ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเตือนภัยพิบัติ ด้วยการเปิดตัวระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่าน SMS ที่แบ่งระดับความรุนแรงถึง 5 ระดับ และที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน Cell Broadcast Service ที่จะเริ่มใช้งานในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้การรับมือภัยพิบัติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงทีมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าวในไทยรายงานว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ประกาศว่าระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่าน SMS ได้เริ่มใช้งานแล้ว โดยระบบนี้จะเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, กรมอุตุนิยมวิทยา และอื่น ๆ เพื่อแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น อุทกภัย, วาตภัย, ดินโคลนถล่ม เป็นต้น
ระบบนี้มีความโดดเด่นในการแบ่งระดับความรุนแรงของภัยพิบัติออกเป็น 5 ระดับ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าใจสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือได้อย่างเหมาะสมซึ่งจะมีข้อความการแจ้งเตือนที่ระบุชัดเจนว่าประชาชนควรปฏิบัติตนอย่างไร โดยภัยพิบัติระดับ 5 เป็นระดับสูงสุดที่บ่งบอกถึงภัยพิบัติร้ายแรงที่ประชาชนต้องอพยพออกจากพื้นที่
นอกจากระบบ SMS แล้ว ประเทศไทยยังมีแผนที่จะนำระบบ Cell Broadcast Service (CBS) มาใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ ระบบนี้จะสามารถส่งข้อความแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินไปยังโทรศัพท์มือถือทุกเครื่องที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้พร้อมกันทันที โดยไม่จำเป็นต้องรู้หมายเลขโทรศัพท์ และสามารถแจ้งเตือนได้ทั้งในรูปแบบข้อความ ตัวอักษร รูปภาพ และเสียง นอกจากนี้ยังรองรับ Text to Speech สำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็นอีกด้วย นอกจากนี้ CBS ยังรองรับการแจ้งเตือนเป็น 5 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย ซึ่งจะช่วยให้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างทันท่วงที
นายประเสริฐ คาดว่าระบบ CBS จะพร้อมใช้งานเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2568 โดยในไตรมาสแรกจะมีการทดสอบระบบและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่าระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบนี้ยังสามารถตั้งระดับการเตือนได้ 5 ระดับ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้แก่
1. การแจ้งเตือนระดับชาติ (National Alert) การแจ้งเตือนระดับสูงสุด ความสำคัญมากสุด และทุกคนในทุกพื้นที่เสาสัญญาณครอบคลุมจะทราบเหตุทันที
2. การแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน (Emergency Alert) การแจ้งเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น ภัยสึนามิ แผ่นดินไหว น้ำท่วมฉับพลัน หรือ ภัยจากคนร้าย เป็นต้น
3. การแจ้งเตือนคนหาย (Amber Alert) ระบบตั้งเตือนข้อมูลเมื่อมีเด็กหายหรือคนหาย รวมทั้งการลักพาตัว เพื่อให้ประชาชนทราบข่าว เฝ้าระวัง และช่วยเจ้าหน้าที่ภาครัฐสังเกตการณ์ รายงานผล ถ้าพบคนหายหรือคนร้าย
4. ความปลอดภัยสาธารณะ (Public Safety) ระบบการแจ้งเตือนความปลอดภัยสาธารณะในพื้นที่ หรือการเฝ้าระวัง กรณีแจ้งคนที่อยู่อาศัย ชุมชน และผู้สัญจรผ่านพื้นที่นั้น
5. การแจ้งเตือนทดสอบ (Test Alert) ระบบทดสอบการแจ้งเตือนตามวัตถุประสงค์เฉพาะกิจต่าง ๆ โดยสามารถใช้งานเพื่อทดสอบก่อนขยายผลสู่การเฝ้าระวังและแจ้งเตือนในระดับต่าง ๆ ต่อไป
สหรัฐอเมริกามีระบบเตือนภัยฉุกเฉินที่เรียกว่า Emergency Alert และ SMS Alert System ซึ่งคล้ายกับ Cell Broadcast Service โดยระบบนี้จะส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติต่าง ๆ เช่น ไฟป่า, พายุเฮอริเคน, น้ำท่วม และพายุทอร์นาโด
รัฐบาลสหรัฐฯ มีการทดสอบระบบ Emergency Alert อย่างน้อยทุก 3 ปี เพื่อให้มั่นใจว่าระบบยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่ประเทศไทยสามารถนำมาปรับใช้เพื่อให้ระบบเตือนภัยของเรามีความน่าเชื่อถือและพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
การพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติของประเทศไทยถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติต่าง ๆ โดยระบบแจ้งเตือนผ่าน SMS ที่เริ่มใช้งานแล้ว และระบบ Cell Broadcast ที่จะตามมาในอนาคต จะช่วยให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่จำเป็นและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติยังคงเป็นกระบวนการที่ต้องดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบมีความทันสมัยและตอบสนองต่อภัยพิบัติรูปแบบใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อ้างอิง ข่าวสารอาเซียน กรมประชาสัมพันธ์
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด