คนจีนเซฟเงิน สู้เศรษฐกิจซบเซา ทำแบรนด์หรูขายไม่ออก ยอมหั่นราคาเกินครึ่ง

คนจีนเซฟเงิน สู้เศรษฐกิจซบเซา ทำเอาแบรนด์เนมหรูต้องลดราคา บางแบรนด์ลดเกินครึ่ง เพื่อจะเคลียร์สต๊อก

แบรนด์หรูแห่ลดราคาในจีน เกิดอะไรขึ้น ? 

รายงานจาก Financial Times ชี้ว่า ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนลดการจับจ่ายกับของราคาแพงที่ไม่จำเป็น ในขณะที่แบรนด์ก็ต้องหาวิธีแก้ปัญหาหลังสต๊อกสินค้าไว้มากเกินไปในช่วงโควิด จนเกิดเป็นภาพแบรนด์หรูแห่ลดราคาเพื่อระบายของออก ซึ่งบางแบรนด์ให้ส่วนลดมากกว่า 50%

บนแพลตฟอร์ม Tmall Luxury Pavilion แพลตฟอร์ม e-Commerce ที่นำเสนอสินค้า Luxury ของ Alibaba Marc Jacobs จัดส่วนลดมากถึง 50% สำหรับกระเป๋าถือ เสื้อผ้า และรองเท้า ส่วน Bottega Veneta ก็มอบสินเชื่อให้ลูกค้าเป็นเวลา 24 เดือน แบบไร้ดอกเบี้ย สำหรับการซื้อกระเป๋า 

Jonathan Siboni ผู้ก่อตั้ง Luxurynsight บริษัทที่ให้บริการด้านข้อมูลสำหรับตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย แฟชั่น และความงามเผยว่า ในอดีตทุกแบรนด์ต่างเป็นผู้ชนะของตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยจีน แต่ปัจจุบันมีแบรนด์ที่ยืนไม่ไหวและกลายเป็นผู้แพ้ ซึ่งความท้าทายไปตกอยู่กับแบรนด์ที่อยู่กลางๆ ที่ไม่สามารถทำสินค้าราคาถูกจนผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อ และไม่ได้เป็นแบรนด์ใหญ่พอที่จะอยู่รอดได้

ข้อมูลจาก Luxurynsight ชี้ว่า ในปี 2024 สินค้าจากแบรนด์ Versace และ Burberry ที่ขายในประเทศจีน ลดราคาถึง 50% หรือมากกว่านั้นในทุกช่องทางการจำหน่าย แต่แบรนด์ชั้นนำอย่าง Louis Vuitton, Hermès และ Chanel ที่มีความยืดหยุ่นกว่าในแต่ละภูมิภาคและมีกลุ่มเป้าหมายเป็นลูกค้ากระเป๋าหนักกว่านั้น ได้ควบคุมการจัดจำหน่ายและหลีกเลี่ยงที่จะลดราคาสินค้า 

โควิดคือจุดเริ่มต้นแบรนด์เนมล้นสต๊อก

ช่วงโควิดระบาดและไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนใช้เงินกับสินค้าฟุ่มเฟือยมากขึ้นตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยโตเป็นสองเท่า ระหว่างปี 2019 ถึง 2021 ทำให้แบรนด์กักตุนสินค้าเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น และเร่งขยายการเข้าถึงในตลาดผ่านแพลตฟอร์ม e-Commerce ในประเทศอย่าง Tmall และ JD.com เป็นต้น

นอกจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ผู้ผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยเหล่านี้ยังเพิ่มราคาสินค้าที่ขายในประเทศจีนด้วย เพื่อชดเชยรายได้ที่สูญไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกา หลังจากที่หลายประเทศบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด

จนในช่วงปลายปี 2022 ที่เศรษฐกิจจีนเริ่มชะลอตัว เกิดวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ การว่างงานของคนรุ่นใหม่ และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต่ำ ทำให้แบรนด์และผู้ค้าปลีกสินค้าหรูหรามีสินค้าคงคลังมากเกินไปเริ่มลดราคา

หลายแบรนด์หรูยังต้องประสบกับ อัตราการคืนสินค้าที่สูงขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคต้องการใช้ประโยชน์จากการซื้อให้ถึงยอดเพื่อได้รับส่วนลดบนแพลตฟอร์ม e-Commerce เท่านั้น ยกตัวอย่าง Marc Jacobs มีอัตราการคืนสินค้าและการยกเลิกในจีนเพิ่มขึ้นจาก 30 เปอร์เซ็นต์ในปี 2023 เป็น 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 2024 ในขณะที่ Brunello Cucinelli เพิ่มขึ้นจาก 59 เปอร์เซ็นต์เป็น 69 เปอร์เซ็นต์ในช่วงเวลาเดียวกัน ตามข้อมูลของ Luxurynsight

นอกจากจะประหยัดเงินมากขึ้น อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนซื้อของแบรนด์เนมน้อยลง อาจจะมาจากกระแส Luxury shame หรือ ความหรูหราที่น่าอับอาย โดยเกิดขึ้นกับผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง แต่ไม่อยากซื้อของแบรนด์เนมใช้ เพราะกลัวคนจะมองว่าโอ้อวดใช้ของแพง ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศแย่ ซึ่งเทรนด์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว กับชาวอเมริกันและยุโรปประสบหลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008

กลยุทธ์การหั่นราคาเพื่อเคลียร์สต๊อกนั้น ไม่ได้การันตีว่าแบรนด์จะแก้ปัญหาได้ ด้วยความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ นักช้อปตัดสินใจซื้อของฟุ่มเฟือยน้อยลงเรื่อยๆ นอกจากนั้นยังอาจเป็นผลเสียกับแบรนด์ เพราะยิ่งลดราคามาก คุณค่าของสินค้านั้นก็ยิ่งลดน้อยลงในใจผู้บริโภคด้วย

อ้างอิง : Financial Times

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

เจาะดีล Netflix เข้าซื้อ Warner Bros ทำไมถึงยอมจ่ายมากถึง 8.27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำไมหลายคนไม่เห็นด้วย

นับเป็นข่าวใหญ่ที่สะเทือนวงการบันเทิงหนัง Netflix เจ้าตลาดสตรีมมิ่งประกาศเข้าซื้อกิจการ Warner Bros. ซึ่งนับรวมถึงสตูดิโอสร้างภาพยนตร์-โทรทัศน์ และธุรกิจสตรีมมิ่ง HBO Max และ HBO ด...

Responsive image

ซีอีโอ AWS ชี้ AI Agents จะเปลี่ยนโลกยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ต เราอาจได้เห็น AI Agent พันล้านตัวรันองค์กร

AWS ซีอีโอประกาศชัด AI Agents จะสร้างผลกระทบต่อโลกธุรกิจยิ่งกว่าอินเทอร์เน็ตและ Cloud พร้อมเปิดยุคที่ ‘AI Agent พันล้านตัว’ ทำงานอัตโนมัติอยู่หลังองค์กรทั่วโลก เร่งผลตอบแทนทางธุรกิ...

Responsive image

วิกฤตสมองไหลใน Apple ไม่จบ ! ล่าสุด Meta ดึงตัว Alan Dye หัวหน้าทีมดีไซน์ Apple ผู้คุมออกแบบ Liquid Glass ใน iOS26

เจาะลึกสมองไหลใน Apple ปี 2025 เมื่อผู้เชี่ยวชาญ AI หลายคนย้ายไป Meta, OpenAI และ Cohere ส่งผลต่ออนาคต Apple Intelligence...