ทีมแพทย์จุฬาฯ พัฒนาตู้ความดันลบสำหรับเก็บสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ลดความเสี่ยงไวรัส COVID-19 แพร่กระจาย

ทีมแพทย์จุฬาฯ พัฒนาตู้ความดันลบสำหรับเก็บสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้บุคลากรทางการแพทย์ในการเก็บสารคัดหลั่งต่างๆ จากคอหอยและโพรงจมูกของคนไข้มาตรวจ ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 ทดแทนการใช้ห้องความดันลบที่ใช้ในการเก็บสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่จะต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก และไม่สามารถทำได้ในทุกโรงพยาบาล

อ.นพ.พสุรเชษฐ์ สมร ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 การเก็บสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยโดยบุคลากรทางการแพทย์ให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ตู้ความดันลบสำหรับใช้เก็บสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยที่ติดเชื้อ COVID-19 ที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ พัฒนาขึ้นนี้เป็นตู้ความดันลบตามมาตรฐานของการเก็บสิ่งส่งตรวจ มีประสิทธิภาพในการป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรคให้อยู่แต่เฉพาะในตู้นี้เท่านั้น สามารถเคลื่อนย้ายเพื่อความสะดวกในการใช้งาน วัสดุที่ใช้ทำตู้เป็นอะคริลิกหนา 15 มิลลิเมตรซึ่งทนต่อน้ำยาฆ่าเชื้อ มีลักษณะใส สามารถมองเห็นได้จากภายนอก ภายในตู้มีเครื่องดูดอากาศผ่าน HEPA Filter เกรดที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ซึ่งสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กเท่าไวรัสได้ 99.995% โอกาสที่ไวรัสจะหลุดรอดจากฟิลเตอร์แทบจะเป็น 0% นอกจากนี้ยังมีการฆ่าเชื้อด้วยหลอด UV-C ทำให้ไวรัสหมดความสามารถ ในการก่อโรค เมื่อเทียบกับหน้ากาก N95 ที่สามารถกรองอนุภาคได้ขนาด 0.3 ไมครอน ตู้นี้จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสมากกว่า 1 พันเท่า

ขณะนี้ได้มีการนำตู้ความดันลบสำหรับเก็บสิ่งส่งตรวจจากผู้ป่วยแบบเคลื่อนที่มาใช้งานจริงแล้วที่หอผู้ป่วย COVID-19 ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นตู้ที่สามารถเคลื่อนที่ไปที่ไหนก็ได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ในเรื่องความเสี่ยงในการติดเชื้อ

อ.นพ.พสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตู้นี้ยังทำให้ผู้เข้ารับการตรวจเชื้อไม่ต้องกังวลในเรื่องความปลอดภัยของคนไข้ที่มาใช้งานต่อ เพราะอากาศที่ฟุ้งกระจายในตู้จะถูกดูดออกโดยอนุภาคฟิลเตอร์และมีการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV-C นอกจากนี้ยังมีการพ่นแอลกอฮอล์และเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง ปัจจุบันได้มีการผลิตตู้มาใช้งานที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์แล้ว 8 เครื่อง จำนวนตู้ที่ผลิตทั้งหมด 50 เครื่อง ซึ่งจะใช้ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 10 เครื่อง ที่เหลือจะกระจายไปตามโรงพยาบาลต่างๆ เช่น โรงพยาบาลยะลา โรงพยาบาลปัตตานี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ฯลฯ ค่าใช้จ่ายในการผลิตตู้ละ 100,000 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท TCP ในส่วนของการออกแบบสร้างตู้สำหรับตรวจ COVID-19 หากมีผู้ที่สนใจต้องการจะนำไปผลิตหรือปรับปรุงเพื่อใช้งานทางการแพทย์ ก็สามารถนำไปใช้ต่อได้”

“ตู้นี้เป็นความร่วมมือของคณาจารย์ภาควิชาศัลยศาสตร์ และหน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โดยใช้วัสดุที่ผลิตและหาได้ง่ายในประเทศ เมื่อสถานการณ์วิกฤต COVID-19 คลี่คลายลง ก็ยังสามารถนำตู้นี้ไปใช้ในระยะยาวในการเก็บสิ่งส่งตรวจจากโรคทางด้านทางเดินหายใจอื่นๆ เช่น วัณโรค ไข้หวัดใหญ่ ปัจจุบันเราประสบปัญหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลน ใครที่พอจะมีกำลังที่จะทำได้ก็ขอให้ช่วยกัน แต่ถ้าขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้ใช้งานจริงก่อนจะดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน” อ.นพ.พสุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย

source

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

Wongnai POS เปิดตัว mini EDC โซลูชันรับชำระเงินเพื่อ SME รวมทุกการจ่ายในเครื่องเดียว เชื่อมต่อระบบขายหน้าร้านอัตโนมัติ

เมื่อพฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนจากการใช้เงินสดไปสู่สังคมไร้เงินสดมากขึ้น ความท้าทายของร้านค้าและผู้ประกอบการ SME จึงไม่ใช่แค่เรื่อง “ยอดขาย” เพียงเท่านั้น แต่คือ “ร้านค้าพร้อมรองรับการช...

Responsive image

ChatGPT มี Wrapped เป็นของตัวเองแล้ว! เปิดตัว “Your Year with ChatGPT” สะท้อน ‘ตัวตน’ ผ่านบทสนทนาตลอดปี ซื้อใจผู้ใช้ด้วย AI ในฐานะ ‘เพื่อนคู่คิด’

ChatGPT เปิดตัว “Your Year with ChatGPT” ฟีเจอร์ Recap สิ้นปีที่ไม่ได้สรุปแค่สถิติการใช้งาน แต่สะท้อนตัวตน วิธีคิด และความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับ AI พร้อมเผยเกมจิตวิทยาและกลยุทธ์ข...

Responsive image

จบปัญหาชื่ออีเมลน่าอาย! Google เตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ เปลี่ยนชื่อ @gmail.com ได้ ไม่ต้องสมัครใหม่

พบข้อมูล Google เตรียมเปิดฟีเจอร์ให้เปลี่ยนชื่ออีเมล @gmail.com ได้ โดยข้อมูลไม่หาย อีเมลเก่าจะกลายเป็น Alias รับข้อความได้ปกติ...