ผลประกอบการเครือ Centara ไตรมาสแรก 2564 ขาดทุนเกือบ 1000 % จากปีก่อน รับผลกระทบโควิด | Techsauce

ผลประกอบการเครือ Centara ไตรมาสแรก 2564 ขาดทุนเกือบ 1000 % จากปีก่อน รับผลกระทบโควิด

เครือ Centara เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2564 มีผลขาดทุนสุทธิ 475 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 430 ล้านบาท หรือคิดเป็น 956% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 45.11 ล้านบาท ขณะที่รายได้อยู่ที่ 2,774 ล้านบาท ลดลง 1,827 ล้านบาท หรือ 40%  จากไตรมาส 1/2563 รับผลกระทบโควิด

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า จำกัด หรือ CENTEL รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2564 สิ้นสุดเดือนมีนาคม 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวมสุทธิทั้งจากธุรกิจโรงแรม และร้านอาหารอยู่ที่ 2,774 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2563 มีรายได้สุทธิอยู่ที่ 4,601 ล้านบาท โดยลดลง 1,827 ล้านบาท หรือ 40% ทั้งนี้เป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลโดยตรงกับธุรกิจโรงแรม และร้านอาหาร

สำหรับฝั่งธุรกิจโรงแรมของเครือเซนทารา มีรายได้รวมของไตรมาสนี้อยู่ที่ 501 ล้านบาท ลดลง 1,296 ล้านบาท หรือ 72% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องมาจากมีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยระลอกที่ 2 ทำให้ไตรมาสนี้บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้น 227 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 79% โดยมีขาดทุนก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงิน (EBITDA) จำนวน 95 ล้านบาท ดีขึ้นเทียบกับไตรมาส 4/2563 ที่ขาดทุน 158 ล้านบาท โดยอัตราขาดทุนก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงิน (% EBITDA margin) ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ -19% ในไตรมาสที่ 1/2564 ทั้งนี้ เป็นผลมาจากมาตรการควบคุมต้นทุน และค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าจ้างพนักงาน รวมทั้งเครือโรงแรมในต่างประเทศ อย่าง มัลดีฟส์ มีการฟื้นตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเครือเซนทาราก็ยังมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานปกติ 500 ล้านบาท โดยขาดทุนเพิ่ม 537 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน

และในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร ทาง CENTEL มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,273 ล้านบาท ลดลง 531 ล้านบาท หรือ -19% รายได้ของธุรกิจร้านอาหารที่ลดลงนี้เป็นเพราะ มีการลดลงของอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (Same-Store-Sales: SSS) เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีผลมาจาการระบาดของโควิด-19 เช่นกัน ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2563 สถานการณ์จะดีขึ้น แต่กลับมามีการระบาดใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 1/2564 นี้ และจังหวัดที่มีอัตราการลดของ SSS สูงก็เป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวของประเทศ โดยในไตรมาสนี้ กำไรขั้นต้นของธุรกิจร้านอาหารของเครือเซนทาราอยู่ที่ 1,311 ล้านบาท ลดลง 216 ล้านบาท หรือ 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ฐานะการเงิน และกระแสเงินสดของ CENTEL นั้น ปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม 35,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนหน้า มีส่วนมาจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น เงินลงทุนในการร่วมค้า การเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ทั้งนี้ทำให้ส่วนของกระแสเงินสดลดลง 282 ล้านบาทที่ใช้ไปในการลงทุน

ลุ้นเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศในไตรมาส 3 หนุนการเติบโตธุรกิจ

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2564 บริษัทฯเล็งเห็นว่า ธุรกิจประเภทโรงแรมจะมีการสะดุด เนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในช่วงนี้ รวมทั้งการฉีดวัคซีนยังเป็นไปอย่างล่าช้า หากในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวกลับมาในประเทศได้ คาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้

ในธุรกิจร้านอาหารของเครือเซนทารา นั้นก็ได้รับผลกระทบมากเช่นกัน ทั้งมาตรการห้ามรับประทานอาหารในร้าน การจำกัดเวลาเปิดบริการ โดยทางเครือเซนทาราได้มีการวางแผนจัดการ และบริหารกระแสเงินสดอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้มีการปรับเปลี่ยนแผนการบริการ เช่น มีบริการ Delivery ขายผ่านแพลตฟอร์ม E-commerce ต่าง ๆ โดยคาดว่าการบริการแบบนี้จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของพนักงานก็ได้มีการจัดสัดส่วนของพนักงานชั่วคราวกับพนักงานประจำอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ในปีนี้จะมีการขยายสาขาออกไปนอกห้าง และพัฒนาโมเลธุรกิจใหม่ ๆ อีกด้วย








ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

พาสปอร์ตสิงคโปร์ ครองแชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ปี 2025

พาสปอร์ตสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ใน Henley Passport Index 2025 ด้วยสิทธิ์เดินทางไร้วีซ่า 195 ปลายทาง สะท้อนความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทูตระดับโลก...

Responsive image

ส่องแผน UK ปั้นประเทศอย่างไร ให้กลายเป็นมหาอำนาจ AI โลก

Keir Starmer นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศถึงความต้องการที่จะทำให้ UK กลายเป็น ‘มหาอำนาจ’ ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความก้าวหน้า ความมั่นคั่ง และทำให้ A...

Responsive image

Xiaohongshu คือแอปฯ อะไร? ทำไมชาวเมกันถึงหันไปใช้ หลัง TikTok ส่อแววโดนแบนในสหรัฐ

ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องการแบน TikTok ในอเมริกาวันที่ 19 มกราคมนี้ ทำให้แอปวีดีสั้นจากจีนที่ชื่อว่า Xiaohongshu หรือที่รู้จักกันในชื่อ RedNote ได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ...