มูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ (The Bill & Melinda Gates Foundation) ถือว่าเป็นมูลธิที่มีเงินบริจาคมากที่สุดในโลก โดยมีเงินมากกว่า 40 พันล้านดอลลาร์ หรือเป็นจำนวนมากกว่า 1 ล้านล้านบาท เพื่อช่วยเหลือปัญหาความยากจนและสาธารณสุขทั่วโลก แต่ในวันนี้ทางมูลนิธิจะโยกย้ายแนวทางความสำคัญทั้งหมดไปยังการให้ความช่วยเหลือในการยุติการระบาด COVID-19 โดยเขาได้เผยเรื่องนี้ในการสัมภาษณ์กับ Financial Times

"จากที่องค์กรของเรานั้นเน้นไปที่เรื่องของปัญหา HIV, มาลาเรีย และโปลิโอ เราต้องปรับเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ทั้งหมด รวมถึงงานของเราที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพอย่างด้านการศึกษาและโรงเรียน ก็ยังต้องปรับเปลี่ยนมาสนับสนุนในด้านการเรียนออนไลน์"

เหตุผลในการปรับเปลี่ยนจุดสนใจของมูลนิธินั้นเกี่ยวข้องกับผลกระทบทางด้านสุขภาพจากโรคนี้และผลกระทบทางเศรษฐกิจ เขายังได้เผยในการสัมภาษณ์อีกว่า เขานั้นกลัวว่าการระบาดครั้งใหญ่นี้จะทำให้เศรษฐกิจโลกของเรานั้นเสียเงินไปหลายล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ 

หากเราสามารถที่จะหาทางออกในการยับยั้งโรคนี้ได้เร็วเท่าไหร่ หรือการคิดค้นวัคซีน ก็จะสามารถบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจได้เร็วเท่านั้น อย่างไรก็ตามแต่ การที่เปลี่ยนจุดสนใจของมูลธิก็ทำให้เกิดผลเสียในบางพื้นที่ แน่นอนว่าปัญหาที่มูลธิที่เคยเข้าไปช่วยเหลือก็จะถูกลดความช่วยเหลือลง เช่น ในเรื่องโปลิโอและการค้นหายารักษาโรคเอดส์ เป็นต้น ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า “สถานการณ์ฉุกเฉินนี้ได้เข้ามาขัดขวางการทำงานที่สำคัญในหลาย ๆ พื้นที่”

จากการทำงาน 20 ปีกับมูลนิธิของเขาในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นเกตส์ ซึ่งเป็นบุคคลนอกภาครัฐนั้นออกมาพูดคุยในเรื่องวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เพียงพูดถึงการยับยั้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังคาดการณ์การเกิดภัยนี้เมื่อหลายปีที่แล้วอีกด้วย

อย่างไรก็ตามแต่มูลธิก็ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สำคัญขององค์กรคือ การลดโรคติดต่อ การขจัดความยากจน และพัฒนาด้านการศึกษาในสหรัฐฯ แต่การระบาดใหญ่ของ COVID-19 ในครั้งนี้ได้ส่งผลกระทบต่องานขององค์กรในทุกพื้นที่ และจะมีผลกระทบตามมาอีกเรื่อย ๆ ในปีนี้ ดังนั้นทางมูลนิธิจึงได้ประกาศการระดมทุน 250 ล้านดอลลาร์ในการลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อใช้กับการต่อสู้กับการระบาดใหญ่ในครั้งนี้ ทางมูลธิยังได้เน้นย้ำในเรื่องการความชำนาญการของพนักงานและการใช้หุ้นส่วนของเราในการจัดการกับความต้องการที่เร่งด่วนในการหยุดยั้งการระบาดนี้ 

อ้างอิง: FastCompany