บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อคเชนครบวงจรของประเทศไทย จับมือร่วมกับ บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเกมออนไลน์ชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ในการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ประกาศมุ่งพัฒนาระบบนิเวศครบวงจรสำหรับ Blockchain Gaming สร้างโมเดลธุรกิจไปสู่ Hybrid GameFi โดยมีแผนรุกตลาดระดับโลก
นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ กรรมการ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทและบริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด ได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ ‘คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์’ โดยการผนึกความร่วมมือล่าสุดจาก 2 บริษัทชั้นนำในครั้งนี้ เป็นการนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านธุรกิจ Game Publishing ของเอเชียซอฟท์ฯ ผนวกกับความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยี Blockchain ของบิทคับ มาร่วมกันพัฒนาและจัดหาเกมคุณภาพมาเปิดให้บริการบน ASTRONIZE PLATFORM เพื่อสนับสนุนให้เกมต่าง ๆ ที่อยู่ในรูปแบบโมเดลธุรกิจเดิม (Conventional Game) สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบโมเดลธุรกิจไปสู่ Hybrid GameFi คือ สามารถรองรับลูกค้าได้ทั้ง 2 กลุ่มอย่างสมดุลและยั่งยืนกว่า คือกลุ่มเกมเมอร์ที่ต้องการเล่นเกมเพื่อความสนุกสนาน และกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการโอกาสในการสร้างผลตอบแทนจากการเล่นเกม เนื่องจากในปัจจุบันแม้ GameFi กำลังถูกมองว่าจะเป็นเทรนด์ใหม่ของอุตสาหกรรมเกมในอนาคต แต่ผู้พัฒนาเกมหรือเกมสตูดิโอส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อมและความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยี Blockchain ดังนั้น ASTRONIZE PLATFORM จะเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการช่วยให้เกมสตูดิโอสามารถก้าวเข้าสู่โมเดล Hybrid GameFi ได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มโอกาสความสำเร็จของเกมให้สูงขึ้น รวมทั้งจะได้มุ่งไปที่งานพัฒนาตัวเกมที่เป็นจุดแข็งของตนเองให้ดียิ่งขึ้น
นายกิตติพงศ์ พฤกษอรุณ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “ความร่วมมือกันครั้งนี้ ถือเป็น paradigm shift ที่สำคัญของเอเชียซอฟท์ฯ ที่เราพลิกบทบาทจากการเป็น publisher สู่การเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม และเป็นก้าวเริ่มต้นของการเปิดตัวสู่ตลาดโลก รวมทั้งแพลตฟอร์มนี้ จะสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ตลาด GameFi และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เล่นเกม, นักลงทุน เพราะเกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำทั้ง 2 บริษัท ทั้งนี้ เราไม่ต้องการทำเกมแบบ play-to-earn ที่มุ่งเน้นแค่เรื่องผลตอบแทนด้านเดียว ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจที่ไม่ยั่งยืน แต่เราต้องการสร้างโมเดลในแบบ play and earn คือมุ่งเน้นความสนุกและคุณภาพเกม มาเป็นอันดับแรก ส่วนผลตอบแทนที่ได้รับ เป็นผลพลอยได้ที่เพิ่มเติม”
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้เปิดเผยถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “การร่วมมือกับเอเชียซอฟท์ฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการเกม ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นโปรเจกต์ระดับภูมิภาคที่เราสามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์ม Hybrid GameFi นอกจากนี้เรายังมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมอื่น ๆ ต่อไป”
นายสกลกรย์ สระกวี ประธานกรรมการ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในวงการเกมมาอย่างยาวนาน เห็นได้ชัดเจนว่าความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมที่เล่นเกมเพื่อความบันเทิงหรือเป็นงานอดิเรกเท่านั้น และเสียเงินไปกับการเล่นเกมเพียงด้านเดียว เพื่อให้ผู้เล่นได้รับสิทธิพิเศษที่มากขึ้น แต่ในปัจจุบันการเล่นเกมสามารถเป็นอาชีพหลักและสร้างรายได้หรือที่เราเรียกว่า Play and Earn ทำให้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ในเกมมีความหลายหลายและน่าสนใจมากขึ้น ดังนั้น เราจึงนำ Blockchain เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและผลักดันวงการเกม เพื่อให้เกิดความทันสมัย ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น และทำให้วงการเกมเติบโตอย่างยั่งยืน”
สำหรับบริษัทร่วมทุน คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีทุนจดทะเบียนรวม 20 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นทั้งหมด 2 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 10 บาท ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ประกอบด้วยบริษัทซึ่งถือหุ้นจำนวน 999,998 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 50% และบิทคับ เวนเจอร์ส ถือหุ้น 999,998 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 50% โดยมี สกลกรย์ สระกวี ถือหุ้น 1 หุ้น, จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ถือหุ้น 1 หุ้น, ปราโมทย์ สุดจิตพร ถือหุ้น 1 หุ้น และ กิตติพงศ์ พฤกษอรุณ ถือหุ้น 1 หุ้น โดยกิตติพงศ์ระบุว่า การเข้าทำรายการดังกล่าวไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน และขนาดของรายการไม่เข้าข่ายที่ต้องรายงานสารสนเทศตามหลักเกณฑ์การได้มาและจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียน รายการดังกล่าวส่งผลให้คับเพลย์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กลายเป็นบริษัทร่วมค้าของบริษัท
จากข้อมูลวิจัยของปี 2564 มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกเฉพาะในส่วนของพีซีและโมบายล์เกมมีมูลค่าสูงถึง 129.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่มูลค่าตลาดของ NFT สำหรับเกม ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเพียง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น และหากเทียบจำนวนฐานผู้เล่นเกมทั่วโลกที่มีอยู่ถึง 3 พันล้านคน กับจำนวน unique active wallet ของผู้ที่เล่น GameFi ก็ยังมีอยู่เพียง 1.4 ล้านคน ซึ่งทำให้เห็นได้ถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดได้อย่างมหาศาล
ทางเอเชียซอฟท์ฯ และบิทคับ เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะเป็นหนึ่งใน new S-Curve ที่จะช่วยขับเคลื่อนและผลักดันอุตสาหกรรมเกมและอุตสาหกรรมคริปโตให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน โดยคาดว่าการจัดตั้งบริษัทจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้ และพร้อมที่จะเริ่มเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3 ของปี 2565 นี้
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด