
Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ ซึ่งจะมีอายุครบ 70 ปีในเดือนตุลาคม 2025 ได้ประกาศผ่านบล็อกโพสต์ส่วนตัวเถึงการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเร่งแผนการบริจาคทรัพย์สินส่วนใหญ่ของตนเองกว่า 99% ให้กับมูลนิธิการกุศล Gates Foundation โดยตั้งเป้าหมายที่จะใช้ทรัพยากรเหล่านี้เพื่อต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บและปัญหาความยากจนทั่วโลกภายในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้า ก่อนที่มูลนิธิจะปิดดำเนินการอย่างถาวรในวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2045
เดิมทีมูลนิธิ Gates Foundation ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2000 ร่วมกับอดีตภรรยา Melinda French Gates ถูกกำหนดให้ยุติการดำเนินงานหลายทศวรรษหลังจากการเสียชีวิตของพวกเขา อย่างไรก็ตาม Gates ได้ให้เหตุผลของการเร่งรัดแผนการบริจาคครั้งนี้ว่า มาจากความตระหนักถึงปัญหาระดับโลกที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน

Gates ได้รับแรงบันดาลใจสำคัญมาจากบทความ The Gospel of Wealth ของ Andrew Carnegieในปี 1889 ซึ่งมีใจความสำคัญว่า "ชายผู้ที่จากไปอย่างคนรวย ตายอย่างน่าอดสู" Gates ได้ย้ำเจตนารมณ์ของตนเองว่าจะไม่เสียชีวิตในฐานะคนร่ำรวย เนื่องจากตระหนักดีว่ายังมีปัญหาอีกมากมายในโลกที่ต้องการทรัพยากรไปแก้ไข
ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้ง มูลนิธิ Gates Foundation ได้บริจาคเงินไปแล้วกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และในอีกสองทศวรรษข้างหน้า มูลนิธิมีแผนจะเพิ่มการบริจาคเป็นสองเท่า โดยคาดว่าจะใช้จ่ายเงินอีกมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด และอัตราเงินเฟ้อ เพื่อบรรลุเป้าหมายหลัก 3 ประการภายในปี 2045 ได้แก่
Gates กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้มูลนิธิจะเป็นช่องทางหลักในการบริจาค แต่เขายังคงลงทุนในด้านนวัตกรรมพลังงานผ่าน Breakthrough Energy และ TerraPower รวมถึงการวิจัยโรคอัลไซเมอร์ โดยผลกำไรใดๆ จากการลงทุนเหล่านี้จะถูกนำกลับมาสมทบทุนให้กับมูลนิธิ
การประกาศครั้งนี้ Gates มองว่าเป็น จุดเริ่มต้นของบทสุดท้ายในอาชีพ ของเขา และเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปีของ Microsoft ด้วยการให้คำมั่นว่าจะบริจาคทรัพยากรที่เขาได้รับจากบริษัทกลับคืนสู่สังคม เขาหวังว่ามหาเศรษฐีคนอื่นๆ จะพิจารณาเร่งรัดการบริจาคเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อโลกเช่นกัน และถึงแม้จะบริจาคทรัพย์สินไปเกือบทั้งหมด Gates ยืนยันว่าตัวเขาเองจะยังคง "สุขสบายดี"
อ้างอิง : Gates Foundation
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด