การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทั่วโลกนั้นดูไม่เหมือนกับวิกฤติอื่น ๆ ที่ผ่านมา มาตรการตั้งรับแบบเดิมอาจจะยังไม่เพียงพอในการนำธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤติไปได้ ดังนั้นสิ่งที่ CEO ควรจะทำในตอนนี้คือการเริ่มลงมือทำและเตรียมความพร้อมของธุรกิจในช่วงการเปลี่ยนแปลงอันเร็วเช่นนี้
สิ่งที่ต้องทำประการแรกคือการเริ่มจากการดูแลคนของคุณ แน่นอนว่าในทั่วโลกหน้าที่แรกของทุกคนคือการรักตัวเอง รักครอบครัว รักเพื่อน และรักคนรอบข้าง ดังนั้นถ้าคุณเป็น CEO การดูแลคนนั้นรวมถึงการดูแลพนักงานของคุณและลูกค้าของคุณ และสิ่งที่ CEO สามารถทำได้ก็คือการทำให้พวกเขานั้นแน่ใจว่าพวกเขาถูกดูแลและมีมาตรการมารองรับพวกเขาในวิกฤติเช่นนี้
ถึงแม้การดูแลพนักงานและลูกค้าจะเป็นสิ่งแรกที่ CEO ทุกท่านควรคำนึงถึง แต่ในขณะเดียวกันการคำนึงถึงรายได้ในตอนนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการรักษารายได้ไว้นั้นคือการโฟกัสกับสิ่งที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ คือการทำอย่างไรก็ได้ในการสร้างความเชื่อมั่นและความจงรักภักดีต่อลูกค้า และความจงรักภักดีนั้นจะช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤติเช่นนี้ไปได้
ท้ายที่สุดแล้ววิกฤติครั้งนี้จะเปลี่ยนเราทุกคน มันอาจจะเป็นการยากที่จะเดินถอยหลังในเวลาเช่นนี้ และในฐานะ CEO มันถึงเวลาแล้วที่เราจะคาดการณ์และวางแผนว่าอนาคตของเราจะเป็นเช่นไร พนักงานและลูกค้าจะถูกเปลี่ยนไปเช่นไรจากผลกระทบของวิกฤติ และบริษัทของคุณต้องทำอย่างไรในการที่จะตอบสนองต่อความต้องการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในเวลาเช่นนี้
มาตรการในการกักตัวและการลดการระบาดของไวรัส COVID-19 ในแต่ละประเทศจะทำให้เกิดการถดถอยทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่
เตรียมตัวสำหรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดโดยเฝ้าระวังและคอยสังเกตุการณ์อยู่ตลอด
มีโอกาสสูงที่จะเกิดการชะงักของรายได้อย่างมหาศาล ซึ่งนำไปสู่วิกฤติสภาพคล่องของหลาย ๆ บริษัท
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจจะไม่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว บริษัทควรวางแผนสำหรับการลดลงของรายได้ในหลาย ๆ ไตรมาส
พนักงานและลูกค้าอาจจะประสบกับความกลัวและการแพนิคต่อวิกฤติ
ควรจะแต่งตั้งทีมที่คอยเฝ้าดูสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 โดยเฉพาะ
ในฐานะ CEO คุณควรจะอยู่ข้างหน้า คอยคิดแผนการและมาตรการที่สามารถเป็นไปได้เพื่อพยุงบริษัทไปข้างหน้า
ลูกค้าจะเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคบางพฤติกรรมอย่างถาวร เป็นการดีที่จะศึกษาเทรนด์การบริโภค ซึ่งการกระทำที่อันชาญฉลาดเช่นนี้จะช่วยพาบริษัทไปสู่ความสำเร็จในช่วงเวลาอันตกต่ำเช่นนี้
สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการแจ้งสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบของ COVID-19 และการคาดการสถานการณ์ทางการเงินที่เลวร้ายที่สุดให้กับกลุ่มผู้อาวุโสเพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกันและการสื่อสารที่ถูกต้อง การจัดตั้งความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง และให้เรื่องการรักษาเงินทุนและสภาพคล่องทางการเงินเป็นอันดับสอง
สิ่งต่อไปคือการจัดตั้งทีมเฝ้าระวัง ซึ่งสมาชิกภายในทีมนั้นควรมาจากหลาย ๆ สายงาน เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายการเงิน และฝ่ายบุคคล จัดเรียงความสำคัญของการดำเนินงาน และปรับเปลี่ยนการรายงานและการอัปเดตสถานการณ์ของบริษัทเป็นแบบรายวันให้กับ CEO รวมถึงจัดทำเค้าโครงสถานการณ์การระบาด COVID-19 ทั่วประเทศ โดยนำเค้าโครงนี้มาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการถดถอยของรายได้และการชะงักของการดำเนินงานของบริษัท และสุดท้ายคือการเริ่มวางแผนกลยุทธ์ในการปรับตัวในสถานการณ์การระบาดเช่นนี้
สิ่งที่ CEO สามารถทำในตอนนี้ในการช่วยลดและบรรเทาผลกระทบจากการระบาด ในขณะเดียวกันเป็นการช่วยสร้างสถานภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย โดยสามารถดู 6 CEO Checklists ที่จะช่วยเป็นแนวทางในการเตรียมพร้อมบริษัทในสถานการณ์เช่นนี้
สรุปการดำเนินงานที่สำคัญในช่วงเวลาเช่นนี้
ในสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 ทั่วโลกเช่นนี้ บางบริษัทอาจจะเริ่มได้รับผลกระทบจากการถดถอยของเศรษฐกิจบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามแต่เราควรจะเตรียมพร้อมและตั้งรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลังนี้ เพราะไม่มีใครอาจรู้ได้ว่าเราจะสามารถหยุดสถานการณ์อันเลวร้ายเช่นนี้ได้เมื่อไหร่ อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ในสถานการณ์เช่นนี้ มาตรการเชิงรับอย่างเดียวอาจจะยังไม่พอสำหรับการรักษาและผลักดันบริษัทไปข้างหน้า ทำให้ CEO หลาย ๆ คนต้องคำนึงถึงมารตการ ‘เชิงรุก’ ที่จะช่วยบริษัทนั้นปรับตัว พัฒนา และหาโอกาสภายใต้สภาวะเช่นนี้
อ้างอิง: BAIN&COMPANY
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด