Carsome แพลตฟอร์มขายรถมือสองที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศความสำเร็จในการระดมทุนรอบ Series C ด้วยวงเงิน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500 ล้านบาท การระดมทุนรอบนี้ มีนักลงทุนกลุ่มใหม่เข้ามา ประกอบด้วย MUFG Innovation Partners Co., Ltd. (MUIP) เป็นกลุ่มนักลงทุนองค์กร ภายใต้กลุ่มการเงินของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ อิงค์ (MUFG) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินชั้นนำของโลก Daiwa PI Partners กลุ่มร่วมทุนภายใต้ไดวะ ซิเคียวริตี้ กรุ๊ป หนึ่งในกลุ่มหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เอนเดฟเวอร์ แคตาไลส์ และออนไดน แคปิตอล การระดมทุนรอบซีรีส์ ซี ของคาร์ซัมในรอบนี้ มีกลุ่มนักลงทุนรายเดิมเข้าร่วมด้วย คือ Gobi Partners และ Convergence Ventures
Carsome ก่อตั้งขึ้นจากการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มขายรถมือสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีตลาดที่แข็งแกร่งในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย มียอดขายมากกว่า 40,000 คันต่อปีด้วยมูลค่ามากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่นับรวมเงินกู้และการทำสัญญาเช่าซื้อ การระดมทุนในครั้งนี้จะเสริมศักยภาพความเป็นผู้นำตลาดของ Carsome ในตลาดมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย และขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเร่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้กับดีลเลอร์และผู้บริโภค ในหลายประเทศที่เปิดตัวออกมาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา Carsome ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากพอร์ตเงินกู้ในช่วงปีที่ผ่านมา และพร้อมที่จะขยายตัวในการร่วมงานกับพาร์ตเนอร์เชิงกลยุทธ์ รวมถึงธนาคารในภูมิภาค และสถาบันการเงินอื่นๆ
Carsome เป็นวันสต็อปโซลูชั่นสำหรับผู้ที่ต้องการขายรถ และดีลเลอร์ขายรถ ให้บริการนับตั้งแต่ การดูรถในเบื้องต้น ไปจนกระทั่งถึงการโอนเป็นเจ้าของ ด้วยขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก จ่ายเงินทันทีพร้อมการดำเนินการด้านเอกสาร ลูกค้าสามารถนัดหมายตรวจสภาพและประเมินราคารถยนต์ในศูนย์บริการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ลูกค้าสามารถรับการประเมินราคาพร้อมข้อเสนอ จากเครื่องมือและโครงสร้างราคาที่เชื่อถือได้ ต่อจากนั้น รถจะถูกเปิดประมูลให้กับดีลเลอร์รถมือสองในเครือข่ายทั้งหมดของคาร์ซัม เมื่อลูกค้ารับข้อเสนอราคา ขบวนการขั้นตอนทางเอกสารจะจัดการโดยคาร์ซัม และขั้นตอนการจ่ายเงินจะโอนให้กับลูกค้าทางออนไลน์ในทันทีที่การรับมอบกรรมสิทธิ์เรียบร้อย ปัจจุบัน Carsome มีดีลเลอร์รถในเครือข่ายมากกว่า 6,000 แห่งใน 50 เมือง ทั้งในมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ โดยมีผู้เข้ารับการบริการมากกว่า 12,000 รายต่อเดือน ในศูนย์บริการต่างๆของคาร์ซัมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
Carsome มีพนักงานมากกว่า 700 คนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผลการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยสามารถสร้างผลกำไรได้ในมาเลเซีย และตลาดในประเทศอื่นๆ คาดว่าจะสามารถสร้างกำไรได้ภายในปี 2563 นี้
นายอีริค เชง ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอของคาร์ซัม กล่าวว่า “จากปริมาณการซื้อขายรถยนต์มือสองที่มีมากกว่า 4 ล้านครั้งต่อปีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Carsome มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ในตลาดรถมือสองในภูมิภาค พวกเราได้ช่วยเหลือดีลเลอร์มากกว่า 6,000 ราย ในการขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และกลายเป็นคู่ค้าที่แน่นแฟ้นกัน เราได้ให้บริการลูกค้ามากกว่าหนึ่งล้านราย พร้อมให้ประสบการณ์ใหม่ในการขายรถที่โปร่งใส สะดวกสบาย และรวดเร็วที่สุดในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจประเภทเดียวกัน”
นายอิริค กล่าวเสริมว่า “พวกเราดีใจ ที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักลงทุนทั่วโลกในรอบ Series C นี้ เพราะกลุ่มนักลงทุนเหล่านี้ได้แบ่งปันประสบการณ์และความรู้ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมตลาดรถมือสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการก่อตั้งและส่งเสริมการรับประกันคุณภาพภายใต้มาตรฐานใหม่ รวมไปถึงการใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลการซื้อขายรถยนต์มาปรับใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราตั้งเป้าหมายในการใช้เครือข่ายวีซ่าและมาสเตอร์การ์ดในการทำธุรกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจยานยนต์ และสร้างระบบนิเวศน์ในด้านความร่วมมือระหว่างพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสร้างบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ในฐานะนักลงทุนเชิงกลยุทธ์ Carsome ได้จับมือกับเอ็มยูเอฟจี (MUFG) และบริษัทในเครือของเอ็มยูเอฟจีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสนับสนุนวิสัยทัศน์ของ Carsome ในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ก้าวไปข้างหน้า โดยการให้บริการการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับดีลเลอร์และผู้ให้บริการบนแพลตฟอร์มของ Carsome MUFG เป็นเจ้าของธนาคารสองแห่งคือ พีที แบงก์ ดานามอน อินโดนีเซีย และทีบีเค ซึ่งดานามอน เป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดและผู้นำสถาบันการเงินในตลาดรถมือสองในอินโดนีเซีย และธนาคารกรุงศรีอยุธยาจำกัด มหาชน (กรุงศรี) ธนาคารใหญ่อันดับห้าในแง่ของเงินกู้และเงินฝาก จากความร่วมมือนี้ เอ็มยูเอฟจีและบริษัทในเครือจะสามารถให้บริการการเงินแบบ B2B และB2C บนแพลตฟอร์มของคาร์ซัม โดยใช้ฐานข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อขายรถยนต์ของคาร์ซัม และความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับให้ Carsome เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมรถมือสองในระดับภูมิภาค
นายโนบุตาเกะ ซูซูกิ ประธานและซีอีโอของ เอ็มยูไอพี กล่าวว่า “เอ็มยูไอพี รู้สึกภูมิใจ ที่ได้เข้าร่วมลงทุนกับ Carsome ในรอบนี้ เรายินดีที่จะได้เป็นพันธมิตรกับอีริค และทีมของเขา เทคโนโลยีของ Carsome สามารถแก้ไขปัญหาที่หนักหนาที่สุดของอุตสาหกรรมรถมือสอง นั่นคือ ต้องรอเซลล์ขายรถเป็นระยะเวลานาน และขาดความโปร่งใสในขบวนการซื้อรถ รวมถึงงบประมาณ ซึ่งเป็นจุดเด่นของระบบ Carsome และเป็นเรื่องที่กลุ่มเอสเอ็มอีและผู้ซื้อรถทั่วไปกังวล พวกเราเชื่อมั่นมากว่า Carsome อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการเป็นผู้นำตลาดที่แข็งแกร่ง โดยการส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้รับบริการและดีลเลอร์ ตลอดจนกระทั่งถึงซัพพลายเชนรถ เอ็มยูไอพีจะทำงานร่วมกับสถาบันการเงินพันธมิตรของ Carsome ทั้ง ดานามอน กรุงศรี ในการร่วมมือกับ Carsome เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ในการเติบโต ในขณะเดียวกันสถาบันการเงินเหล่านี้ ยังสามารถช่วยนำเสนอนวัตกรรมต่างๆ เพื่อมาปรับใช้และสนับสนุนวิสัยทัศน์ในระยะยาว”
นายโธมัส เสา ประธานและผู้ร่วมก่อตั้งของ โกบิ พาร์ตเนอร์ กล่าวว่า “ Carsome คาร์ซัมกำลังสร้างโซลูชั่นที่เอื้อสำหรับเจ้าของรถที่เป็นคนรุ่นใหม่และดีลเลอร์รถในแต่ละท้องถิ่น ในช่วงไม่ถึงห้าปี คาร์ซัมได้สร้างนิยามและหมวดหมู่ธุรกิจขึ้นมาใหม่ และเปิดตัวแพลตฟอร์มระดับเวิล์ดคลาส ซึ่งมีดีลเลอร์รถมือสองเข้าร่วมมากกว่า 6,000 แห่ง และมีมูลค่าธุรกรรมเกิดขึ้นมากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี พวกเรายินดีในการสนับสนุน Carsome ต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและเปลี่ยนแปลงอนาคตของกลุ่มลูกค้าในเอเชีย”
นายฮิเดกิ อารากิ ประธาน ไดวา พีไอ พาร์ตเนอร์ กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเราชื่นชมกับนวัตกรรมและความรวดเร็วที่อิริค และทีมของเขาได้นำมาสู่ตลาดรถมือสอง การผสมผสานการลงทุนของพวกเรากับเทคโนโลยีของ Carsome ความชำนาญด้านดิจิทัล และความสัมพันธ์กับดีลเลอร์ ช่วยเร่ง ให้ Carsome สามารถแข่งขันได้ และครองความเป็นผู้นำในตลาดมาเลเซีย อินโดนีเซีย และประเทศไทย”
ในเดือนมีนาคม 2561 Carsome ระดมทุนรอบ Series B ได้รับเงินทุน 19 ล้านเหรียญสหรัฐ จากกลุ่มทุนต่างๆ นำโดย เบอร์ดา พรินซิเปิ้ล อินเวสท์เม้นท์ ตามมาด้วย โกบิ พาร์ตเนอร์ส, คอร์นเวอร์เจนซ์ เวนเจอร์, อินโดเกน แคปปิตัล, อินโนเวน แคปปิตัล และลูเมี่ย แคปปิตัล ต่อมาในเดือนสิงหาคม 2561 คาร์ซัมได้รับเงินทุนเพิ่มเติม 8 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยกลุ่มออฟฟิศครอบครัวของ โจ ฮิราโอ๊ะ ผู้ก่อตั้งบริษัทซิกเอ็กซ์เอ็น (ZIGExN) เมื่อเร็วๆ นี้ คาร์ซัมได้ว่าจ้างนักวางกลยุทธ์หลักอาวุโสนายเดนนี่ ชิน ลูกหม้อซีเอ็มโอของเรดวัน (redONE) มาเป็นซีเอ็มโอ และนายเชษ ซิน อดีตหัวหน้าฝ่ายไอทีของเอฟดับบลิวดี อินชัวเร้นท์ มาเป็นซีทีโอ
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด