รัฐบาลจีนจัดตั้งกองทุน China Integrated Circuit Industry Investment Fund (ICF) เพื่อการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมชิปในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในความพยายามปรับตัวหลังจากถูกสหรัฐฯ กีดกันอุตสาหกรรมการผลิตชิปของจีน
กองทุนดังกล่าวนับเป็บกองทุนเพื่อการลงทุนอุตสาหกรรมชิปกองที่ 3 มีมูลค่ารวม 344 พันล้านหยวน หรือประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังของจีนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยรัฐบาลจีนได้สนับสนุนโรงงานผลิตชิปหลายแห่งในมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ของจีน อีกทั้งยังพยายามผลักดันให้ Huawei Technologies หลุดพ้นจากการต่ำบาตรของสหรัฐฯ
ท่ามกลางความตึงเครียดกับสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น ฝ่ายบริหารของไบเดนได้จำกัดการซื้อขายชิปจากจีน รวมถึงเรียกร้องให้พันธมิตร อย่างเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพิ่มมาตรการควบคุมการนำเข้าหรือใช้ชิปจากจีนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปได้ระดมทุนเกือบ 81,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อมุ่งสู่การผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในระยะยาว ทำให้เกิดความขัดแย้งและข้อพิพาษกับจีนเพื่อแย่งชิงผู้นำการผลิตชิปของโลก ในขณะที่จีนเองก็เป็นประเทศชั้นนำในการพัฒนาการผลิตชิปในช่วงที่ผ่านมา โดยใช้เงินสนับสนุนจากรัฐเพื่อพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่น
จากนโยบายดังกล่าวทำให้หุ้นของ Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีนพุ่งขึ้น 8.1% ในฮ่องกง ในขณะที่ Hua Hong Semiconductior ปรับตัวขึ้นมากกว่า 10%
เวลานี้ยังไม่มีรายละเอียดหรือแนวทางการลงทุนที่ชัดเจนประกาศออกมา นับว่าเป็นการปรับตัวที่ดีของอุตสาหกรรมการผลิตชิปในจีน หลังจากถูกสหรัฐฯ กีดกันในด้านต่างๆ
ข้อมูลจาก bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด