
ถ้ายุคที่แล้วคือยุคทองของน้ำมัน ยุคนี้อาจเป็นยุคของ Climate Tech ที่กำลังกลายเป็น “S-Curve” ใหม่ของโลก เทคโนโลยีที่ไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นโอกาสทางธุรกิจที่พร้อมเปลี่ยนอุตสาหกรรม และช่วยยกระดับความมั่นคงทางพลังงานในภูมิภาค
สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ClimateTech ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นทางเลือกใหม่ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานในระยะยาว
เหตุผลที่ทำให้ภูมิภาคนี้ถูกจับตามองมากขึ้นในระดับโลก:
ด้วยบริบทเหล่านี้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงไม่ได้เป็นเพียง “ผู้รับผลกระทบ” แต่กลายเป็น “จุดเปลี่ยน” ที่สำคัญในการผลักดัน Climate Tech สู่อนาคต
Dr. Jane Zhang หัวหน้าฝ่าย Fellows ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสิงคโปร์ ที่ Breakthrough Energy ได้ขึ้นพูดในเซสชั่น Climate Tech as the S-Curve of the 21st Century ผ่านงาน Techsauce Global Summit 2025 โดยเน้นย้ำว่า ‘ตอนนี้เป็นเวลาที่ SEA ควรหยุดเป็นผู้ตาม แต่ต้องกลายเป็นผู้นำในการพัฒนาและขับเคลื่อน Climate Tech ด้วยตัวเอง’
Breakthrough Energy ก่อตั้งโดย Bill Gates ในปี 2015 จากแนวคิดว่าโลกต้องการรูปแบบการลงทุนใหม่ที่พร้อมรอผลระยะยาว เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างจริงจัง
เป้าหมายหลักคือการลดหรือขจัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 51,000 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราต้องจัดการให้ได้ หากต้องการอนาคตที่ยั่งยืนและมั่นคงมากขึ้นหลักคิดสำคัญของ Breakthrough Energy
Breakthrough Energy ยึด 2 หลักการสำคัญ:
ทั้งนี้พวกเขายังโฟกัสใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ปล่อยคาร์บอนสูงและเปลี่ยนแปลงได้ยาก ได้แก่การผลิตไฟฟ้า การเกษตร การคมนาคม การก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรม
Breakthrough Energy ยังได้ออกแบบแพลตฟอร์มเพื่อสนับสนุนนวัตกรรมแบบ End-to-End ครอบคลุมตั้งแต่ Discovery > Development > Deployment
นอกจากนี้ยังมีโครงการของ Breakthrough Energy Fellows ที่มุ่งสนับสนุน “ผู้สร้างนวัตกรรมรุ่นใหม่” ให้สามารถเปลี่ยนงานวิจัยจากในห้องแล็บให้กลายเป็นธุรกิจจริงได้
ผู้เข้าร่วมโครงการจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ:
ผู้เข้าร่วมจะได้รับเงินทุน การให้คำปรึกษา หลักสูตรที่ออกแบบเฉพาะ รวมถึงการเชื่อมต่อกับเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีผู้เข้าร่วมแล้วกว่า 120 คน ครอบคลุม 60 โครงการใน 16 ประเทศ
Breakthrough Energy มองว่า 'ครึ่งหนึ่งของเทคโนโลยีที่จะช่วยลดคาร์บอนได้ภายในปี 2050 ยังไม่มีอยู่จริง ดังนั้นพวกเขาจึงลงทุนตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น เพื่อช่วยให้ไอเดียใหม่ๆ เหล่านี้เติบโตและกลายเป็นวิธีแก้ปัญหาจริงๆ ในอนาคต'
ในปีที่ผ่านมา Breakthrough Energy ได้เปิดตัว “Southeast Asia Hub” ร่วมกับ Temasek และ Enterprise Singapore เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพด้าน ClimateTech ในภูมิภาค
เมื่อมองในภาพรวม Dr. Jane Zhang ย้ำว่า ClimateTech ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับความมั่นคงด้านพลังงาน, การเติบโตทางเศรษฐกิจ, การสร้างอุตสาหกรรมใหม่และคุณภาพชีวิตของผู้คน
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด