ความพยายามในการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐของกระทรวงประสิทธิภาพของรัฐบาลหรือ DOGE ที่นำโดย Elon Musk กำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับระบบราชการของสหรัฐฯ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังดำเนินการยกเลิกบัตรเครดิตไปกว่า 24,000 ใบและจำกัดวงเงินบัตรเครดิตที่เหลืออยู่เหลือ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพียง 33.6 บาทเท่านั้น มาตรการสุดขั้วนี้ส่งผลให้พนักงานจำนวนมากไม่สามารถซื้อสิ่งของจำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่และส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานภาครัฐโดยรวม
ผลกระทบของการตัดลดบัตรเครดิตครั้งนี้แผ่ขยายไปในวงกว้าง ครอบคลุมหน่วยงานราชการและภารกิจที่หลากหลาย พนักงานในห้องปฏิบัติการของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) ไม่สามารถจัดซื้อไนโตรเจนเหลวที่จำเป็นสำหรับการเก็บรักษาสิ่งตัวอย่าง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ต้องประสบปัญหาในการจัดซื้ออุปกรณ์พื้นฐานอย่างหัวดูดสาร (pipette tips) การดำเนินงานที่สำคัญถูกขัดขวาง และการให้บริการประชาชนล่าช้าลงเป็นอย่างมาก
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไร้ประสิทธิภาพและความยุ่งยากที่เกิดจากนโยบายรัดเข็มขัดสุดขั้วนี้ หน่วยงานต่างๆ ต้องพึ่งพาการแลกเปลี่ยนสิ่งของที่จำเป็นระหว่างกัน ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ไม่ยั่งยืนและบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานในระยะยาว
ผลกระทบของการตัดลดบัตรเครดิตไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การจัดซื้ออุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อการทำงานที่สำคัญของรัฐบาลอีกด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม (SSA) ไม่สามารถออกใบส่งพัสดุ ในขณะที่ทนายความกระทรวงการคลังถูกตัดสิทธิ์เข้าถึงระบบ PACER เพื่อใช้ติดตามคดีของศาลรัฐบาลกลาง ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการให้บริการประชาชน และอาจนำไปสู่ความไม่พอใจในหมู่ประชาชนที่ต้องพึ่งพาบริการของรัฐ
หน่วยงานบริการทั่วไปของสหรัฐฯ (GSA) ได้ยืนยันการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยอ้างว่าเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของนโยบายดังกล่าว โดยมองว่าการตัดลดวงเงินบัตรเครดิตเหลือเหลือเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเพียง 33.6 บาทนั้นเป็นมาตรการที่รุนแรงเกินไป และไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการทำงานของรัฐบาลอย่างรอบด้าน นโยบายนี้จึงสร้างความขัดแย้งและความไม่พอใจให้กับหลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพนักงานรัฐบาลที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่
วิกฤตการตัดลดบัตรเครดิตครั้งนี้เป็นสัญญาณเตือนถึงความจำเป็นในการทบทวนนโยบายรัดเข็มขัดที่กำลังดำเนินการอยู่ รัฐบาลจำเป็นต้องหาวิธีการลดค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานราชการ การลงทุนในทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานรัฐบาล คือการลงทุนในการให้บริการประชาชนที่มีคุณภาพ และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มีต่อภาครัฐ หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าในแนวทางเดิม อาจนำไปสู่ความล้มเหลวในการให้บริการประชาชน และความเสื่อมถอยของระบบราชการในระยะยาว
ทางออกที่ยั่งยืนคือการประเมินความจำเป็นในการใช้จ่ายของแต่ละหน่วยงานอย่างรอบคอบ การค้นหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการให้ความสำคัญกับการลงทุนในบุคลากรและทรัพยากรที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ การตัดลดค่าใช้จ่ายไม่ใช่เป้าหมายสูงสุด แต่เป็นการสร้างความสมดุลระหว่างการประหยัดและการให้บริการประชาชนที่ดีขึ้น
อ้างอิง: fortune
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด