แก่ การคุ้มครองผู้บริโภคและนักลงทุน ความมั่นคงทางการเงิน กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ ในเวทีโลกบริการการเงินที่ทั่วถึง (Financial inclusion) และนวัตกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Responsible innovation)

สำหรับด้านการคุ้มครองผู้บริโภค จะเห็นได้ว่าการฉ้อโกง หรือ Rug pull เป็นเรื่องที่น่ากังวลแล้ว ปัจจุบันยังมีเรื่องของ Stable coin ที่น่าจับตามอง เนื่องจากหน่วยงานการกำกับดูแลอ้างว่า Tether มีเงินสำรองไม่เพียงพอ ซึ่ง Tether เป็นเหรียญ stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยมูลค่าการหมุนเวียน 80,000 ล้านดอลลาร์ แต่ทาง Tether ปฏิเสธ เพราะพวกเขามีอัตราเงินสำรองเต็มที่แล้ว ไม่ใช่แค่เพียงเงินสดแต่รวมถึงหนี้ระยะสั่น และ commercial paper อย่างไรก็ตามกลับไม่มีมาตรการการดูแลในส่วนของ Stable Coin ในประกาศของทำเนียบขาวฉบับนี้ แม้ว่า  Janet Yellen รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจะออกมาเน้นย้ำถึงประเด็นดังกล่าว

ขณะที่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ไบเดนได้เรียกร้องให้เกิดการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลกลางและหน่วยงานทางการเงินระดับนานาชาติเพื่อขจัดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในวงการคริปโต ส่วนด้าน Climate Change จากการที่ต้นทุนด้านพลังงานไม่ได้ถูกรวมเข้ากับมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้นรัฐบาลสหรัฐฯ จึงอยากให้วงการคริปโตมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น เพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อสภาพอากาศ

ด้านความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของสหรัฐฯ Biden ได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ”กำหนดกรอบการทำงานเพื่อขับเคลื่อนความสามารถในการแข่งขันและความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งแนวทางนี้ได้รรับการสนับสนุนจากหลากหลายคนดังในวงการคริปโตทั้งผู้บริหารของ Coinbase, Kraken และ Gemini exchange.

อย่างไรก็ตามแม้ไบเดนไม่ได้กล่าวว่าสหรัฐฯ ควรเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตนเองหรือไม่ แต่เขาเรียกร้องให้รัฐบาลรีบวิจัยและพัฒนา CBDC ที่มีศักยภาพอย่างเร่งด่วน โดยเมื่อปีที่แล้วธนาคารกลางออกรายงานที่มีรายละเอียดข้อดีและข้อเสียของดิจิทัลดอลลาร์ แต่ยังไม่เข้าข้างว่าคิดว่าสหรัฐฯ ควรออกหรือไม่ ในขณะที่ CBDC สามารถเร่งการชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว ผู้กำหนดนโยบายกำลังประเมินปัญหาหลายประการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและความเป็นส่วนตัว

จากความเคลื่อนไหวในวงการคริปโตของประธานาธิบดีสหรัฐ ถือเป็นการกำหนดวาระนโยบายใหม่ช่วยขจัดความไม่แน่นอนในเรื่องของนโยบายการกำกับดูแลของอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่ง Jeremy Allaire ซีอีโอของ Circle ได้ทวิตตอบสนองต่อประเด็นนี้ว่า “นี่เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของคริปโต สินทรัพย์ดิจิทัล และ Web 3 ซึ่งคล้ายกับรัฐบาลทั้งหมดในปี 1996/1997 ที่ตื่นขึ้นมาสู่อินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์” ซึ่งนักลงทุนในแวดวง  Crypto ดูเหมือนจะเห็นด้วยจนทำให้ราคาของ bitcoin เพิ่มขึ้นจนสูงถึง  42,000 เหรียญสหรัฐ ในวันพุธจากการมองในแง่ดีเกี่ยวกับการดำเนินการของผู้บริหารของสหรัฐฯ

อ้างอิง: CNBC