BTS Group ขยายธุรกิจสู่ซอฟต์แวร์โซลูชั่น หนุนการเติบโต TBN ผู้พัฒนาและให้บริการ Low Code Platform ชั้นนำในไทย หลังเข้าถือหุ้น 25 % | Techsauce

BTS Group ขยายธุรกิจสู่ซอฟต์แวร์โซลูชั่น หนุนการเติบโต TBN ผู้พัฒนาและให้บริการ Low Code Platform ชั้นนำในไทย หลังเข้าถือหุ้น 25 %

บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ  BTS Group  เข้าถือหุ้น 25% ใน บริษัท ทีบีเอ็น ซอฟต์แวร์ จำกัด (TBN) ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของไทย และเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น โดยใช้แพลตฟอร์มการออกแบบพัฒนาซอฟต์แวร์ Low Code Development Platform (LCDP) ซึ่งการเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายธุรกิจของบีทีเอส กรุ๊ปฯ ไปสู่อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โซลูชั่นที่มีการพัฒนารุดหน้าอย่างต่อเนื่อง

BTS Group เข้าถือหุ้น 25% ใน TBN ผู้พัฒนาและให้บริการ Low-Code Platform ในไทย ขยายธุรกิจสู่ซอฟต์แวร์โซลูชั่น

โดยการลงทุนในครั้งนี้ BTS Group ได้เข้าซื้อหุ้นของ TBN เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเข้าลงทุนใน Rocket Holdings HK Limited Rocket  (Rocket) ในสัดส่วนร้อยละ100 เป็นผลให้มีสภาพเป็นบริษัทย่อยของ BTS Group สำหรับ Rocket เป็นบริษัทซึ่งจดทะเบียนและจัดตั้งในเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และประกอบธุรกิจลงทุนร้อยละ 25 ในบริษัท ทีบีเอ็น ซอฟต์แวร์ จำกัด  หรือ TBN 

TBN เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2551 โดย TBN เป็นผู้ออกแบบพัฒนา และให้บริการซอฟต์แวร์ Low-Code รายแรกที่มีประสบการณ์มากที่สุดในประเทศไทย และเป็นผู้พัฒนาโซลูชั่นต่างๆ ผ่านซอฟต์แวร์ Mendix Low Code Development Platform (LCDP) ให้แก่บริษัทชั้นนำ และบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง 

ในฐานะที่ TBN เป็นตัวแทนจำหน่าย Mendix LCDP ในประเทศไทย จึงมีความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี และไอทีโซลูชั่นด้วยการเขียนโค้ดทั้งแบบ Low-Code และแบบดั้งเดิม

ซอฟต์แวร์ LCDP ช่วยให้ผู้ที่ไม่ใช่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (non-developer) สามารถสร้างแอปพลิเคชั่นโดยใช้ Graphic User Interface (การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาพ) แบบ drag-and-drop ที่แตกต่างจากวิธีการเขียนโค้ดดั้งเดิม ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาที่ไม่มีเทคนิคเฉพาะทาง มีประสบการณ์เขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีเลย สามารถทำงานร่วมกับผู้เขียนโค้ดได้ตั้งแต่การระดมความคิด และการพัฒนาไปจนถึงการติดตั้งปรับใช้ และการใช้งานจริง จึงเป็นการช่วยลดปัญหาการขาดแคลนนักพัฒนา ลดเวลาในการพัฒนา และที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มความเร็วในการออกสู่ตลาด

คุณปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TBN กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบีทีเอส กรุ๊ปฯ เนื่องจากจะช่วยให้เราสามารถขยายกิจการด้านเทคโนโลยี Low-Code ไปยังกลุ่มองค์กรในอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากภาคการเงิน ประกันภัย ไปถึงภาคการผลิตและค้าปลีกซึ่งเป็นฐานลูกค้าใหม่ของ TBN รวมถึงขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ 

ทั้ง Artificial Intelligence (AI) Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) มาผสมผสานเพื่อให้ได้โซลูชั่นที่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่กลุ่มลูกค้าของ TBN เรามั่นใจว่าบีทีเอส กรุ๊ปฯ จะเป็นกำลังสนับสนุนที่แข็งแรงให้แก่ TBN ในการบุกเบิกธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งเห็นได้จากความสำเร็จที่บีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้สร้างโอกาสทางธุรกิจร่วมกับบรรดาพันธมิตรทางธุรกิจ พร้อมทั้งเพิ่มการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน”

ในปี 2564 TBN มีรายได้รวม 293 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับปี 2563 ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) อยู่ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดย TBNสามารถสร้างฐานลูกค้าที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีก บริษัทการเงินและประกันภัย รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ (อาทิ Makro, SCB, KTC, CPF) ความสำเร็จ และผลงานอันโดดเด่นที่ผ่านมานั้น สะท้อนให้เห็นว่า TBN จะเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โซลูชั่นอย่างแน่นอน พร้อมทั้งมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์โซลูชั่นในภาพรวมจะขยายตัวด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 13% และในส่วนของเทคโนโลยี Low-Code คาดว่าจะเติบโตกว่า 30% โดยอุตสาหกรรมดิจิทัลโซลูชั่นจะขยายตัวครอบคลุมทั่วทั้งภาคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม 4.0 ของประเทศไทย เสริมด้วยแรงหนุนจากความต้องการขององค์กรในการสร้างความทันสมัย (Modernisation) และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล (Digitisation) 

คุณสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นในแผนธุรกิจ และแนวทางของ TBN และเชื่อว่าศักยภาพของตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี Low-Code นี้มีมากมายมหาศาล เราคาดว่าในอนาคต TBN จะเติบโตอย่างรวดเร็วในฐานะผู้บุกเบิก LCDP ในประเทศไทย และตั้งตารอที่จะสนับสนุน TBN ในการเสนอขายหุ้น IPO และโอกาสทางธุรกิจจะเกิดขึ้นในอนาคตการเข้ามาเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ จะส่งผลให้กิจการของเราขยายการเติบโตขึ้น สร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่าย 3M (MOVE, MIX และ MATCH) ของเราอีกด้วย”

บีทีเอส กรุ๊ปฯ เชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจให้เกิดความหลากหลาย เพราะการเข้าเป็นพันธมิตรกับ TBN หนึ่งในบริษัทซอฟต์แวร์โซลูชั่นชั้นนำ สอดคล้องกับกลยุทธ์ 3M ของบริษัท นอกจากนี้จากการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมดิจิทัลที่ดำเนินรุดหน้าแบบก้าวกระโดด จะช่วยเสริมกำลังให้บีทีเอส กรุ๊ปฯ สามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจในแวดวงดิจิทัลโซลูชั่น และสร้าง synergy ร่วมกับพันธมิตรอื่นๆ ได้ในอนาคต

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

IMD จัดอันดับ Digital Competitiveness ปีนี้ ไทยร่วงจาก 35 เป็น 37 ถ้าอยากขยับขึ้น...ต้องแก้ไขตรงไหนก่อน?

ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล ประจำปี 2567 โดย IMD World Competitiveness Center ไทยได้อันดับ 37 ขยับลงจากปีก่อน 2 อันดับ (35) แล้วจะทำอย่างไรให้ไทยได้อยู่ในอัน...

Responsive image

สู่ Siri ยุคใหม่ ! เผย Apple เตรียมเปิดตัว LLM Siri ในปี 2026 ท้าแข่ง ChatGPT โดยเฉพาะ

OpenAI ถือเป็นหนึ่งในบิ๊กเทคฯ ยักษ์ใหญ่ที่มีความก้าวกระโดดด้านการพัฒนา AI หลังจากสร้างกระแสด้วยแชทบอท ChatGPT ไปเมื่อปลายปี 2022 ซึ่งเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งมีดีลกับ Apple ในการนำ Cha...

Responsive image

American Airlines เปิดตัวระบบจัดการคิวอัจฉริยะ เทคโนโลยีเสียงเตือนสองระดับ ปิดเกมสายแซงคิวขึ้นเครื่อง

เคยเจอไหม? คนแซงคิวขึ้นเครื่องจนวุ่นวายที่ประตูทางขึ้น หลังจากนี้จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อ American Airlines แก้ปัญหานี้ด้วยเทคโนโลยีเสียงเตือนอัจฉริยะ ที่จะจับทุกความพยายามแอบขึ้นเครื...