
นี่คือแนวคิดของนักวิจัยชาวจีน ในการพัฒนาเทคนิคการชุบชีวิตเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยใช้วิธีฉีดสารเข้าไปในแบตเตอรี่เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของเซลล์ นับเป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่ช่วยลดขยะจากแบตเตอรี่ลิเธียมที่อยู่ในรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากเป็นสิ่งที่รีไซเคิลได้ยาก แลพหากกำจัดไม่ถูกวิธี สารเคมีที่มีพิษอาจรั่วไหลลงสู่พื้นดิน
โดยทั่วไปแล้ว แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนของรถ EV จะมีอายุการใช้งานประมาณ 8-12 ปี ก่อนจะค่อยๆ ลดสภาพจนมีความจุต่ำกว่า 80% ของความจุเดิม เมื่อถึงช่วงเวลานั้นหลายคนก็อาจจะเลือกที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่เพื่อให้รถกลับมาใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่แบตเตอรี่ใหม่นั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของราคารถ EV ตามการวิเคราะห์ของ Scientific American
โดยสิ่งที่นักวิจัยชาวจีนทำก็คือ พวกเขาใช้ Machine Learning ในการค้นหาสารที่ทำหน้าที่ฟื้นฟูเซลล์แบตเตอรี่ได้ ซึ่งก็ได้พบว่า เกลือที่เรียกว่า ลิเธียมไตรฟลูออโรมีเทนซัลฟิเนต (lithium trifluoromethanesulfinate หรือ LiSO2CF3) เป็นสารเคมีที่เหมาะสมที่สุด เพราะเมื่อถูกละลายในสารละลายอิเล็กโทรไลต์ เกลือชนิดนี้จะปล่อยไอออนลิเธียมซึ่งสามารถไหลกลับเข้าไปในเซล์ที่เสื่อมสภาพของแบตเตอรี่
จากการทดลองพบว่า เมื่อฉีดสารละลายนี้เข้าไปในเซลล์แบตเตอรรี่แบบ LFP ก็พบว่าสารเคมีนี้ช่วยฟื้นฟูความจุของเซลล์ได้เกือบทั้งหมด ทำให้สามารถทำงานได้เกือบดีเท่าแบตเตอรี่ใหม่ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดการทดลอง เซลล์แบตเตอรี่สามารถฟื้นฟูความจุได้ถึง 96 หลังผ่านไปเกือบ 12,000 รอบการชาร์จ และการคายประจุ ซึ่งต่างจากแบตเตอรี่ EV ทั่วไปที่ที่จะเริ่มเสื่อมสภาพเมื่อชาร์จ และคายประจุประมาณ 2,000 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเปิดเผยว่าสารมหัศจรรย์ตัวนี้ยังไม่พร้อมวางจำหน่ายในตลาด เนื่องจากเป็นการทดลองในระดับเซลล์แบตเตอรี่เท่านั้น ยังจำเป็นต้องค้นคว้าเพื่อนำไปใช้งานกับแบตเตอรี่ทั้งชุด เนื่องจากชุดแบตเตอรี่ประกอบไปด้วยหลายร้อยหรือหลายพันเซลล์ แต่ก็นับว่าเป็นกระบวนการที่น่าสนใจในการรีไซคเคิลแบตเตอรี่สำหรับรถ EV
อ้างอิง : Futurism
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด