โรงพยาบาล Zhongnan ของมหาวิทยาลัย Wuhan ในเขตเมือง Wuhan ประเทศจีน ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 โรคที่เกิดจากเชื้อ coronavirus SARS-CoV-2 สายพันธ์ใหม่ เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลจีนได้สั่งปิดเมืองจากบุคคลภายนอกเพื่อป้องกันการเเพร่เชื้อในเขตเมืองอื่น โรงพยาบาล Zhongnan กลายเป็นศูนย์การวิจัยและที่พักรักษาตัวของชาวเมืองที่ติดเชื้อ Covid-19
ปัจจุบันการรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในโรงพยาบาลยังอยู่ในกระบวนการทดลองเพื่อหายาต้านไวรัสที่สามารถรักษาผู้ป่วยให้หายจากอาการติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังมีการวิจัยเกี่ยวกับเครื่องมือในตรวจสอบหาเชื้อไวรัสในร่างกายของผู้ติดเชื้อซึ่งหนึ่งในการทดลองที่น่าสนใจของแผนกรังสีวิทยามหาวิทยาลัย Zhongnan คือ การนำ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์มาตรวจจับสัญญาณภาพของโรคปอดที่เกิดจากเชื้อไวรัส Covid-19 ผ่านเครื่องสเเกน CT ซึ่งเป็น Software ที่ถูกพัฒนาโดยการนำคุณสมบัติของ AI เข้ามาใช้ร่วมกับการตรวจโรคที่เกี่ยวกับปอด เครื่องสแกนปอด CT นี้ที่เคยถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบโรคมะเร็ง ซึ่งตอนนี้ถูกนำมาดัดแปลงเพื่อค้นหาสัญญาณของโรคปอดอักเสบที่เกิดจาก coronavirus ในประเทศจีน
ศาสตราจารย์ Haibo Xu ประธานสาขารังสีวิทยาของโรงพยาบาล Zhongnan กล่าวว่า “AI ที่ถูกดัดเเปลงนี้มีคุณสมบัติในการตรวจหาเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ช่วยลดเวลาและภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ Covid-19 ของบุคคลากรทางการเเพทย์ในโรงพยาบาลได้มากขึ้นซึ่ง AI นี้จะได้รับการพัฒนาและทดสอบต่อไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้ตรวจหาเชื้อไวรัส Covid-19 ในร่างกายผู้ป่วย” ศาสตราจารย์ Haibo Xu ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การตรวจหาโรคปอดจากการสแกนไม่เพียงยืนยันได้ว่าบุคคลนั้นติดเชื้อหรือไม่ แต่ช่วยให้เจ้าหน้าที่คัดกรองผู้ป่วยได้เร็วขึ้นนอกจากนี้เครื่องมือ AI นี้สามารถระบุสัญญาณทั่วไปหรือสัญญาณบางส่วนของโรคปอดที่เกิดจากเชื้อไวรัส Covid-19 ได้ด้วยทำให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถติดตามผลการตรวจอื่นๆ และการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคได้อย่างต่อเนื่อง
Software AI ที่ใช้ใน Zhongnan นั้นถูกสร้างขึ้นโดย Infontision ของปักกิ่ง ได้กล่าวว่าเครื่องมือตรวจหาเชื้อไวรัส Covid-19 นี้ได้ถูกนำไปใช้ในโรงพยาบาล 34 แห่งในจีนและใช้ในการตรวจสอบมากกว่า 32,000 ราย เครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 2558 ด้วยเงินทุนจากนักลงทุนรวมถึง Google Backer Sequoia Capital ซึ่งเป็นช่วงเเรกๆ ของประเทศจีนในการใช้ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ด้านการแพทย์
รัฐบาลของจีนได้เร่งพัฒนาเครื่องมือ AI สำหรับการดูแลสุขภาพซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ ของรัฐบาลจีนซึ่งการพัฒนาระบบต้องไเป็นไปตามข้อกำหนดโดยอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของรัฐบาลเมื่อเป็นไปตามข้อตกลงบริษัท ต่างๆ เช่น บริษัท Infervision จึงได้รวบรวมข้อมูลทางการแพทย์เพื่อพัฒนาอัลกอริทึมการเรียนรู้ของระบบในงานต่างๆ เช่น การอ่านสแกนโรคที่ใช้เวลาน้อยเเละมีประสิทธิภาพกว่าเครื่องมือทางการเเพทย์ของคู่แข่งในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป
บริษัท Infervision สร้างผลิตภัณฑ์หลักซึ่งเป็น Software ที่ทำการตรวจหาปัญหาที่บริเวณปอดของผู้ป่วยด้วยการสแกน CT โดยใช้ข้อมูลภาพปอดที่เก็บจากโรงพยาบาลใหญ่ของจีนหลายแสนภาพมาเป็นข้อมูลใการพัฒนา Software AI นี้ ซึ่งเครื่องมือดังกล่าวมีการใช้งานในโรงพยาบาลในประเทศจีนและได้รับการประเมินโดยคลินิกในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพื่อตรวจหาก้อนเนื้อในปอดที่อาจเป็นมะเร็ง
การวินิจฉัย Covid-19 อย่างชัดเจนนั้นจำเป็นต้องมีการตรวจหาไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรค SARS-CoV-2 ของเหลวในร่างกาย เนื่องจากการทดสอบใช้เวลาพอสมควรและห้องปฏิบัติการบางแห่งเริ่มมีบุคคลากรติดเชื้อไวรัสมากขึ้น การศึกษาและพัฒนา Software AI สแกนปอดจึงมีความสำคัญมากขึ้น
แนวทางการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการของ Covid-19 ที่ออกโดยคณะกรรมการแห่งชาติของจีนแนะนำให้ใช้ภาพหน้าอก CT เป็นปัจจัยสำคัญในการวินิจฉัย โรคที่เกี่ยวข้องกับปอดจากไวรัสรูปแบบอื่นรวมถึงที่เกิดจากโรคซาร์ส
ข่าวการสแกนปอดของ Covid-19 ที่ตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซลโดยคุณ Hyungjin Kim ในเกาหลีใต้สรุปว่า Software AI อาจช่วยลดภาระของโรงพยาบาลในการรับมือกับการระบาดของโรคโดยช่วยนักรังสีวิทยาระบุผู้ป่วยได้เร็วขึ้น
ถึงเเม้เครื่องมือ AI นี้ยังไม่สามารถระบุเเน่ชัดถึงผลการตรวจว่าเเม่นยำ 100% หรือไม่แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นสาเหตุให้การทำงานของนักวิจัยทั้งในสหรัฐอเมริกาและจีน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับไวรัส
Chen ผู้บริหาร Infervision กล่าวว่าในที่สุดเครื่องตรวจโรคปอดจากการติเชื้อ Covid-19 จะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากสำนักงานการแพทย์แห่งชาติของจีนซึ่งดูแลเครื่องมือ AI ด้านการดูแลสุขภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานแต่สำหรับตอนนี้สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือแพทย์และผู้ป่วย “ ที่มีความเสี่ยงทุกวินาทีในการรักษาผู้ป่วยจากสถานการณ์การระบาดที่เป็นอันตรายเช่นนี้ แต่ความเสี่ยงของการอยู่เฉยนั้นยิ่งใหญ่กว่ามาก” เขากล่าว
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก wired.com
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด