แฟร์ดี (FairDee) บริษัทอินชัวร์เทคไทยระดมทุน Series B ได้กว่า 65 ล้านดอลลาร์ หลังควบรวมกิจการกับ Qoala เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แฟร์ดีเปิดเกมรุกตลาดต่อเนื่อง เผยผลประกอบการปี 2564 โต 3 เท่า แม้ถูกท้าทายจากสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก 

แฟร์ดี (FairDee) บริษัทอินชัวร์เทคชั้นนำของเมืองไทยสามารถระดมทุน Series B ได้กว่า 2.3 พันล้านบาท (หรือราว 65 ล้านดอลลาร์) การระดมทุนครั้งนี้นำโดย Eurazeo กลุ่มบริษัทผู้บริหารสินทรัพย์และการลงทุนชั้นนำของโลกสัญชาติฝรั่งเศส ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ แกร็บ (Grab) บริษัทสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

โดยเงินทุนก้อนนี้จะช่วยให้แฟร์ดีสามารถบรรลุคำมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ สู่ตลาดประกันภัย พร้อมความสะดวกสบายและบริการต่าง ๆ สำหรับโบรกเกอร์และลูกค้าบริษัทในเมืองไทย ด้วยอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมากว่า 3 เท่า ทำให้ในวันนี้ แฟร์ดีตั้งเป้าสู่การเป็นบริษัทอินชัวร์เทคอันดับ 1 ของไทย และพร้อมขยายบริการและการลงทุนให้ครอบคลุมทั่วประเทศในอนาคต

แฟร์ดีก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2562 ด้วยพันธกิจในการช่วยให้ผู้คนนับล้านที่ไม่มีประกันครอบคลุมทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถเข้าถึงความคุ้มครองจากประกันภัยที่มีราคาซื้อหาได้และเหมาะสมตามแต่ละบุคคล ด้วยการยกระดับการปฏิบัติงานของโบรกเกอร์อิสระให้เป็นระบบดิจิทัล และเชื่อมโยงพวกเขาเข้ากับบริษัทประกันภัยมากกว่า 30 รายในประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์มบนสมาร์ตโฟน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แฟร์ดีได้ควบรวมกิจการกับ Qoala Group บริษัทสตาร์ตอัปด้านอินชัวร์เทคจากการระดมทุนระดับภูมิภาคซึ่งมีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดและมีฐานการดำเนินงานทั้งในไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย

สถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกทำให้ผู้คนตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของประกันภัยกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งแฟร์ดีเล็งเห็นถึงโอกาสที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้ถือประโยชน์หลายฝ่ายในตลาดประกันภัย ทั้งพันธมิตรบริษัทประกันภัย โบรกเกอร์ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อเพิ่มอัตราการครอบครองและเข้าถึงประกันภัยในไทยได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดธุรกิจประกันภัยที่มีผู้บริโภคมากที่สุด โดยประเทศไทยมีโบรกเกอร์ประกันภัยทั่วไปมากกว่า 150,000 ราย และมากกว่า 70% เป็นนายหน้าอิสระ 

ซึ่งนายหน้าอิสระเหล่านี้ดำเนินงานแบบวิสาหกิจรายย่อยและมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านการประกันภัยของชุมชนต่าง ๆ ในประเทศ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยและบริการที่หลากหลาย แฟร์ดีเห็นถึงปัญหาและต้องการพัฒนา เราจึงสนับสนุนนายหน้าอิสระเหล่านี้ผ่านการใช้เครื่องมือดิจิทัลและการฝึกอบรมเพื่อการนำเสนอบริการและผลิตภัณฑ์ที่เหนือชั้นมอบให้แก่ลูกค้า มากไปกว่านั้นวิธีการนี้จะช่วยให้นายหน้าอิสระสามารถแข่งขันได้มากกว่า เพิ่มรายได้ได้มากขึ้น และเอื้อให้ลูกค้าชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่หลากหลายมากที่สุด

แฟร์ดีมุ่งมั่นเพิ่มการลงทุนในตลาดเมืองไทย รวมถึงการยกระดับประสิทธิภาพแอปพลิเคชันและมาตรฐานบริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นมาตรฐานด้านเวลาในการออกใบเสนอราคาและกรมธรรม์ให้กับอุตสาหกรรม บริษัทยังเปิดใช้ระบบให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้นายหน้าอิสระสามารถเพิ่มอัตราการตอบสนองของลูกค้าได้มากขึ้น และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ภายในปีนี้แฟร์ดีจะดำเนินการสรรหาบุคลากรลอีกมากกว่า 50 คน ทั้งฝ่ายผลิตภัณฑ์ ฝ่ายการตลาด และฝ่ายปฏิบัติการ เพื่อร่วมขยายฐานที่มั่นคงไปด้วยกัน

คุณธนศักดิ์ ฮุ่นตระกูล กรรมการผู้จัดการ แฟร์ดี เชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถรักษาระดับการเติบโตที่ต่อเนื่องได้ด้วยเงินทุน Series B ครั้งล่าสุดนี้ โดยกล่าวว่า “ก้าวต่อไปของเราคือการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานแพลตฟอร์มของเราให้สอดคล้องกับคนไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับบริษัทประกันภัย โบรกเกอร์ คปภ. และระบบนิเวศงาน ตลอดจนเพิ่มการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตของตลาดประกันภัยในเมืองไทย เราได้วางแผนที่จะยกระดับธุรกิจอินชัวร์เทคสู่มาตรฐานใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน”

การระดมทุนครั้งนี้ยังแสดงถึงการเล็งเห็นคุณค่าและความเชื่อมั่นจากนักลงทุนของ Qoala ทั้งนักลงทุนในปัจจุบันและนักลงทุนรายใหม่ ในการสานต่อการเติบโตในภาคธุรกิจอินชัวร์เทค โดย Eurazeo ได้บุกเบิกการระดมทุนรอบนี้ผ่านการมีส่วนร่วมของนักลงทุนหลายรายในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึง Flourish Ventures, KB Investment, MassMutual Ventures, MDI Ventures, SeedPlus และ Sequoia Capital India นอกจากนี้ยังมี BRI Ventures, Daiwa PI Partners, Indogen Capital, Mandiri Capital Indonesia และ Salt Ventures ที่มาร่วมลงทุนรอบนี้ในฐานะผู้ลงทุนรายใหม่

มร.ฮาร์เชต ลูนานี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Qoala กล่าวว่า “อินโดนีเซีย ไทย และมาเลเซีย จะติดอันดับท็อป 10 ของตลาดประกันภัยสากลที่เติบโตเร็วที่สุดในทศวรรษหน้า เราจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในการขยายธุรกิจสู่ตลาดหลัก รวมถึงให้ความสำคัญกับการยกระดับประสิทธิภาพเทคโนโลยีและประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ของเราเพื่อช่วยลดข้อจำกัดการเข้าถึงบริการประกันภัยได้อย่างมาก ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในธุรกิจนี้”