ถอดรหัส ‘ฟินแลนด์’ ดินแดนแห่งป่าไม้ จัดการทรัพยากร 75% ของประเทศอย่างไรให้ยั่งยืน

เมื่อพูดถึงฟินแลนด์ ภาพของทะเลสาบนับพันแห่งและผืนป่าอันกว้างใหญ่คงปรากฏขึ้นมาเป็นอันดับแรก เพราะประเทศนี้มีพื้นที่ป่าปกคลุมมากถึง 75% ของประเทศ หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของพื้นที่ป่าในยุโรป 

ป่าของฟินแลนด์ซึ่งไม่เพียงเป็นหัวใจของเศรษฐกิจที่สร้างรายได้มหาศาล (ปี 2567 อุตสาหกรรมป่าไม้มีมูลค่าส่งออกถึง 17% ) แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณ ความหลากหลายทางชีวภาพ และวิถีชีวิตของผู้คน 

เบื้องหลังความสำเร็จที่ทำให้ฟินแลนด์กลายเป็นต้นแบบการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนระดับโลก คือการผสมผสานระหว่าง 'วัฒนธรรมรักป่า' ที่หยั่งรากลึกลงไปในวิถีชีวิต กับ 'นโยบายและเทคโนโลยี' ที่ล้ำสมัย 

สมดุลระหว่าง รัฐ เอกชน และธรรมชาติ

การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของฟินแลนด์นั้นเป็น Case Study ที่น่าสนใจมาก เพราะป่าไม้ของฟินแลนด์กว่า 60% เป็นของเอกชน ขณะที่รัฐโดยกระทรวงเกษตรและป่าไม้ จะเป็นผู้กำกับดูแลผ่านนโยบายและกฎหมายที่เข้มแข็ง เพื่อสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ การรักษาสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม 

ไม่ใช่แค่ตัดแล้วปลูก แต่คือการ "เข้าใจป่า"

ฟินแลนด์ไม่ได้มองป่าเป็นแค่แหล่งไม้ แต่เป็นระบบนิเวศที่ต้องดูแลอย่างชาญฉลาด  โดยมีแนวปฏิบัติที่น่าสนใจหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น 

  • กฎหมายกำหนดชัดเจนว่าทุกครั้งที่มีการตัดไม้ จะต้องมีการปลูกต้นไม้ใหม่ทดแทน เพื่อให้ปริมาณต้นไม้ในป่าเติบโตมากกว่าที่ถูกตัดออกไปในแต่ละปี 
  • ทำป่าไม้แบบใกล้ชิดธรรมชาติ (Close-to-Nature Forestry) โดยสนับสนุนให้ระบบนิเวศทำงานของมันเอง เช่น ปล่อยให้ต้นไม้บางส่วนย่อยสลายตามธรรมชาติเพื่อเป็นอาหารให้สิ่งมีชีวิตอื่น หรือสงวนพื้นที่พุ่มไม้ไว้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า 
  • การใช้การจัดการกับธรรมชาติ เช่น การสร้างแนวกันชนตามลำธารหรือแหล่งน้ำ และปารปล่อยท่อนไม้ผุพังภายในป่าเพื่อรักษาสมดุล และส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ
  • ออกบัญญติป่าไม้ โดยกำหนดเรื่องการปลูกป่าและการใช้ประโยชน์จากป่าหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีโครงการของภาครัฐเพื่อชักจูงใจการสงวนพื้นที่ป่าที่มีคุณค่า 
  • ใช้ประโยชน์หลายอย่างจากป่า มองป่าเป็นธรรมชาติสำคัญ ไม่ใช่เป็นเพียงแหล่งผลิตไม้เท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่รองรับกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ด้วย เช่น การพักผ่อน การเก็บผลม้ป่า การล่าสัตว์ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ไปจนถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ
  • มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายดาวเทียม หรือระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) เพื่อใช้สำรวจความสมบูรณ์ของป่า วางแผนการเก็บเกี่ยว และทำให้แน่ใจว่าการจัดการทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานสากล 

ปัจจุบันฟินแลนด์มีการจัดการป่าไม้ตามแนวทางของพันธสัญญาความยั่งยืนของอุตสาหกรรมป่าไม้ พ.ศ. 2568 (Forest Industry Sustainability Commitments 2025) ที่มุ่งเน้นความสมดุลระหว่างการใช้ป่าไม้และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม 

นอกจากนี้ ปัจจัยอื่น ๆ ที่เอื้อต่อความยั่งยืนของป่าไม้ในฟินแลนด์ยังมาจากอัตราการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีน้อยเมื่อเทียบกับหลายประเทศในยุโรป และการตัดไม้ทำลายป่าในฟินแลนด์ส่วนใหญ่เกิดจากการเกษตรและการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การทำอุตสาหกรรมป่าไม้จึงสามารถช่วยวางรากฐานให้ป่าไม้ยังคงเป็นป่าต่อไปและได้รับการจัดการอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 

ยุทธศาสตร์ป่าไม้แห่งชาติ 2035 ความเป็นอยู่ที่ดีต้องมาจากป่าไม้

ล่าสุด รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศใช้ ยุทธศาสตร์ป่าไม้แห่งชาติซึ่งมีเวลาบังคับใช้ถึงปี 2578 (National Forest Strategy 2035) ซึ่งเป็นแผนแม่บทที่มุ่งสร้าง 'ความเป็นอยู่ที่ดีทั้งจากป่าไม้และเพื่อป่าไม้' โดยครอบคลุมตั้งแต่การสนับสนุนผู้ประกอบการ การใช้ประโยชน์จากป่าอย่างคุ้มค่า, การพัฒนาป่าไม้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ และปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดี ไปจนถึงการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ  พร้อมกับการพัฒนาภาคป่าไม้ด้วยความรู้ และเครื่องมือที่ทันสมัย

ทั้งหมดนี้เชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Agenda 2030) และความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่ไปกับการรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ การสร้างนวัตกรรมจากทรัพยากรหมุนเวียน และการอนุรักษ์ระบบนิเวศได้อย่างสมดุล 

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของฟินแลนด์ก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขากำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่น่ากังวลที่สุดคือข้อมูลจากสถาบันวิจัยศูนย์วิจัยทางเทคนิคแห่งฟินแลนด์ (Teknologian tutkimuskeskus, VTT), สถาบันทรัพยากรธรรมชาติฟินแลนด์ (Luonnonvarakeskus, Luke) และสถาบันสิ่งแวดล้อมฟินแลนด์ (Suomen Ympäristökeskus, Syke) 

ซึ่งบ่งชี้ว่า เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2578 อาจเป็นไปได้ยาก สาเหตุหลักมาจากอัตราการตัดไม้ที่สูงขึ้น ประกอบกับความไม่แน่นอนของมาตรการดักจับคาร์บอน ซึ่งอาจทำให้ป่าไม้ของฟินแลนด์เปลี่ยนสถานะจากแหล่งดูดซับคาร์บอน กลายเป็น แหล่งปล่อยคาร์บอนสุทธิเสียเอง นี่คือโจทย์ใหญ่ที่ส่งผลให้รัฐบาลฟินแลนด์ต้องเร่งปรับนโยบายเพื่อรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมให้ได้ 

อ้างอิง : ข้อมูลจาก สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

แว่นตาแห่งอนาคต ปรับโฟกัสอ่านใกล้-ไกล อัตโนมัติ ซ่อนเทคโนโลยีไว้ใต้กรอบแว่น ราคายังไม่เปิด แต่บริษัทเผยว่าแพง

IXI เปิดตัวแว่นอัจฉริยะที่ปรับโฟกัสตามดวงตาอัตโนมัติ ใส่สบาย น้ำหนักเบา ดีไซน์เหมือนแว่นปกติ แต่เทคโนโลยีล้ำสุด...

Responsive image

Suno ขึ้นแท่น 'ยูนิคอร์น' เต็มตัว หลังระดมทุนรอบล่าสุด ดันมูลค่าบริษัทแตะ 2.45 พันล้านดอลลาร์

Suno บริษัทสตาร์ทอัพด้านดนตรีที่ใช้เทคโนโลยี AI ประกาศระดมทุนรอบล่าสุดได้ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าบริษัทขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.45 พันล้านดอลลาร์...

Responsive image

ปฏิวัติวงการวัสดุศาสตร์! นักวิจัยสร้าง ‘Structural Color’ เปลี่ยนสีได้ดั่งใจ ไม่พึ่งสารเคมี

นักวิจัย University of Florida พัฒนาวัสดุอัจฉริยะเปลี่ยนสีได้ทันทีด้วย Vanadium Dioxide ไม่ง้อสีย้อมเคมี ใช้หลักการ Structural Color ประยุกต์ใช้ได้ทั้งสิ่งทอ แฟชั่น และชุดพรางตัวทห...