ตลาดอุปกรณ์ผลิตชิปของจีนมีแนวโน้มที่จะหดตัวในปีหน้า สืบเนื่องจากการเร่งสั่งซื้ออุปกรณ์ล่วงหน้าจำนวนมากในช่วงที่มีความตึงเครียดกับสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น
ตามข้อมูลจากสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์นานาชาติ (SEMI) การใช้จ่ายในอุปกรณ์การผลิตชิปในจีนคาดว่าจะทะลุ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.3 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรกในปี 2024 แต่จะลดต่ำลงในปีหน้าเนื่องจากคำสั่งซื้อแบบเร่งรีบในช่วงนี้จะหมดลง และจะกลับไปที่ระดับของปี 2023 ส่งผลให้ในปี 2025 ตลาดจีนคาดว่าจะหดตัว 5-10% จากปีนี้
ASML Holding ผู้ผลิตอุปกรณ์ทำชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์และมีสัดส่วนยอดขายเกือบ 50% เป็นจีนในไตรมาสที่สามของปี 2024 คาดการณ์ว่าสัดส่วนของจีนจะลดลงเหลือประมาณ 20% ในปี 2025
นอกจากนี้ SEMI คาดว่าการใช้จ่ายในอุปกรณ์ผลิตชิปในจีนจะลดลงเฉลี่ย 4% ต่อปีระหว่างปี 2023-2027 ในขณะที่การใช้จ่ายในอเมริกาจะเพิ่มขึ้น 22% ต่อปี ยุโรปและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 19% และญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 18% ในช่วงเวลาเดียวกัน
ถึงแม้ตลาดจะหดตัว จีนก็ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับอุปกรณ์ผลิตชิป โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 144.4 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 4.9 ล้านล้านบาท ในช่วงปี 2024-2027 ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างเกาหลีใต้ ไต้หวัน และอเมริกา
ปัจจัยที่ส่งผลให้จีนยังคงใช้จ่ายสูงคือเป้าหมายของรัฐบาลในการเพิ่มความพึ่งพาตนเองด้านเซมิคอนดักเตอร์ ถึงแม้ว่าอัตราความพึ่งพาตนเองในปี 2023 คาดว่าจะอยู่ที่ 23% เท่านั้น รัฐบาลยังคงสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้และผู้ผลิตต่างชาติต้องเผชิญการแข่งขันจากผู้เล่นท้องถิ่น
Naura Technology Group และ Advanced Micro-Fabrication Equipment (AMEC) ซึ่งเป็นบริษัทของรัฐจีน ได้รับการสนับสนุนทางเทคโนโลยีจากรัฐบาล โดย SMIC ผู้ผลิตชิปหลักของจีนได้ทำการจัดซื้ออุปกรณ์จากภายในประเทศเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง
อ้างอิง: asia.nikkei
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด