บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA อยู่ระหว่างปรับกลยุทธ์การลงทุนในยานยนต์ไฟฟ้าจากเดิมเน้นในส่วนของรถยนต์ส่วนบุคคลมาสู่การมุ่งผลิตรถประจำทาง รถบรรทุก และรถไฟ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายของประเทศที่ต้องการจะหยุดการใช้รถที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2578
คุณอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ เปิดเผยว่า รถประจำทางไฟฟ้ามีชื่อว่า Mine Bus รถโดยสาร 29 ที่นั่ง วิ่งได้ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งบริษัทวางแผนเริ่มส่งมอบรถประจำทางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ารอบแรกในเดือนก.ค นี้ โดยจะเดินทางรับส่งผู้โดยสารทั่วกรุงเทพมหานคร และทางบริษัทมุ่งเป้าจะส่งมอบรถประจำทางให้ได้มากที่สุด 600 คันภายในสิ้นปี 2564 นี้
ก่อนหน้านี้บริษัทมีแผนการที่จะขายรถยนต์ไฟฟ้าส่วนบุคคลภายใต้โมเดลที่ชื่อว่า MINE Mobility โดยได้เปิดตัวรุ่น SPA1 ซึ่งเป็นรถยนต์สำหรับครอบครัว 5 ที่นั่งในปี 2562 แต่ยังไม่ได้ส่งมอบรถให้กับลูกค้าแต่อย่างใด เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลให้ยอดสั่งจองรถยนต์จำนวน 3,500 คันจากกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ในนามของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิถูกยกเลิก จากสาเหตุที่รายได้ของพนักงานขับรถแท็กซี่ลดลง
“รถประจำทางและรถบรรทุกจะกลายเป็นตลาดหลักของเรา และเรายังไม่ได้ล้มเลิกแผนผลิตรถยนต์เสียทีเดียว แต่กำลังประเมินศักยภาพของตลาด” คุณอมร กล่าวกับ Bloomberg
สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยอยู่ในช่วงการแข่งขันที่ดุเดือด ตั้งแต่ที่ Great Wall Motor บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีนได้เข้ามาทำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในไทยและจะผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศภายในปี 2566 อีกทั้งยังมี กลุ่ม ปตท. ที่ได้ประกาศร่วมทุนกับ Foxconn Technology จากไต้หวัน ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ EV
“หากเราพุ่งเข้าไปในตลาดรถยนต์ EV ตอนนี้เลย บริษัทอาจจะไม่รอด แต่ถ้าเราสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเมื่อคนเชื่อมั่นในแบรนด์เราแล้ว เราก็จะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ได้ในที่สุด” คุณอมร กล่าว
ขณะที่ความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรีลิเทียมไอออนขนาด 1 กิกะวัตต์ ในมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ของบริษัทย่อย Amita Thailand การก่อสร้างเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 98% หลังจากที่ล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้จากมาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งเฟสแรกควรพร้อมใช้งานภายในเดือนส.ค. นี้
คุณอมร กล่าวว่า ในปีนี้รายได้จากการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรีจะคิดเป็นสัดส่วน 20% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท
นอกจากการผลิตรถประจำทางไฟฟ้าแล้ว EA เตรียมเซ็นสัญญา MOU กับบริษัท China Railway Construction Corporation เพื่อศึกษาวิจัยรถจักรไฟฟ้าในการต่อยอดไปยังการผลิตรถไฟที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งบริษัท China Railway Construction Corporation ยังผลิตเรือไฟฟ้า ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของเรือให้ได้ถึง 80% ภายในเวลาเพียง 15 นาที
อ้างอิง Bloomberg
ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด