Bitkub แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน ซื้อ-ขายสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency ของไทย ที่เพิ่งก้าวขึ้นเป็นยูนิคอร์นรายล่าสุดของไทย ในระยะเวลาไม่ถึง 4 ปี โดย คุณท๊อป จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จํากัด ได้ตั้งเป้าไว้ว่า Bitkub พร้อมจะให้บริการทุก ๆ ด้านเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล และจะขยายการให้บริการไปในประเทศอื่น ๆ เพื่อที่จะเป็น “Coinbase แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
โดยคุณท๊อป ยังได้กล่าวต่ออีกว่า Bitkub Online กำลังมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อขยายกิจการไปสู่ประเทศอื่น ๆ นอกจากประเทศไทย อาจจะด้วยการไปบุกตลาดเอง หรือด้วยการจับมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ในประเทศอย่างเช่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และลาว ในปีหน้า
การเติบโตของ Bitkub ในประเทศไทยนั้นได้ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย ตั้งแต่มีการก่อตั้งกิจการขึ้นมาเมื่อปี 2018 โดยมีรายได้เติบโตต่อเนื่องกว่า 1,000% ในทุก ๆ ปี เนื่องจาก Bitkub แทบจะเป็นเจ้าเดียวในตลาดของประเทศไทย
โดยตั้งแต่ได้มีการเข้าซื้อโดยธนาคารไทยพาณิชย์ Bitkub ก็ตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในด้านของกิจการการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ที่มีแผนที่จะเติบโตไปสู่ 1 พันล้านทั่วโลกในอีก 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีการเติบโตในการแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 80 ล้าน
“กลยุทธ์ของเรา คือ จะขยายไปสู่ประเทศที่ยังไม่ได้มีผู้ชนะในตลาดนี้ที่ชัดเจน และยังไม่มีการเข้าถึงบริการเช่นนี้มากเท่าไหร่ แต่มีการเข้าโซเชียลมีเดียและมีความสามารถในการใช้งาน Crypto ในการใช้จ่าย” คุณท๊อป กล่าว
การขยาย Bitkub ในครั้งนี้ อาจจะเป็นการไปเข้าเปิดธุรกิจใหม่เลย หรืออาจจะเข้าไปจับมือกับพันธมิตรผ่านการซื้อกิจการ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็น Coinbase แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับ Coinbase แล้ว นับว่าเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เข้าสู้ตลาดหลักทรัพย์ในอเมริกาเมื่อปีก่อน Coinbase ปัจจุบันนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ทำให้มูลค่าทางการตลาดของสกุลเงินดิจิทัลนี้พุ่งขึ้นสู่ 2.75 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว
ซึ่ง Bitkub ที่เตรียมจะขยายกิจการนั้น ก็อาจจะยังติดอยู่กับบางประเทศ อย่าง อินโดนีเซีย ที่มี Indodax เป็นรายใหญ่ของที่นั่น เช่นเดียวกันกับในบางประเทศ ที่กฎระเบียบเกี่ยวกับ Cryptocurrency และ NFT ยังไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก
“กฎระเบียบ มักจะมาทีหลังนวัตกรรมเสมอ และถึงแม้ว่าคนจะยอมแพ้เพราะกฎระเบียบเหล่านี้ แต่พวกเราก็บ้าพอที่จะทำมันต่อไป” คุณท๊อป กล่าว
และเหมือนกับว่าจะเป็นสัญญาณที่ดี เพราะถึงแม้ว่า กฎระเบียบต่าง ๆ นั้นยังไม่ชัดเจน แต่หลายรายของไทยก็ลงมาเล่นในตลาดนี้แล้ว อย่างเช่น แสนสิริ ที่ได้เปิดรับการชำระเงินผ่านสกุลเงินดิจิทัล เช่นเดียวกับกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มีแผนจะทำเหรียญดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยว เป็นต้น
อ้างอิง: Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด