CEO JPMorgan เผย Work From Home เป็นอุปสรรคการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโต | Techsauce

CEO JPMorgan เผย Work From Home เป็นอุปสรรคการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่อยากเติบโต

เจมี ดิมอน (Jamie Dimon) CEO ของ JPMorgan มองว่าการทำงานแบบ  work from home  ไม่สามารถที่จะทดแทนประสิทธิภาพการทำงานที่ออฟฟิศได้ 

CEO JPMorgan

เขาได้กล่าวในสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอด CEO  ของ  The Wall Street Journal ว่า เขาพร้อมที่จะออกจากแฮงเอาท์วิดีโอและกลับเข้าไปในสำนักงานโดยเร็ว แต่ด้วยสถานการณ์ของโควิด 19 ทำให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ของบริษัทต้องทำงานที่บ้าน ผ่านโปรแกม Zoom ซึ่งดูเหมือนว่าเทรนด์ของการทำงานที่บ้านก็ยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญการทำงานจากที่บ้าน หรือ Work from home ยังไม่ส่งผลดีต่อคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาตัวเองและเติบโตอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ Dimon ได้ให้มุมมองในการแก้ปัญหาดังกล่าวว่า  การทำงานแบบ “Hybrid” ที่พนักงานสามารถเลือกได้ระหว่าง การทำงานที่บ้าน หรือ การทำงานที่ออฟฟิค ซึ่งไม่ได้ถูกบังคับให้ทำทางใดทางหนึ่ง

นอกจากนี้เขายังมีนโยบายสำหรับ JPMorgan ว่านับต่อจากนี้ ประมาณ 50% ของพนักงานและเจ้าหน้าที่กลับมาทำงานที่ออฟฟิคในกลางเดือนกรกฎาคมนี้ และถ้าหากสถานการณ์กลับมาเป็นปกติอาจจะทำให้พนักงานและเจ้าหน้าที่ได้กลับมาทำงานที่ออฟฟิคในระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคมในปีนี้

แต่สำหรับบางตำแหน่งที่สามารถทำงานจากที่บ้านก็ยังคงทำงานต่อไปได้เมื่อสถานการณ์ดีขึ้น รวมถึงเขายังมีแผนที่จะรับพนักงานรุ่นใหม่ที่เพิ่มขึ้นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ของวงการการเงินโลกที่กำลังประสบปัญหากับการทำงานที่หนักเกินไปในยุค COVID-19 นี้ด้วย 


อ้างอิง businessinsider


ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

พาสปอร์ตสิงคโปร์ ครองแชมป์พาสปอร์ตทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ปี 2025

พาสปอร์ตสิงคโปร์ครองอันดับ 1 ใน Henley Passport Index 2025 ด้วยสิทธิ์เดินทางไร้วีซ่า 195 ปลายทาง สะท้อนความแข็งแกร่งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และการทูตระดับโลก...

Responsive image

ส่องแผน UK ปั้นประเทศอย่างไร ให้กลายเป็นมหาอำนาจ AI โลก

Keir Starmer นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร ได้ออกมาประกาศถึงความต้องการที่จะทำให้ UK กลายเป็น ‘มหาอำนาจ’ ด้านปัญญาประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อสร้างความก้าวหน้า ความมั่นคั่ง และทำให้ A...

Responsive image

Xiaohongshu คือแอปฯ อะไร? ทำไมชาวเมกันถึงหันไปใช้ หลัง TikTok ส่อแววโดนแบนในสหรัฐ

ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องการแบน TikTok ในอเมริกาวันที่ 19 มกราคมนี้ ทำให้แอปวีดีสั้นจากจีนที่ชื่อว่า Xiaohongshu หรือที่รู้จักกันในชื่อ RedNote ได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ...